ภูมิธรรม ลั่น! เสียใจเหตุรุนแรงใต้ ยันเจรจาได้ หากหยุดยิง-ไม่แบ่งแยกดินแดน พร้อมตอบโต้เด็ดขาด
ทำเนียบรัฐบาล – นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัวประชาชนทั้งชาวไทยพุทธและชาวไทยมุสลิม ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นรายวันในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ยืนยันการใช้ความรุนแรงไม่ได้ช่วยแก้ปัญหาใดๆ ซ้ำยังเป็นการกระทำที่ไร้มนุษยธรรมอย่างยิ่ง โดยเฉพาะการมุ่งทำร้ายพระสงฆ์ สามเณร เด็ก คนชรา และผู้พิการ
นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลพร้อมเร่งแก้ปัญหาดังกล่าว โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ทหาร ตำรวจ และฝ่ายปกครอง ปฏิบัติการเชิงรุกในพื้นที่ ซึ่งหมายถึงการเพิ่มความเข้มงวดในการตั้งด่าน การเคลื่อนที่เร็วเข้าสู่พื้นที่เป้าหมายที่มีความเสี่ยง และส่งกำลังพลเข้าไปดูแลความปลอดภัยของประชาชนทั้งสองศาสนาอย่างเต็มที่
รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.กลาโหม เปิดเผยถึงความคืบหน้าการเจรจาสันติสุขว่า หลังจากการพูดคุยกันระหว่างผู้นำระดับสูงของไทยและมาเลเซีย ตนได้มีโอกาสพบกับผู้อำนวยความสะดวกจากฝ่ายมาเลเซียแล้ว โดยได้ย้ำถึงจุดยืนและเงื่อนไขสำคัญ 3 ประการสำหรับการเริ่มต้นการเจรจา คือ
ประการแรก ต้องยุติการใช้ความรุนแรงอย่างแท้จริง หากยังคงมีการก่อเหตุ ย่อมเป็นเรื่องยากที่จะเดินหน้าพูดคุยกันได้ ผู้ก่อเหตุต้องพิสูจน์ให้เห็นว่าสามารถควบคุมสถานการณ์และหยุดการใช้ความรุนแรงได้ ไม่ใช่การใช้ความรุนแรงเป็นเครื่องมือต่อรอง หรือเล่นเกมการเมืองโดยการก่อเหตุแล้วออกแถลงการณ์ประณามตัวเอง ซึ่งไม่มีความหมาย
ประการที่สอง รัฐบาลไทยยอมรับในสังคมพหุวัฒนธรรมที่ชาวไทยพุทธและไทยมุสลิมสามารถอยู่ร่วมกันได้ ซึ่งฝ่ายผู้ก่อเหตุจะต้องยอมรับในหลักการนี้ด้วย ปัญหาความรุนแรงที่เกิดขึ้นมีสาเหตุมาจากการพยายามแบ่งแยกดินแดน ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลไม่ยอมรับ
ประการที่สาม การเจรจาจะต้องอยู่ภายใต้กรอบของกฎหมายรัฐธรรมนูญไทย ที่มีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข และรัฐไทยเป็นรัฐเดี่ยว แบ่งแยกมิได้ ดังนั้น การเจรจาเพื่อจัดตั้งรัฐปาตานี หรือรัฐอิสระใดๆ รัฐบาลไม่พร้อมพูดคุยด้วย แต่หากเป็นการหารือถึงแนวทางการอยู่ร่วมกัน การให้ประชาชนในพื้นที่มีส่วนร่วมในการบริหารจัดการ หรือการปกครองตนเองภายใต้รัฐธรรมนูญไทย รัฐบาลยินดีรับฟังและพร้อมพูดคุยในรูปแบบใดก็ได้
นายภูมิธรรม กล่าวตอบโต้กรณีมีการเผยแพร่ใบปลิวข่มขู่ว่าจะทำร้ายประชาชนไทยพุทธและพระสงฆ์เพิ่มขึ้น ว่า นี่คือการโฆษณาชวนเชื่อทางการเมือง และเป็นการพิสูจน์ให้ประชาชนเห็นว่าวิธีการดังกล่าวถูกต้องหรือไม่ การกระทำเช่นนี้ยิ่งแสดงให้เห็นถึงความไร้มนุษยธรรม และมองชีวิตผู้คนไม่ต่างจากสิ่งของ ซึ่งจะยิ่งสร้างปัญหา ตนยืนยันว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุไม่สามารถทำได้ตามที่ขู่ เพราะรัฐบาลได้ปรับกำลังและเพิ่มหน่วยเคลื่อนที่เร็วเข้าคุ้มครองพื้นที่ชาวไทยพุทธอย่างใกล้ชิด โดยได้มีการหารือกับผู้บัญชาการทหารบกอย่างต่อเนื่อง
รองนายกรัฐมนตรี มองว่าพื้นที่ภาคใต้มีศักยภาพในการพัฒนาเศรษฐกิจอย่างมหาศาล หากไทยและมาเลเซียร่วมมือกันและสามารถยุติความรุนแรงเพื่อสร้างความมั่นคงได้ ก็จะมีนักลงทุนพร้อมเข้ามาจำนวนมาก ซึ่งตนมีแผนจะพูดคุยกับฝ่ายมาเลเซียในประเด็นนี้ด้วย
นายภูมิธรรม ย้ำว่า การใช้กำลังของรัฐไม่ใช่การมุ่งสังหารผู้คน แต่เป็นการปกป้องคุ้มครองชีวิตและทรัพย์สินของประชาชนในพื้นที่ให้ได้รับความปลอดภัยสูงสุด โดยในวันพรุ่งนี้ (7 พฤษภาคม 2568) ตนได้มอบหมายให้รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหมลงพื้นที่สามจังหวัดชายแดนใต้ เพื่อให้กำลังใจและดูแลเจ้าหน้าที่ทุกฝ่าย ทั้งตำรวจ ทหาร และฝ่ายปกครอง
สุดท้าย นายภูมิธรรม วิงวอนให้ประชาชนเข้าใจและเห็นใจเจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติงาน ซึ่งกำลังเสี่ยงชีวิตแก้ไขปัญหา ขออย่าหลงประเด็นที่ถูกบิดเบือน ประเด็นสำคัญคือการไม่ควรมีการเข่นฆ่าประชาชน หากไม่มีเหตุการณ์นี้แล้วจึงจะสามารถพูดคุยกันได้ แต่หากยังคงใช้ความรุนแรงเพื่อบีบรัฐบาล ยืนยันว่าจะไม่ยอม และจะดำเนินการอย่างเด็ดขาดและแข็งกร้าว เพื่อความปลอดภัยของพี่น้องประชาชน