ปราจีนบุรี: จากกรณีที่เป็นที่วิพากษ์วิจารณ์ในสังคม กรณีหญิงอายุ 61 ปี ซึ่งป่วยด้วยก้อนเนื้อในสมอง ได้เสียชีวิตลง หลังจากเข้ารับการรักษาด้วยวิธีที่อ้างว่าเป็นสมุนไพร ที่สถานรักษาแห่งหนึ่งในพื้นที่ หมู่ที่ 8 ตำบลวังท่าช้าง อำเภอกบินทร์บุรี จังหวัดปราจีนบุรี โดยมีนายพรชัย หรือที่เรียกกันว่า ‘อาจารย์พรชัย’ เป็นผู้ดูแลและทำการรักษา

ความคืบหน้าล่าสุด เมื่อวันที่ 5 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ในรายการชื่อดัง ‘โหนกระแส’ ทางช่อง 3 ซึ่งดำเนินรายการโดย คุณหนุ่ม กรรชัย ได้มีการโฟนอินสัมภาษณ์พิเศษกับ นายพรชัย เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงเกี่ยวกับวิธีการรักษาและกรณีการเสียชีวิตที่เกิดขึ้น

นายพรชัย ได้เปิดเผยในรายการถึงภูมิหลังของตนเองว่า เคยบวชเป็นพระมานานกว่า 16 พรรษา และจุดเริ่มต้นของการศึกษาเรื่องสมุนไพรเกิดจากเหตุการณ์ที่แม่ของตนเองพยายามฆ่าตัวตายด้วยการกินยา และแพทย์ระบุว่าไม่สามารถรักษาได้แล้ว ให้พากลับบ้าน ตนเองจึงได้ศึกษาและทดลองใช้สมุนไพรในการรักษาแม่ ซึ่งแม่ก็สามารถมีชีวิตอยู่ต่อได้อีก 20 ปี หลังจากนั้นจึงได้ศึกษาหาความรู้ด้านสมุนไพรมาอย่างต่อเนื่อง

นายพรชัย อธิบายถึงวิธีการรักษาที่ใช้ว่า เป็น ‘ยากลั่นสมุนไพร’ ซึ่งมีวิธีการคล้ายกับการกลั่นสุรา โดยสมุนไพรที่ใช้จะแตกต่างกันไปตามอาการของผู้ป่วย เมื่อได้ตัวยาที่กลั่นออกมาแล้ว จะนำมาใช้ด้วยวิธีการฉีดเข้าเส้นเลือดดำ และการต้มเป็นยาดื่ม โดยในช่วงแรกไม่ได้ทำการรักษาให้คนทั่วไป แต่เป็นการรักษากันเฉพาะในหมู่พระด้วยกัน

ในรายการยังได้มีการพูดคุยกับ พระบุญเลิศ ซึ่งนายพรชัยระบุว่าเป็นผู้ที่ตนเองรักษาให้เป็นคนที่สองต่อจากแม่ และเป็นผู้ที่ร่วมกันคิดค้นวิธีการกลั่นสมุนไพรนี้ขึ้นมา พระบุญเลิศ เล่าว่าตนเองป่วยเป็นภูมิแพ้เรื้อรังและตรวจพบโลหะหนักในร่างกายจำนวนมาก การรักษาของนายพรชัยในช่วงแรกยังไม่มีการล้างพิษ แต่ใช้วิธีการให้ยาต้ม ยาหยอด และยาฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ซึ่งยาฉีดนี้กลั่นมาจากสมุนไพรหลายชนิด

พระบุญเลิศยอมรับว่า ตนเองเป็นผู้ออกแบบและกลั่นยาเอง โดยอาศัยความรู้เรื่องระบบควบแน่นที่เคยได้จากการไปกับมารดาต้มเหล้าในวัยเด็ก ในช่วงแรกของการใช้ยาฉีดมีผลข้างเคียงคืออาการหนาวสั่นอย่างรุนแรงประมาณ 5-10 นาที จึงได้ปรึกษากันเพื่อหาวิธีทำให้โมเลกุลของยามีขนาดเล็กลง นำไปสู่การประยุกต์ออกแบบถังกลั่นโดยใช้ถังแก๊สปิกนิกเป็นส่วนควบแน่นภายในถังขนาด 200 ลิตร

พระบุญเลิศ กล่าวต่อไปว่า สถานที่รักษาแห่งนี้ตั้งขึ้นเริ่มแรกเพื่อรักษาโรคไซนัสของตนเอง เครื่องควบแน่นก็ยังคงอยู่ในบริเวณนั้น การรักษาเริ่มจากญาติและคนสนิท ก่อนจะมีการบอกต่อและขยายวงกว้างออกไป มีการรักษาด้วยการฉีด ซึ่งตนเองก็เคยฉีดให้ตัวเอง และนายพรชัยก็เคยฉีดให้ผู้อื่นแต่จำไม่ได้ทั้งหมด

ส่วนประเด็นเรื่องสวนสมุนไพรดอกดาวเรืองที่ถูกพูดถึง พระบุญเลิศชี้แจงว่า ดอกดาวเรืองเป็นเพียงส่วนหนึ่งของยาสมุนไพรที่นำมากลั่น ซึ่งภายหลังได้กลายเป็นน้ำมันหอมระเหยที่สามารถสกัดสารสำคัญออกมาได้ด้วยไอน้ำ ถือเป็นนวัตกรรมที่ตนเองภาคภูมิใจและนำมาใช้ทั้งแบบกินและแบบฉีด

อย่างไรก็ตาม เมื่อถูกถามถึงกรณีผู้เสียชีวิต นายพรชัยกล่าวว่า การรักษาจะหายหรือไม่หายนั้น ไม่ได้เหมือนกันทุกคน บางคนมีกรรมติดตัวมาไม่เหมือนกัน เหตุปัจจัยต่างๆ ไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับกรรมของใครของมัน แต่ยืนยันว่าตนเองไม่ทราบรายละเอียดว่าคนที่มารักษาป่วยเป็นโรคอะไรมา หรือกินยาอะไรมาบ้าง และตนเองไม่เคยห้ามใครกินยาแผนปัจจุบัน

กรณีดังกล่าวได้สร้างความกังวลและความสงสัยอย่างกว้างขวางในสังคม เกี่ยวกับมาตรฐานและความปลอดภัยของการรักษาด้วยวิธีที่ไม่เป็นที่ยอมรับทางการแพทย์แผนปัจจุบัน โดยเฉพาะการใช้สมุนไพรฉีดเข้าเส้นเลือดดำ ซึ่งอาจก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงถึงชีวิตได้