เปิดตัว Defender OCTA Edition One 22 ล้านบาท! ออฟโรดตัวท็อปสุดโหด เหลือเพียง 1 คันในไทย
กรุงเทพฯ – ในโอกาสเปิดโชว์รูม Land Rover และ Defender ณ สยามพารากอน ที่ได้รับการปรับปรุงใหม่ด้วยงบประมาณ 10 ล้านบาท ภายใต้แนวคิดมินิมอล ริซึ่ม สิ่งที่สะดุดตาและดึงดูดทุกสายตาภายในงาน คือการปรากฏตัวอย่างสง่างามของ Defender OCTA Edition One ที่จอดเด่นเป็นสง่าอยู่กลางโชว์รูม เผยให้เห็นถึงดีไซน์ที่ดุดันและสมรรถนะสไตล์ออฟโรดพันธุ์แท้
รถยนต์รุ่นพิเศษนี้ได้รับการตกแต่งพิเศษรอบคัน ทั้งภายนอก ภายใน เครื่องยนต์ และช่วงล่าง พร้อมทั้งอัดแน่นด้วยเทคโนโลยีขั้นสุด เพื่อให้เป็นสุดยอดรถออฟโรดสายลุยที่พร้อมพิชิตทุกเส้นทาง
ดีไซน์ภายนอกดุดัน บึกบึน
ภายนอกของ Defender OCTA Edition One ถูกออกแบบให้ดูดุดันและบึกบึนยิ่งกว่ารุ่นปกติ มาพร้อมกระจังหน้าใหม่ทั้งส่วนบนและล่างสีดำเงา ช่องระบายอากาศมีขนาดใหญ่ขึ้น ตราสัญลักษณ์ Defender ทำจากคาร์บอนไฟเบอร์ ไฟหน้าแบบ LED Matrix พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวันดีไซน์เป็นเอกลักษณ์ ติดตั้งราวหลังคาสีดำ และหลังคาแบบพาโนรามิค รูฟ
จุดเด่นที่เสริมสมรรถนะการลุยคือ การขยายซุ้มล้อให้มีความกว้างเพิ่มขึ้น และยกตัวรถให้สูงขึ้นกว่ารุ่นปกติ ทำให้เจ้า Defender OCTA Edition One สามารถลุยน้ำได้ลึกถึง 1 เมตร บริเวณกันชนท้ายได้รับการออกแบบใหม่ พร้อมติดตั้งท่อไอเสีย 4 ท่อ เติมเต็มอารมณ์ความสปอร์ตมากยิ่งขึ้น
ใต้ท้องรถติดตั้งแผ่นป้องกันการกระแทก ทำจากอะลูมิเนียมอัลลอยเคลือบกราไฟต์ นอกจากจะช่วยปกป้องช่วงล่างแล้ว ยังช่วยเสริมความเท่ให้ตัวรถได้อย่างลงตัว
ล้ออัลลอยขนาด 20 นิ้ว ลายพิเศษ Style 1086 สี Diamond Turned Satin Dark Tint พร้อมคอนทราสต์สีดำ Satin ติดตั้งยาง Goodyear Advanced All Terrain ขนาด 33 นิ้ว ซึ่งเป็นขนาดใหญ่ที่สุดเท่าที่เคยมีมาใน Defender ระบบเบรกได้รับการปรับปรุงใหม่ มาพร้อมดิสก์เบรกหน้าขนาดใหญ่ 400 มม. และคาลิปเปอร์ Brembo สีบรอนซ์ฟอสเฟอร์ ฝาท้ายเปิดด้านข้าง ติดตั้งยางอะไหล่ที่ฝาท้ายตามแบบฉบับรถสายลุยตัวจริง
ภายใน Signature พร้อมเทคโนโลยีเสียงสุดล้ำ
ภายในห้องโดยสารตกแต่งแบบ Signature มาพร้อมหน้าจอสัมผัสขนาด 11.4 นิ้ว และจอแสดงผลแบบอินเตอร์แอ๊กทีฟกับผู้ขับขี่ พวงมาลัยดีไซน์สปอร์ต
เบาะคู่หน้าสามารถปรับไฟฟ้าได้ 14 ทิศทาง พร้อมระบบหน่วยความจำ และสามารถปรับอุ่นหรือเย็นได้ วัสดุหุ้มเบาะเป็นตัวเลือกใหม่แบบ Ultrafabrics ซึ่งมีความทนทานกว่าหนังทั่วไปถึง 30% เป็นแบบเจาะรูสีน้ำตาลกากี/ไม้มะเกลือ
ความพิเศษด้านเสียงคือ เบาะนั่งติดตั้งเทคโนโลยี Body and Soul ที่พัฒนาร่วมกับผู้เชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมดนตรีอย่าง SUBPAC และ Coventry University ช่วยให้ผู้ขับขี่และผู้โดยสารตอนหน้ารับสัมผัสมิติเสียงดนตรีได้อย่างใกล้ชิดและสมจริงยิ่งขึ้น
ขุมพลัง V8 Mild Hybrid และช่วงล่างอัจฉริยะ
Defender OCTA Edition One ขับเคลื่อนด้วยขุมพลังเครื่องยนต์เบนซินเทอร์โบชาร์จ V8 ขนาด 4.4 ลิตร พร้อมระบบ Mild hybrid ให้กำลังสูงสุดถึง 635 แรงม้า แรงบิดสูงสุด 750 นิวตัน-เมตร ขับเคลื่อนสี่ล้ออัตโนมัติ สามารถทำความเร็วสูงสุดได้ถึง 210 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และมีอัตราเร่งจาก 0-100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ในเวลาเพียง 4.0 วินาที
ระบบความปลอดภัยติดตั้งมาให้อย่างครบครัน อาทิ ระบบช่วยเบรกฉุกเฉิน (Emergency Brake Assist), ระบบป้องกันล้อล็อกขณะเบรก (ABS), ระบบกระจายแรงเบรกอิเล็กทรอนิกส์ (EBD) และตัววัดการสึกหรอของผ้าเบรก ที่แจ้งเตือนเมื่อถึงเวลาต้องเปลี่ยน
ช่วงล่างแบบ 6D Dynamics เป็นแบบกึ่ง Active ปรับด้วยระบบไฮดรอลิก ช่วยลดการโคลงตัวของรถ และเพิ่มความนุ่มนวลในการขับขี่บนทางขรุขระ มาพร้อมโหมดการขับขี่ OCTA ที่ออกแบบมาเพื่อการลุยสไตล์ออฟโรดโดยเฉพาะ
ระบบนี้ช่วยรีดสมรรถนะของตัวรถออกมาใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ รวมถึงเข้าไปควบคุมระบบเบรก ABS และ Launch Control ทำให้ทั้งการออกตัวและเบรกบนเส้นทางออฟโรดเป็นเรื่องง่าย สามารถขับผ่านอุปสรรคต่างๆ ได้อย่างมั่นใจ
ราคาและจำนวนจำกัด
สำหรับผู้ที่สนใจอยากเป็นเจ้าของ Defender OCTA Edition One ต้องรีบตัดสินใจ เนื่องจากประเทศไทยได้รับโควตามาเพียง 2 คันเท่านั้น และมีเจ้าของจับจองไปแล้ว 1 คัน ทำให้เหลือว่างอยู่เพียง 1 คันสุดท้าย ด้วยค่าตัว 22 ล้านบาทถ้วน
แต่หากคิดว่ายังไม่จำเป็นต้องลุยถึงขีดสุดขนาดนั้น Defender ยังมีรุ่นอื่นๆ ให้เลือกใช้งานอีกหลายรุ่น กับราคาเริ่มต้นที่ 6.999 ล้านบาท สามารถแวะไปชมและทดลองขับได้ที่โชว์รูม Land Rover และ Defender ทั้งที่สยามพารากอน และถนนพระราม 4 ได้ทุกวัน
เขียนโดย กิตติพงศ์ ศรีเจริญ