เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ทุ่มงบมหาศาล ยกระดับประตูน้ำ สู่ฮับแฟชั่นระดับโลก ผุดโปรเจกต์ ‘เดอะ แพลทินัม สแควร์’
กรุงเทพฯ – บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ตอกย้ำตำแหน่งผู้นำธุรกิจค้าส่งค้าปลีกสินค้าแฟชั่น ประกาศแผนการลงทุนครั้งใหญ่ เพื่อขยายอาณาจักรและเสริมความแข็งแกร่งในทำเลทองย่านประตูน้ำ ด้วยการเปิดตัวโครงการมิกซ์ยูสขนาดใหญ่ “เดอะ แพลทินัม สแควร์” ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญในการผนึกกำลังกับศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ยกระดับพื้นที่ประตูน้ำให้กลายเป็นศูนย์กลางการค้าและฮับแฟชั่นอันดับ 1 แห่งภูมิภาคอาเซียน
นายสุรชัย โชติจุฬางกูร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) เปิดเผยถึงแผนการลงทุนที่ประกาศไว้เมื่อปี 2567 มูลค่ารวมกว่า 7,800 ล้านบาท ว่า โครงการเดอะ แพลทินัม สแควร์ ซึ่งตั้งอยู่บนทำเลศักยภาพสูงย่านประตูน้ำ มีเป้าหมายเพื่อขยายอาณาจักรธุรกิจของกลุ่มบริษัทฯ ให้เติบโตอย่างมั่นคง การรวมศักยภาพกับศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ จะช่วยปลุกพลังย่านธุรกิจค้าส่งค้าปลีกแฟชั่นระดับประเทศ ตอกย้ำการเป็นจุดหมายสำคัญที่พร้อมดึงดูดกำลังซื้อจากนักช้อปทั่วโลก
ปัจจุบัน ฐานลูกค้าของศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์ ประกอบด้วยนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึง 70% โดยเฉพาะจากอินโดนีเซีย อินเดีย ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย และเวียดนาม ขณะที่ลูกค้าชาวไทยคิดเป็น 30% นอกจากนี้ การพัฒนารถไฟฟ้าสายสีส้มที่อยู่ระหว่างการก่อสร้างและคาดว่าจะแล้วเสร็จพร้อมให้บริการในปี 2573 จะยิ่งเพิ่มศักยภาพและทำให้ย่านประตูน้ำคึกคักขึ้นอีกหลายเท่าตัว
เมื่อโครงการมิกซ์ยูส เดอะ แพลทินัม สแควร์ พัฒนาแล้วเสร็จ เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป จะมีอาณาจักรธุรกิจอสังหาริมทรัพย์และโรงแรมที่ครบวงจรในบริเวณที่เรียกว่า ‘ย่านแพลทินัมดิสทริค’ ซึ่งจะประกอบด้วย ศูนย์การค้าแพลทินัม แฟชั่น มอลล์, โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ และโครงการใหม่ในอนาคต คือ ศูนย์การค้าเดอะ แพลทินัม สแควร์ และ โรงแรม มาม่า เชลเตอร์ แบงคอก แพลทินัม
สำหรับโครงการมิกซ์ยูส “เดอะ แพลทินัม สแควร์” ตั้งอยู่บนพื้นที่ 7 ไร่ บริเวณสี่แยกประตูน้ำ ประกอบด้วยส่วนศูนย์การค้าและโรงแรม ออกแบบภายใต้แนวคิดหลัก ‘Spectrum of Fashion’ เพื่อสะท้อนความหลากหลายของแฟชั่น อาคารมีความสูง 48 ชั้น แบ่งเป็นพื้นที่ศูนย์การค้า 4 ชั้น และพื้นที่โรงแรม 35 ชั้น พร้อมอาคารจอดรถ 4 ชั้น รองรับได้ 613 คัน มีพื้นที่ใช้สอยอาคารรวมประมาณ 100,000 ตร.ม. มูลค่าเฉพาะค่าก่อสร้างอยู่ที่ราว 3,950 ล้านบาท โครงการได้ทำพิธีลงเสาเอกและเริ่มการก่อสร้างแล้วเมื่อวันที่ 1 เมษายน 2568 คาดว่าส่วนศูนย์การค้าจะแล้วเสร็จและเปิดให้บริการได้ประมาณปี 2571
ภายในศูนย์การค้าจะรวบรวมพันธมิตรผู้ประกอบการสินค้าแฟชั่นทั้งค้าส่งและค้าปลีก ตั้งแต่บิ๊กแบรนด์ไปจนถึงผู้ค้ารายย่อย (SMEs) รวมถึงร้านอาหารเครื่องดื่ม และบริการอื่นๆ เพื่อมอบประสบการณ์ช้อปปิ้งครบวงจร
หนึ่งในไฮไลท์สำคัญคือการเปิดตัว “มาม่า เชลเตอร์ แบงคอก แพลทินัม” โรงแรมแบรนด์ไลฟ์สไตล์ชื่อดังครั้งแรกในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเป็นการร่วมมือกับ เอนนิสมอร์ ผู้ให้บริการด้านไลฟ์สไตล์และการพักผ่อนในเครือแอคคอร์ โรงแรมแห่งนี้มีจำนวน 578 ห้องพัก โดดเด่นด้วยการตกแต่งภายในที่ได้รับแรงบันดาลใจจากสีสันและพลังของกรุงเทพฯ ผสมผสานงานศิลปะกราฟฟิตี้ มีสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน อาทิ ร้านอาหาร บาร์ กีฬาสปอร์ตบาร์ เกมโซน Mama Play บาร์ริมสระว่ายน้ำ ห้องประชุม และกิจกรรมต่างๆ คาดว่าจะเปิดให้บริการประมาณปี 2572
นอกจากโครงการใหม่ เดอะ แพลทินัม กรุ๊ป ยังให้ความสำคัญกับการพัฒนาและยกระดับการบริการในธุรกิจโรงแรมปัจจุบัน ซึ่งเป็นหัวใจสำคัญของการท่องเที่ยวไทย
โรงแรมโนโวเทล กรุงเทพ แพลทินัม ประตูน้ำ จำนวน 288 ห้อง บริหารโดยแอคคอร์ ได้ทำการปรับปรุงบริการด้านอาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงการตกแต่งภายในใหม่ โดยนำเทคโนโลยีและความมีชีวิตชีวาของย่านประตูน้ำมาผสมผสานกับธรรมชาติ โรงแรมมีอัตราเข้าพักสูงถึง 94% ในปี 2567 มีรายได้เพิ่มขึ้น 16% จากปี 2566 และได้รับการรับรองมาตรฐาน Green Key Certification ที่แสดงถึงการดำเนินธุรกิจที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
โรงแรมม็อกซี่ แบงคอก ราชประสงค์ จำนวน 504 ห้อง ซึ่งเป็นโรงแรมม็อกซี่ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียแปซิฟิก (ไม่รวมจีน) บริหารโดยเครือแมริออท อินเตอร์เนชันแนล ได้รับกระแสตอบรับที่ดีมากตั้งแต่เปิดตัวเมื่อวันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2567 ด้วยประสบการณ์ที่สนุกสนานและแปลกใหม่ และกำลังเตรียมเปิดให้บริการบาร์บนชั้นดาดฟ้า (Rooftop Bar) บริเวณชั้น 32 ในไตรมาสที่ 4 ปี 2568 นี้ เพื่อเป็นแหล่งแฮงค์เอาท์แห่งใหม่ใจกลางเมือง
โรงแรมฮอลิเดย์ อินน์ รีสอร์ท สมุย จำนวน 203 ห้อง บริหารโดยเครือ IHG Hotel & Resort โดดเด่นด้วยทำเลติดหาดบ่อผุดและใกล้ชุมชนชาวประมง เน้นสิ่งอำนวยความสะดวกสำหรับครอบครัวและเด็กๆ โดยเฉพาะ เช่น พื้นที่เล่นกว่า 800 ตร.ม. สวนน้ำ Splash Pad และกิจกรรมเสริมจินตนาการต่างๆ
พร้อมกันนี้ บริษัทยังมีแผนยกเครื่องศูนย์การค้าเดอะ มาร์เก็ต แบงคอก ครั้งใหญ่ ซึ่งอยู่ระหว่างเตรียมแผนงาน
สำหรับผลประกอบการของบริษัทในปี 2567 มีรายได้รวม 2,558 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 38% จากปีก่อน ซึ่งได้รับแรงสนับสนุนสำคัญจากภาคบริการและการท่องเที่ยวที่ขยายตัวอย่างต่อเนื่อง บริษัทเชื่อมั่นว่าในปี 2568 จะสร้างรายได้เติบโตขึ้นอีก 20% จากปี 2567 และจะเดินหน้าตามแผนธุรกิจด้วยความรอบคอบเพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนต่อไป