มอสโก, รัสเซีย – วันที่ 6 พฤษภาคม สำนักข่าวต่างประเทศรายงานว่า ทางการรัสเซียได้สั่งปิดให้บริการสนามบินหลัก 4 แห่งในกรุงมอสโกเป็นการชั่วคราวในช่วงเช้าตรู่ของวันนี้ หลังเผชิญเหตุโจมตีด้วยโดรนติดต่อกันเป็นคืนที่สอง อย่างไรก็ตาม สนามบินได้กลับมาเปิดให้บริการตามปกติในเวลาต่อมา

เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นเพียงไม่กี่วันก่อนที่รัสเซียจะมีการเฉลิมฉลองวันแห่งชัยชนะในยุโรป (Victory Day) ซึ่งตรงกับวันที่ 8 พฤษภาคม เพื่อรำลึกถึงชัยชนะเหนือนาซีเยอรมนีในสงครามโลกครั้งที่สอง

นายเซอร์เก โซเบียนิน นายกเทศมนตรีกรุงมอสโก เปิดเผยผ่านช่องทางออนไลน์ว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถทำลายโดรนของยูเครนได้อย่างน้อย 19 ลำ ซึ่งพุ่งเป้ามายังกรุงมอสโกจากหลายทิศทาง แม้จะไม่ได้รับรายงานผู้บาดเจ็บหรือเสียชีวิต แต่ก็มีเศษซากโดรนบางส่วนตกใส่ทางหลวงสายหลักที่มุ่งหน้าสู่เมืองหลวง

ขณะที่กระทรวงกลาโหมรัสเซียระบุว่า ระบบป้องกันภัยทางอากาศสามารถทำลายโดรนของยูเครนได้ถึง 105 ลำทั่วประเทศเมื่อคืนที่ผ่านมา และอีก 26 ลำเมื่อคืนก่อนหน้า โดยอ้างว่าเป็นความพยายามโจมตีของยูเครน อย่างไรก็ตาม ทางการยูเครนยังไม่ได้แสดงความเห็นอย่างเป็นทางการต่อเหตุการณ์โจมตีในกรุงมอสโก

ในทางกลับกัน นายกเทศมนตรีเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน กล่าวว่ารัสเซียได้ส่งโดรนโจมตีเมืองคาร์คิฟอย่างหนักเมื่อคืนวันจันทร์ที่ผ่านมา เช่นเดียวกับการโจมตีในพื้นที่อื่นๆ รวมถึงกรุงเคียฟด้วย

รายงานความสูญเสียทหารรัสเซียปี 2024 พุ่งสูงสุด

ในบริบทที่เกี่ยวข้องกับการสู้รบระหว่างรัสเซียและยูเครน สำนักข่าวบีบีซีรายงานผลการรวบรวมข้อมูลที่น่าสนใจ ระบุว่า ปี 2567 ถือเป็นปีที่กองทัพรัสเซียประสบความสูญเสียชีวิตทหารมากที่สุดนับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานยูเครนอย่างเต็มรูปแบบเมื่อกว่า 3 ปีก่อน

จากการรวบรวมข้อมูลแบบโอเพนซอร์สจากสุสาน อนุสรณ์สถาน และใบมรณบัตร โดยความร่วมมือระหว่างบีบีซีรัสเซียเซอร์วิส มีเดียโซน่า และทีมอาสาสมัคร สามารถระบุชื่อทหารรัสเซียที่เสียชีวิตได้แล้วอย่างน้อย 106,745 นาย ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่บีบีซีประเมินในปี 2567 อยู่ที่อย่างน้อย 45,287 ราย ซึ่งสูงกว่าปีแรกของสงครามเกือบ 3 เท่า และสูงกว่าปี 2566 อย่างมีนัยสำคัญ

ผู้เชี่ยวชาญทางทหารประเมินว่า ตัวเลขผู้เสียชีวิตที่ระบุชื่อได้อาจครอบคลุมความสูญเสียจริงเพียงประมาณร้อยละ 45-65 ซึ่งหมายความว่า ตัวเลขความสูญเสียชีวิตทหารรัสเซียที่แท้จริงนับตั้งแต่เริ่มสงคราม อาจสูงถึง 164,223 ถึง 237,211 ราย