อาร์แซน เวนเกอร์ อดีตผู้จัดการทีมระดับตำนานของ อาร์เซนอล และปัจจุบันดำรงตำแหน่งประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของ สหพันธ์ฟุตบอลนานาชาติ หรือ ฟีฟ่า ได้ออกมาแสดงทัศนะที่น่าสนใจเกี่ยวกับกฎการแข่งขันฟุตบอลสโมสรยุโรปของ ยูฟ่า โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับสิทธิ์ในการเข้าร่วมการแข่งขันฟุตบอลถ้วยใหญ่ที่สุดของยุโรปอย่าง ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ของทีมที่คว้าแชมป์ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก

ภายใต้กฎของ สหพันธ์ฟุตบอลยุโรป หรือ ยูฟ่า ซึ่งมีการประกาศใช้มาตั้งแต่ปี 2014 ได้ระบุไว้อย่างชัดเจนว่า ทีมใดก็ตามที่สามารถคว้าแชมป์รายการ ยูฟ่า ยูโรปา ลีก ได้ จะได้รับสิทธิ์ผ่านเข้าไปเล่นในศึก ยูฟ่า แชมเปียนส์ ลีก ฤดูกาลถัดไปได้โดยอัตโนมัติ ซึ่งกฎนี้มีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มแรงจูงใจและความสำคัญให้กับถ้วยรองของยุโรปอย่าง ยูโรปา ลีก

อย่างไรก็ตาม อาร์แซน เวนเกอร์ ได้ออกมาเปิดเผยถึงมุมมองส่วนตัวเกี่ยวกับกฎดังกล่าวนี้ เมื่อถูกถามว่าเขาเห็นด้วยกับกฎนี้หรือไม่ โดย เวนเกอร์ กล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ไม่เลย พวกเขาควรได้ผ่านเข้าไปเล่นใน ยูโรปา ลีก แบบอัตโนมัติอีกครั้ง แต่ไม่จำเป็นอะไรสำหรับ แชมเปียนส์ ลีก โดยเฉพาะเมื่อคุณอยู่ใน พรีเมียร์ ลีก ซึ่งก็มี 5 ทีมที่ได้ผ่านเข้าไปเล่นอยู่แล้ว”

จากคำกล่าวของ เวนเกอร์ แสดงให้เห็นว่า เขามองว่าการที่ทีมแชมป์ ยูโรปา ลีก ได้รับสิทธิ์ไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก นั้น อาจไม่ใช่สิ่งที่เหมาะสมที่สุด โดยเฉพาะในลีกใหญ่ ๆ อย่าง พรีเมียร์ ลีก อังกฤษ ที่มักจะมีทีมชั้นนำหลายทีมอยู่แล้วและได้โควตาไปเล่น แชมเปียนส์ ลีก ตามปกติถึง 4 หรือบางครั้งอาจจะถึง 5 ทีมในบางฤดูกาล การเพิ่มโควตาอีกหนึ่งที่ให้กับแชมป์ ยูโรปา ลีก อาจทำให้โควตาจากลีกนั้น ๆ ดูมีจำนวนมากเกินไปในมุมมองของเขา

อย่างไรก็ตาม เวนเกอร์ ก็ได้กล่าวถึงข้อดีของกฎนี้เช่นกัน โดยระบุว่า “ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่ (ยูฟ่า) ต้องนำไปคิดและทำการทบทวนดู แต่ในอีกด้านหนึ่ง ในทางกลับกัน ผู้คนจะบอกคุณว่า มันทำให้ ยูโรปา ลีก ยังได้รับความสนใจ และมีแรงจูงใจที่จะทำเพื่อรางวัล (การคว้าตั๋วไป แชมเปียนส์ ลีก)”

ทัศนะของ เวนเกอร์ ในฐานะประธานฝ่ายพัฒนาฟุตบอลของ ฟีฟ่า ถือเป็นมุมมองที่น่าสนใจ และอาจเป็นประเด็นที่ ยูฟ่า จะต้องนำไปพิจารณาในการปรับปรุงกฎการแข่งขันในอนาคต แม้ว่ากฎปัจจุบันจะช่วยเพิ่มความน่าสนใจให้กับ ยูโรปา ลีก ได้อย่างชัดเจนก็ตาม