พาณิชย์ เตรียมจัดมหกรรมใหญ่ ‘ปลุกชีพ’ ค้าชายแดนแม่สอด 9-13 พ.ค. นี้ ดันเศรษฐกิจฐานราก

กรมการค้าต่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานรากและส่งเสริมผู้ประกอบการไทย สู่ตลาดเพื่อนบ้านและตลาดโลก เตรียมจัดงาน “มหกรรมการค้าชายแดน” ครั้งยิ่งใหญ่ ณ อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 9-13 พฤษภาคม 2568 หวังปลุกชีพการค้าชายแดนไทย-เมียนมา ซึ่งมีมูลค่าสูงเป็นอันดับ 1 ของประเทศ

นางอารดา เฟื่องทอง อธิบดีกรมการค้าต่างประเทศ เปิดเผยว่า การจัดงานมหกรรมการค้าชายแดนในครั้งนี้ เป็นไปตามนโยบายเชิงรุกของกระทรวงพาณิชย์ ที่มุ่งเน้นการเปิดประตูการค้าของไทย ทั้งในตลาดเดิมและประเทศเพื่อนบ้าน ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขัน และส่งเสริมการค้าชายแดนและผ่านแดนเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจฐานราก

งาน “มหกรรมการค้าชายแดน” มีกำหนดจัดขึ้น ณ สนามกีฬาสมเด็จพระนเรศวรมหาราช อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ระหว่างวันที่ 9 – 13 พฤษภาคม 2568 โดยได้รับความร่วมมืออย่างแข็งแกร่งจากหน่วยงานพันธมิตร ทั้งจังหวัดตาก หน่วยงานในกระทรวงพาณิชย์ สถาบันการเงิน ภาครัฐและภาคเอกชนทั้งส่วนกลางและในพื้นที่

ภายในงานจะมีการรวบรวมสินค้าคุณภาพจากผู้ประกอบการไทยกว่า 200 คูหา ครอบคลุมสินค้าอุปโภคบริโภค สินค้าเกษตรและผลไม้ รวมถึงสินค้าจากวิสาหกิจชุมชน (OTOP) งานนี้ถือเป็นอีกหนึ่งเวทีสำคัญในการยกระดับเศรษฐกิจชายแดน เชื่อมโยงประเทศไทยสู่ตลาดโลก และเสริมพลังให้ผู้ประกอบการไทยเติบโตในโลกการค้ายุคใหม่ ซึ่งจะนำไปสู่การส่งเสริมเศรษฐกิจของประเทศให้เติบโตได้อย่างยั่งยืน

นอกจากโซนแสดงและจำหน่ายสินค้าแล้ว งานนี้ยังอัดแน่นด้วยกิจกรรมที่น่าสนใจ อาทิ การประชุมติดตามสถานการณ์การค้าชายแดนและผ่านแดนจังหวัดตาก ซึ่งตากเป็นจังหวัดที่มีศักยภาพสูงและมีมูลค่าการค้าชายแดนกับเมียนมาสูงที่สุด

ไฮไลท์สำคัญอีกอย่างคือเวทีเจรจาจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างผู้ประกอบการไทยและประเทศเพื่อนบ้าน เปิดโอกาสในการสร้างเครือข่ายและขยายช่องทางการค้า รวมถึงการจัดสัมมนาให้ความรู้ภายใต้หัวข้อที่น่าจับตาอย่างยิ่งคือ “ตามให้ทัน AI ช่วยค้าขายทันใจ ไม่ตกเทรนด์” เพื่อติดอาวุธความรู้ด้านเทคโนโลยีให้กับผู้ประกอบการในยุคดิจิทัล กิจกรรมเหล่านี้มีเป้าหมายเพื่อกระตุ้นการค้าการลงทุนชายแดนและผ่านแดนในพื้นที่เขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษจังหวัดชายแดนไทย – เมียนมา สอดรับกับนโยบายหลักของรัฐบาลที่ว่า “ลดค่าใช้จ่าย เพิ่มรายได้ ขยายโอกาส”

นางอารดา กล่าวเน้นย้ำถึงศักยภาพอันโดดเด่นของจังหวัดตาก ทั้งในด้านการค้าและการลงทุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งการค้ากับประเทศเมียนมา ซึ่งในปี 2567 ที่ผ่านมา จังหวัดตากมีมูลค่าการค้าชายแดนและผ่านแดนสูงถึงกว่า 75,000 ล้านบาท นับเป็นอันดับหนึ่งของจังหวัดชายแดนไทยที่ติดกับเมียนมา

สำหรับสินค้าส่งออกสำคัญของจังหวัดตากไปยังเมียนมา ได้แก่ น้ำมันเชื้อเพลิง โทรศัพท์มือถือและสมาร์ทโฟน น้ำมันปาล์ม เครื่องดื่มต่าง ๆ และเภสัชภัณฑ์ แสดงให้เห็นถึงความหลากหลายของสินค้าไทยที่เป็นที่ต้องการในตลาดเพื่อนบ้าน

นอกจากนี้ จังหวัดตากยังเป็นหนึ่งในจังหวัดที่รัฐบาลกำหนดให้เป็นเขตพัฒนาเศรษฐกิจพิเศษ มีบทบาทสำคัญในการเป็นเครื่องมือกระจายความเจริญสู่ภูมิภาค ยกระดับรายได้และคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่ ตากยังมีศักยภาพด้านโลจิสติกส์ที่แข็งแกร่ง เนื่องจากตั้งอยู่บนเส้นทางระเบียงเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ East – West Economic Corridor (EWEC) และ North – South Economic Corridor (NSEC) ซึ่งเป็นเส้นทางเชื่อมโยงเศรษฐกิจ การค้า และการลงทุนที่สำคัญของอนุภูมิภาคแม่น้ำโขง

ไม่เพียงเท่านั้น จังหวัดตากยังมีแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญมากมาย มีความหลากหลายทั้งด้านธรรมชาติ วัฒนธรรม ประเพณี ชาติพันธุ์ และวิถีชีวิตชุมชน อีกทั้งยังเป็นแหล่งเรียนรู้ทางประวัติศาสตร์ที่สำคัญของประเทศไทย ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนที่ส่งเสริมศักยภาพทางเศรษฐกิจและการค้าของจังหวัดตากให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *