ท่องเที่ยวไทยเผชิญความท้าทายใหญ่ จีน-รัสเซีย เมินแห่เที่ยวเวียดนาม ชี้ปัจจัยด้านความปลอดภัย-ราคา-แหล่งท่องเที่ยวสู้ไม่ได้
นายธเนศ ศุภรสหัสรังสี นายกสมาคมสมาพันธ์ท่องเที่ยวชลบุรี เปิดเผยสถานการณ์ที่น่ากังวลของภาคการท่องเที่ยวไทยในปัจจุบัน โดยระบุว่าภาพรวมการท่องเที่ยวไม่ดีมาสักพักแล้ว โดยเฉพาะการสูญเสียฐานลูกค้าหลักอย่างนักท่องเที่ยวจีน
สถานการณ์นี้ส่งผลกระทบเป็นลูกโซ่มายังพื้นที่ท่องเที่ยวสำคัญอย่างพัทยา จังหวัดชลบุรี ซึ่งมักจะได้รับผลกระทบคล้ายกับกรุงเทพมหานคร เนื่องจากนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงสนามบินหลักมักจะเที่ยวในกรุงเทพฯ ก่อน แล้วจึงเดินทางต่อไปยังพัทยาหรือเมืองใกล้เคียง
นายธเนศชี้ว่า จำนวนนักท่องเที่ยวจีนลดลงไปเกือบครึ่ง จากเดิมที่เคยหายไปเฉพาะกลุ่มกรุ๊ปทัวร์ ตอนนี้นักท่องเที่ยวที่เดินทางเองและจองผ่านตัวแทนท่องเที่ยวออนไลน์ (OTA) ก็ลดลงตามไปด้วย โดยส่วนหนึ่งมาจากความล่าช้าของภาครัฐในการขยับตัวและแก้ไขข่าวเชิงลบที่ออกมา
ปัจจัยลบสำคัญที่ทำให้นักท่องเที่ยวจีนขาดความเชื่อมั่นในการมาเที่ยวไทย เริ่มตั้งแต่เหตุการณ์กราดยิงที่มีนักท่องเที่ยวจีนเสียชีวิต ตามมาด้วยกรณีนักแสดงจีนถูกแก๊งคอลเซ็นเตอร์จับไปชายแดนไทย ทำให้เกิดคำถามถึงความปลอดภัย ประกอบกับการถูกโจมตีผ่านอินฟลูเอนเซอร์จีนในโซเชียลมีเดีย และข่าวเกี่ยวกับเหตุแผ่นดินไหว ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนบั่นทอนความเชื่อมั่น
สำหรับตลาดยุโรป นายธเนศกล่าวว่านักท่องเที่ยวส่วนใหญ่เข้ามาในช่วงฤดูท่องเที่ยว (ไฮซีซั่น) ประมาณเดือนพฤศจิกายนถึงมีนาคม เพื่อหนีอากาศหนาวในยุโรปและมาหาอากาศอบอุ่นในไทย แต่เมื่อหมดฤดูหนาว นักท่องเที่ยวกลุ่มนี้ก็ลดลงตามธรรมชาติ ซึ่งไม่สามารถพึ่งพาได้ตลอดทั้งปี
ที่น่าจับตาคือ ตลาดรัสเซีย ที่พบว่ามีการเดินทางไปเที่ยวประเทศอื่นมากขึ้น เช่น อียิปต์ และโดยเฉพาะอย่างยิ่ง เวียดนาม ซึ่งมีการย้ายไฟล์ทบินไปลงเวียดนามมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สะท้อนถึงการเติบโตของตลาดเวียดนาม และส่งสัญญาณที่ไม่ดีนักต่อการท่องเที่ยวไทย
นายธเนศยอมรับว่า ในแง่ของการแข่งขันด้านการท่องเที่ยว ประเทศไทยสู้คู่แข่งอย่างเวียดนามไม่ได้แล้วในหลายมิติ โดยเฉพาะด้านต้นทุน ค่าแรงในเวียดนามถูกกว่าไทยอย่างมาก ค่าที่พักก็ถูกกว่า โรงแรมในเวียดนามที่ขายพร้อมบริการอาหารตลอด 24 ชั่วโมง ยังมีราคาถูกกว่าโรงแรมไทยที่ขายเพียงห้องพักรวมอาหารเช้า นอกจากนี้ แหล่งท่องเที่ยวในเวียดนามไม่ได้มีแค่ธรรมชาติ แต่มีแหล่งท่องเที่ยวที่มนุษย์สร้างขึ้น (Man-made) และสวนสนุกที่ได้รับการพัฒนาอย่างดี ซึ่งดึงดูดนักท่องเที่ยวจีนได้มากกว่า
ตัวเลขในเดือนมีนาคมที่ผ่านมา ยิ่งตอกย้ำสถานการณ์ เมื่อเวียดนามมีนักท่องเที่ยวจีนเข้าประเทศเกือบ 7 แสนคน ขณะที่ไทยมีเพียง 3 แสนคน ซึ่งน้อยกว่าเวียดนามถึงสองเท่า นอกจากนี้ ประเทศอย่างญี่ปุ่นก็เน้นดึงนักท่องเที่ยวจีนเข้าไปเที่ยวมากขึ้นเช่นกัน โดยได้เปรียบจากภาวะเศรษฐกิจที่อ่อนตัวและค่าเงินเยนที่อ่อนค่าลงในช่วงนี้
สถานการณ์ดังกล่าวถือเป็นความท้าทายเร่งด่วนที่ภาคการท่องเที่ยวไทยและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเร่งหาทางแก้ไข เพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวสำคัญกลับคืนมา และปรับกลยุทธ์ให้สามารถแข่งขันกับประเทศคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ