ทหารลาวยังตรึงกำลัง หลังปะทะเดือดกลุ่มติดอาวุธ เสียชีวิต 2 นาย ใกล้ชายแดนไทย หวั่นกระสุนปืนใหญ่ตกฝั่งไทย
สถานการณ์ตึงเครียด ชายแดนไทย-สปป.ลาว หลังทหารลาวยังเคลียร์พื้นที่ปะทะไม่ได้ หวั่นปืนใหญ่ตกฝั่งไทย
แขวงบ่อแก้ว, สปป.ลาว – สถานการณ์บริเวณภูผาหม่น เมืองปากทา แขวงบ่อแก้ว สปป.ลาว ซึ่งอยู่ตรงกันข้ามกับอำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย ของประเทศไทย ยังคงน่าจับตาอย่างใกล้ชิด หลังเกิดเหตุการณ์กองกำลังไม่ทราบฝ่ายได้บุกเข้าโจมตีฐานทหาร สปป.ลาว อย่างหนักเมื่อช่วงวันที่ 3-4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ทำให้มีทหารลาวเสียชีวิตอย่างน้อย 2 นาย
ล่าสุด ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพ สปป.ลาว ได้ระดมกำลังพลจำนวนมาก พร้อมด้วยการสนับสนุนทางอากาศจากเฮลิคอปเตอร์ และการใช้ยานยนต์หุ้มเกราะในการบุกเข้าโจมตีเพื่อยึดพื้นที่คืนจากกองกำลังไม่ทราบฝ่ายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม ด้วยลักษณะภูมิประเทศของภูผาหม่นที่เป็นพื้นที่ป่าทึบ ติดแม่น้ำโขง และมีถ้ำอยู่หลายแห่ง ทำให้การปฏิบัติการภาคพื้นดินด้วยยานยนต์หุ้มเกราะเป็นไปอย่างยากลำบากและไม่สามารถเข้าถึงพื้นที่ปะทะโดยตรงได้ ส่วนเฮลิคอปเตอร์ทำได้เพียงบินลาดตระเวนเพื่อติดตามความเคลื่อนไหวของกลุ่มคนร้ายที่หลบหนีเข้าไปในป่าเท่านั้น
รายงานข่าวเชิงลึกระบุว่า การจู่โจมฐานทหาร สปป.ลาว ที่ภูผาหม่นในครั้งแรกเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม แสดงให้เห็นถึงการวางแผนทางยุทธวิธีมาเป็นอย่างดี โดยฝ่ายผู้ก่อเหตุได้แบ่งกำลังออกเป็นหลายกลุ่ม กลุ่มแรกเข้าโจมตีฐานทหารลาวเพื่อล่อให้กองกำลังส่วนอื่นๆ ที่อยู่ใกล้เคียงเคลื่อนพลเข้ามาช่วยเหลือ จากนั้นได้ใช้กำลังอีกส่วนเข้าโจมตีซ้ำเติมกองกำลังทหารลาวที่ยกเข้ามาสนับสนุน ทำให้เกิดความสูญเสียในฝ่ายทหารลาว อย่างไรก็ตาม ในการปะทะครั้งนี้ ทหารลาวก็สามารถจับกุมสมาชิกของกองกำลังไม่ทราบฝ่ายไว้ได้จำนวน 3 คน
แม้จะมีการส่งกำลังเข้าปฏิบัติการอย่างต่อเนื่อง แต่จนถึงขณะนี้ ทหาร สปป.ลาว ก็ยังไม่สามารถเข้าควบคุมพื้นที่บริเวณภูผาหม่นได้อย่างเบ็ดเสร็จ และสิ่งที่น่าวิตกคือ ความลังเลในการตัดสินใจจะใช้ปืนใหญ่เข้าต่อสู้กับกองกำลังฝ่ายตรงข้าม เนื่องจากมีความกังวลอย่างยิ่งว่า กระสุนปืนใหญ่อาจจะพลาดเป้าและตกข้ามมายังฝั่งประเทศไทยได้ ความกังวลนี้มีเหตุผลสนับสนุนจากเหตุการณ์ปะทะที่ผ่านมา ซึ่งมีลูกกระสุนขนาด 7.26 มิลลิเมตร ตกใส่หลังคาบ้านเรือนของประชาชนในฝั่งไทยมาแล้ว ส่งผลให้กองกำลังผาเมืองของไทยต้องทำหนังสือแจ้งเตือนไปยังแขวงบ่อแก้วของ สปป.ลาว เพื่อแสดงความกังวลและขอความร่วมมือในเรื่องนี้
ในขณะเดียวกัน บนโลกโซเชียลมีเดียของ สปป.ลาว ได้มีการอ้างถึงเหตุการณ์การลอบสังหารทหารลาวในครั้งนี้ว่า อาจเกี่ยวข้องกับขบวนการขนยาเสพติดขนาดใหญ่ ที่มีความโกรธแค้นเจ้าหน้าที่ทหารลาว หลังจากที่เจ้าหน้าที่ได้ทำการยึดยาบ้าจำนวนมากถึงกว่า 20 ล้านเม็ดไปเมื่อวันที่ 20 เมษายน ที่ผ่านมา ทำให้กลุ่มขบวนการค้ายาเสพติดเหล่านี้มีการรวมตัวกันจำนวนมาก พร้อมด้วยอาวุธหนัก เพื่อเข้ามาแก้แค้นและเอาคืนเจ้าหน้าที่ทหารลาว อย่างไรก็ตาม ข้อมูลดังกล่าวยังคงเป็นเพียงการคาดการณ์และยังไม่มีการยืนยันอย่างเป็นทางการ
สถานการณ์ชายแดนบริเวณนี้จึงยังคงเป็นประเด็นที่ทุกฝ่ายต้องติดตามอย่างใกล้ชิด ทั้งในแง่ของการรักษาความสงบเรียบร้อย การควบคุมการสู้รบไม่ให้ส่งผลกระทบต่อฝั่งไทย และการสอบสวนเพื่อระบุตัวตนและวัตถุประสงค์ที่แท้จริงของกองกำลังติดอาวุธที่ก่อเหตุในครั้งนี้