ชีวิตพลิกผันสุดช้ำ! ‘เจ๊อั๋น’ เมียป๋าต๊อก อดีตเศรษฐีหลายสิบล้าน สู่ชีวิตขายผักใช้หนี้เกือบ 30 ล้าน เผยสาเหตุสุดช้ำ ร่ำไห้ทุกวัน
กรุงเทพฯ – เรื่องราวชีวิตที่พลิกผันราวกับละคร “เจ๊อั๋น” ชุลีพร ภรรยาของตลกในตำนานผู้ล่วงลับ “ป๋าต๊อก” หรือ “ล้อต๊อก” กำลังเผชิญมรสุมชีวิตอย่างหนัก จากอดีตที่เคยร่ำรวยระดับเศรษฐี ถูกลอตเตอรี่นับสิบล้านบาท ตอนนี้ต้องมานั่งขายผักอยู่ในตลาด เพื่อหาเงินใช้หนี้สินจำนวนมหาศาล
เรื่องราวนี้ถูกเปิดเผยผ่านช่อง “เหลือเฟือ ชาแนล” ของตลกดัง “เหลือเฟือ มกจ๊ก” ที่ได้เดินทางไปพูดคุยกับเจ๊อั๋นถึงแผงขายผักในตลาด เจ๊อั๋นเล่าด้วยน้ำเสียงสั่นเครือและร่ำไห้ว่า ไม่เคยคิดว่าชีวิตที่เคยอู้ฟู่ มีเงินเป็นสิบล้าน จะต้องมาพลาดพลั้ง ตกต่ำลงได้อย่างรวดเร็วขนาดนี้
สาเหตุหลักที่ทำให้ชีวิตของเจ๊อั๋นต้องเผชิญวิกฤตหนักคือ การไปช่วยเหลือผู้อื่นด้วยการค้ำประกันเงินกู้ให้คนรู้จักถึง 5 คน ซึ่งสุดท้ายต้องมาแบกรับภาระหนี้สินแทนเกือบ 30 ล้านบาท
“ไม่คิดว่าชีวิตคนเราจะพลาดร่วง ได้เร็วขนาดนั้น มาโดนทีเดียวพร้อมกัน 4-5 เจ้า ตอนนี้ต้องควักเงินเราไปจ่ายแทนคนที่ไปค้ำประกัน เพราะไม่อยากเสียชื่อเรา รวมๆ จริงๆ เกือบ 30 ล้าน เจ็บสาหัส ตอนแรกทำใจไม่ได้ร้องไห้ทุกวันเหมือนคนบ้า เหลืออยู่ 1.8 ล้านเอาไปจ่ายให้รายวันกับพวกที่ทำกับเรา จ่ายจนหมดต้องมาขายผัก” เจ๊อั๋นกล่าว
จากที่เคยจับเงินเป็นล้าน ตอนนี้เจ๊อั๋นต้องนับแบงค์ 20 กว่าจะได้กำไรจากการขายผักกำละสิบบาท เธอยังเล่าถึงบุคคลบางคนที่เธอเคยช่วยเหลืออย่างเต็มที่ “คนหนึ่งเราส่งไปเยอะมาก บางคนปีหนึ่ง ถึง 60 ล้านก็มี”
ปัจจุบัน เจ๊อั๋นต้องมานั่งขายผักอยู่ที่ตลาดวิลล่า คลอง 8 แม้รายได้จากการขายผักจะน้อยนิด กำไรเพียงหลักพันบาท แต่เธอก็ยังคงเจียดแบ่งปันช่วยเหลือผู้อื่นอยู่เสมอ
เจ๊อั๋นยืนยันว่า คำว่า “เมียล้อต๊อก” หรือ “เมียป๋าต๊อก” ยังคงเป็นยิ่งกว่าสมบัติล้ำค่า ทำให้มีผู้ใหญ่ใจดีหลายท่านยื่นมือเข้ามาช่วยเหลือ ทั้งโอนเงินมาให้บ้าง รวมถึง “นิว แมวเซา” จากคณะลิเกศรราม น้ำเพชร ที่ปกติเธอเป็นแม่ยกคอยสนับสนุน แต่กลับเป็นฝ่ายได้รับน้ำใจ ลิเกหนุ่มร้องไห้เข้ามากอดและให้เงินมา 7 พันบาท พร้อมทั้งช่วยสั่งน้ำพริก ซึ่งเป็นอีกหนึ่งอาชีพที่เธอทำเสริม
นอกจากนี้ ผักที่เธอขายยังมีคนใจดีมาเหมาเอาไปแจกจ่ายให้กับคนยากไร้ เพราะเห็นแก่คำว่า “ล้อต๊อก” ขณะที่ลูกชาย “อุ้มบุญ” ซึ่งเป็นลูกชายของป๋าต๊อกกับเจ๊อั๋น ก็ช่วยเหลือครอบครัวด้วยการทอดไก่เขย่าขาย ซึ่งก็ประสบความสำเร็จในแบบของตัวเอง
เจ๊อั๋นเล่าถึงช่วงเดือนสิงหาคมที่ผ่านมาว่าเป็นช่วงเวลาที่เลวร้ายที่สุดในชีวิต ทุกอย่างประดังเข้ามาพร้อมกัน ทั้งรถคว่ำจนติดเชื้อในกระแสเลือด หมดเงินไป 5 แสนบาท วงแชร์ที่เล่นไว้ก็ถูกโกง แต่เธอยืนยันว่าจะไม่ล้ม ต้องสู้ต่อไป จึงตัดสินใจมาขายผัก แม้จะเคยคุยกับลูกชายเรื่องการหนีปัญหา แต่ก็ทำไม่ได้
เกี่ยวกับปัญหาหนี้สินที่ค้ำประกัน เจ๊อั๋นเผยว่า ตอนเซ็นสัญญาไม่ได้รู้รายละเอียดมากนัก แต่ตอนนี้ยอมรับว่ารู้สึกทรมานมากจนถึงขั้นคิดว่า “ยินดีจะติดคุก ติดก็ติดดีกว่ามาทรมานแบบนี้” เธอบอกว่าได้เก็บหลักฐานการส่งเงินให้ลูกหนี้ไว้หมดแล้ว พร้อมที่จะสู้คดีในชั้นศาล เพราะตอนนี้เหลือหนี้ที่ต้องใช้แทนคนที่ค้ำประกันอยู่ประมาณ 7 ล้านบาท หลังจากที่จ่ายแทนไปแล้วกว่า 6 ล้านบาท
เจ๊อั๋นยังเผชิญกับแรงกดดันจากเจ้าหนี้ที่เธออ้างว่าเป็น “คนมีสี” มียศสูง แต่เธอก็ไม่เกรงกลัว พร้อมเผชิญหน้า โดยกล่าวว่า “ไม่กลัวเลย ไม่ได้ท้า แต่ไม่กลัวเลย คุณกินมาตั้งเยอะแล้ว จะมาบีบคั้นอะไรเรา ตอนนี้ไม่มี ตอนนี้กูเหลือแต่ชีวิต ใครจะเอาก็เอาไปเลย”
สำหรับยอดหนี้ 7 ล้านบาทที่เหลือ เจ๊อั๋นบอกว่าไม่สามารถหาเงินเดือนละ 30,000 บาทมาจ่ายได้ไหวอีกแล้ว แม้จะพยายามทำน้ำพริกขายดี แต่ก็ยังไม่พอ เธอบอกว่าพร้อมให้เจ้าหนี้มาด่าถึงตลาด หรือจะมายึดอะไรก็เอาไป ขอแค่ให้เธอได้เริ่มต้นนับหนึ่งใหม่ และยืนยันว่าเข็ดแล้ว จะไม่ช่วยเหลือค้ำประกันทางการเงินให้ใครอีกเด็ดขาด.