อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ เปิดใจป่วย ‘แพ้ภูมิกล้ามเนื้อตัวเอง’ หลังหายมะเร็ง ย้ำดูแลตัวเอง ไม่ท้อ

อรอนงค์ ปัญญาวงศ์ อดีตนางสาวไทยและนักแสดงมากความสามารถ ได้ออกมาอัปเดตอาการป่วยล่าสุด หลังจากก่อนหน้านี้เคยเข้ารับการรักษาโรคมะเร็งต่อมไทมัสจนหายดี และตรวจไม่พบค่ามะเร็งแล้ว

ล่าสุด อรอนงค์ ได้เดินทางมาร่วมงานพิธีบวงสรวงแห่งหนึ่งที่วัดน้อมประชาสรรค์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา และได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนถึงสุขภาพของเธอ ซึ่งแม้ว่ามะเร็งจะสงบลงแล้ว แต่กลับตรวจพบโรคใหม่คือ ‘โรคแพ้ภูมิกล้ามเนื้อตัวเอง’ หรือที่รู้จักในชื่อทางการแพทย์ว่า Myasthenia Gravis ซึ่งเป็นโรคที่ระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายเข้าทำลายกล้ามเนื้อตัวเอง

อรอนงค์ เผยว่า จากการตรวจสุขภาพล่าสุดด้วยการทำซีทีสแกน พบว่ามะเร็งในร่างกายยังคงสงบนิ่งดี แต่โรคแพ้ภูมิกล้ามเนื้อตัวเองที่พบนั้น คุณหมอก็ให้การดูแลอย่างใกล้ชิด โดยโรคนี้ตรวจพบเร็วขึ้นหลังจากที่เธอเข้ารับการผ่าตัดมะเร็งต่อมไทมัสและมีการตรวจเลือดติดตามผลอยู่เป็นระยะ ซึ่งถือเป็นความโชคดีที่ทำให้ได้รับการรักษาทันท่วงที เพราะคุณหมอชี้ว่า บางรายกว่าจะรู้ก็มีอาการหนักแล้วและค่าการอักเสบในเลือดสูงมาก

การรักษาโรคแพ้ภูมิกล้ามเนื้อตัวเองของเธอในปัจจุบันคือการทานยากดภูมิคุ้มกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อไม่ให้ภูมิคุ้มกันที่ผิดปกติไปทำลายกล้ามเนื้อที่สำคัญ เช่น กล้ามเนื้อปอดและหัวใจ เธอต้องดูแลสุขภาพให้แข็งแรงอยู่เสมอ และพยายามหลีกเลี่ยงปัจจัยกระตุ้นต่างๆ เช่น ความร้อน มลพิษ โดยเฉพาะฝุ่นละออง รวมถึงอาการป่วยเล็กน้อยอย่างหวัด ไอ เจ็บคอ หรือรู้สึกหายใจไม่เต็มปอด ก็ต้องรีบพบแพทย์ทันที

เมื่อถูกถามว่ารู้สึกท้อหรือไม่ อรอนงค์ตอบอย่างหนักแน่นว่าไม่ท้อ เพราะทุกคนล้วนมีโอกาสที่จะเจ็บป่วย สิ่งสำคัญที่สุดคือการดูแลตัวเองให้ดีที่สุดเท่าที่จะทำได้ และที่สำคัญยิ่งกว่าคือ ‘กำลังใจ’ การไม่วิตกกังวลหรือนอยด์กับโรคจะช่วยรักษาสุขภาพจิตให้ดี ซึ่งส่งผลดีต่อสุขภาพกายโดยรวม การมีสุขภาพจิตที่ดีจะไม่ก่อให้เกิดโรคใหม่ๆ ตามมา

แม้จะต้องทานยากดภูมิ แต่เธอยืนยันว่าการใช้ชีวิตประจำวันไม่ได้เปลี่ยนไปมาก ยังคงใช้ชีวิตตามปกติ สามารถทำงานได้ และอาการต่างๆ ก็ยังไม่รุนแรงจนกระทบงาน เพียงแต่ต้องระมัดระวังตัวมากขึ้น เช่น หากเจออากาศร้อนจัดอาจมีอาการปวดหัวคล้ายไมเกรนได้

สำหรับโอกาสที่จะหายขาดจากโรคนี้ คุณหมอแจ้งว่า โรคแพ้ภูมิกล้ามเนื้อตัวเองที่เกี่ยวข้องกับต่อมไทมัสที่ถูกตัดออกไปนั้น จะไม่หายขาด แต่จะไม่รุนแรงมากขึ้นหากรักษาสุขภาพให้แข็งแรง และทานยาควบคุมค่าการอักเสบในเลือดให้อยู่ในเกณฑ์ปกติ เธอยังต้องไปพบแพทย์เพื่อตรวจเลือดทุก 2 เดือน เพื่อติดตามค่าการอักเสบ ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้สำคัญ ส่วนเรื่องอาหาร การทานยาก็ทานได้ตามปกติ แต่ควรเลี่ยงอาหารหมักดอง อาหารดิบ เช่น ซูชิ หรือปลาดิบ

กำลังใจสำคัญ อรอนงค์ได้มาจากครอบครัวและลูกๆ เธอยังคงใช้ชีวิตและเดินทางไปไหนมาไหนกับลูกตามปกติ เธอบอกว่าเข้าใจสัจธรรมของชีวิตว่าการเกิดแก่เจ็บตายเป็นเรื่องธรรมดา จึงอยากใช้ชีวิตอยู่กับคนที่รักอย่างมีความสุขและมีคุณภาพชีวิตที่ดี เธอไม่ได้รู้สึกปลงจนหมดกิเลส แต่จะไม่ใช้ชีวิตด้วยความประมาท และดูแลตัวเองมากขึ้น

เธอยังได้ส่งกำลังใจถึงผู้ป่วยมะเร็ง โดยเฉพาะผู้ที่ตรวจพบในระยะเริ่มต้นว่า มะเร็งในยุคปัจจุบันไม่น่ากลัวเท่าการใช้ชีวิตอย่างประมาท หากรู้เร็วในระยะ 1-2 ก็มีโอกาสหายได้สูง เหมือนกับตัวเธอเองที่ฉายรังสีถึงกว่า 30 ครั้งก็ยังรักษาหายได้ วิวัฒนาการทางการแพทย์ในปัจจุบันมีความก้าวหน้ามาก มะเร็งจึงไม่ใช่เรื่องที่ต้องกลัวเท่ากับการดูแลชีวิตของตัวเอง

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *