เคาะแล้ว! กกต. กำหนด 11 พฤษภาคม 2568 วันเลือกตั้ง ‘นายกฯ-ส.ท.’ ทั่วประเทศ เปิดโอกาสปชช.เลือกผู้นำใกล้บ้าน

กรุงเทพฯ – คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ได้ออกประกาศกำหนดให้วันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม 2568 เป็นวันสำคัญทางการเมืองระดับท้องถิ่น นั่นคือ ‘วันเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาลและนายกเทศมนตรี’ พร้อมกันทั่วประเทศใน 76 จังหวัด หลังจากที่ได้เปิดรับสมัครผู้ลงแข่งขันไปแล้วระหว่างวันที่ 31 มีนาคม ถึง 4 เมษายน ที่ผ่านมา

การเลือกตั้งครั้งนี้ครอบคลุมเทศบาลส่วนใหญ่ทั่วประเทศ เนื่องจากวาระการดำรงตำแหน่ง 4 ปีของนายกเทศมนตรีและสมาชิกสภาเทศบาลชุดปัจจุบัน ซึ่งมาจากการเลือกตั้งเมื่อวันที่ 28 มีนาคม 2564 ได้สิ้นสุดลงแล้วเมื่อวันที่ 27 มีนาคม 2568

ความสำคัญและขอบเขตงานของเทศบาล

เทศบาลถือเป็นองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นระดับย่อยที่มีความสำคัญยิ่ง เป็นกลไกสำคัญในการเชื่อมโยงมิติต่างๆ ทั้งการเมือง เศรษฐกิจ สังคม และชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนเมือง จากระดับท้องถิ่นไปสู่ระดับจังหวัดและระดับประเทศ

ข้อมูลจากกรมส่งเสริมการปกครองท้องถิ่นระบุว่า ปัจจุบันประเทศไทยมีเทศบาลทั้งหมด 2,474 แห่ง ประกอบด้วย เทศบาลตำบล 2,218 แห่ง, เทศบาลเมือง 221 แห่ง, และเทศบาลนคร 35 แห่ง ซึ่งทั้งหมดนี้จะเข้าสู่กระบวนการเลือกตั้งพร้อมกัน

ความโดดเด่นของเทศบาลคือขอบเขตการทำงานที่ใกล้ชิดกับชีวิตประจำวันของประชาชนในพื้นที่มากกว่าองค์การบริหารส่วนจังหวัด (อบจ.) ซึ่งดูแลพื้นที่ที่กว้างกว่าทั้งจังหวัด

ด้วยพื้นที่รับผิดชอบที่จำกัดกว่า ทำให้เทศบาลสามารถดูแลและจัดการปัญหาในชุมชนได้อย่างทั่วถึงและตรงจุด ตัวอย่างภารกิจสำคัญของเทศบาล ได้แก่ การรักษาความสงบเรียบร้อยภายในเขต, การจัดทำบริการสาธารณะพื้นฐาน, การดูแลการจราจร, การส่งเสริมและพัฒนาคุณภาพชีวิตของเด็ก สตรี เยาวชน ผู้สูงอายุ และคนพิการ, การสนับสนุนด้านการศึกษาและฝึกอบรม, การพัฒนาและดูแลเด็กเล็ก, รวมถึงการบำรุงรักษาศิลปะ จารีตประเพณี ภูมิปัญญาท้องถิ่น และวัฒนธรรมอันดีงาม ซึ่งทั้งหมดล้วนส่งผลกระทบโดยตรงต่อคุณภาพชีวิตของผู้ที่อยู่อาศัยในพื้นที่

โอกาสและหน้าที่ของประชาชน

การเลือกตั้งในวันที่ 11 พฤษภาคม 2568 นี้ จึงเป็นโอกาสอันสำคัญยิ่งสำหรับประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลทั่วประเทศ ในการเลือกผู้นำและตัวแทนที่จะเข้ามาบริหารงานและพัฒนาชุมชนให้สะท้อนความต้องการและแก้ไขปัญหาของคนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง

กระบวนการเลือกตั้งเทศบาลนี้เป็นกลไกสำคัญในการเสริมสร้างการปกครองท้องถิ่นในเขตชุมชนเมืองให้มีความเข้มแข็ง และเปิดโอกาสให้ประชาชนได้มีส่วนร่วมอย่างแท้จริงในการพัฒนาชุมชนของตนเองให้ก้าวไปข้างหน้าอย่างยั่งยืนผ่านกระบวนการประชาธิปไตย

การไปใช้สิทธิเลือกตั้งถือเป็นหน้าที่สำคัญของปวงชนชาวไทย ตามที่บัญญัติไว้ในรัฐธรรมนูญ มาตรา 50 ที่กำหนดให้บุคคลมีหน้าที่ไปใช้สิทธิเลือกตั้งหรือลงประชามติอย่างอิสระ โดยคำนึงถึงประโยชน์ส่วนรวมของประเทศเป็นสำคัญ

เช่นเดียวกับการเลือกตั้งทุกระดับ สังคมต่างคาดหวังให้ กกต. ปฏิบัติหน้าที่อย่างเข้มข้นในการป้องกันและปราบปรามการทุจริต โดยเฉพาะการซื้อสิทธิ์ขายเสียง ขณะเดียวกัน ประชาชนผู้มีสิทธิเลือกตั้งเองก็มีบทบาทสำคัญในการช่วยกันพัฒนาประชาธิปไตยให้สุจริตและเที่ยงธรรม ด้วยการไม่ยอมขายสิทธิ์ขายเสียงของตนเอง เพื่อให้ผลการเลือกตั้งเป็นไปตามเจตนารมณ์ที่แท้จริงของประชาชนและชอบด้วยกฎหมาย

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *