สังเวย 2 ศพ! สธ.เตือน ‘ไข้หมูดิบ’ ระบาดแพร่ เสี่ยงหูดับถาวร หากมีอาการหลังกินหมูดิบ

กระทรวงสาธารณสุข เร่งเตือนประชาชนถึงภัยอันตรายจาก “โรคไข้หมูดิบ” หรือโรคสเตรปโตคอกคัส ซูอิส หลังพบผู้ป่วยและผู้เสียชีวิตในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะที่จังหวัดแพร่ ซึ่งมีรายงานผู้เสียชีวิตแล้ว 2 ราย และมีผู้ป่วยสะสมถึง 14 ราย สาเหตุหลักมาจากพฤติกรรมการรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข เปิดเผยสถานการณ์โรคไข้หมูดิบ (Streptococcus suis) ว่ากำลังเป็นที่น่ากังวล โดยเฉพาะข้อมูลจากจังหวัดแพร่ที่พบผู้ป่วยแล้ว 14 ราย และน่าสลดใจที่มีผู้เสียชีวิตถึง 2 รายจากการติดเชื้อดังกล่าว

รมว.สาธารณสุข ย้ำว่า ปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่สุดของการป่วยเป็นโรคไข้หมูดิบ คือ การรับประทานอาหารที่ปรุงจากเนื้อหมูดิบ หรือสุกๆ ดิบๆ เช่น ลาบหมูดิบ แหนมดิบ หรือการสัมผัสเลือดและเนื้อหมูที่ติดเชื้อผ่านบาดแผล โดยเฉพาะผู้ที่ประกอบอาชีพที่เกี่ยวข้องกับสุกร

อาการของโรคไข้หมูดิบ มักเริ่มด้วยอาการไข้สูง ปวดศีรษะ คลื่นไส้ อาเจียน และอาจมีผื่นขึ้นร่วมด้วย ในรายที่มีอาการรุนแรง เชื้ออาจเข้าสู่กระแสเลือดหรือเยื่อหุ้มสมอง ทำให้เกิดภาวะช็อก หมดสติ หรือมีปัญหาทางการได้ยิน โดยเฉพาะ “โรคหูดับ” ซึ่งอาจทำให้สูญเสียการได้ยินอย่างถาวร

นายสมศักดิ์ ขอให้ประชาชนที่ มีอาการไข้สูง ปวดเมื่อยกล้ามเนื้อ ร่วมกับมีประวัติการรับประทานเนื้อหมูดิบ หรือสัมผัสเนื้อหมูดิบในช่วง 10 วันที่ผ่านมา ให้รีบไปพบแพทย์ที่โรงพยาบาลใกล้บ้านทันที และแจ้งประวัติเสี่ยงดังกล่าวให้แพทย์ทราบ เพื่อให้ได้รับการวินิจฉัยและรักษาอย่างรวดเร็ว ก่อนที่อาการจะลุกลามจนเกิดภาวะแทรกซ้อนร้ายแรง โดยเฉพาะภาวะหูดับถาวร

นอกจากนี้ นายสมศักดิ์ ยังได้กล่าวถึงสถานการณ์โรคแอนแทรกซ์ (Anthrax) ที่จังหวัดมุกดาหารด้วยว่า ขณะนี้พบผู้ป่วยยืนยันสะสม 3 ราย เสียชีวิต 1 ราย และอยู่ระหว่างการรักษา 2 ราย ได้มีการเฝ้าระวังและให้ยาป้องกันแก่ผู้สัมผัสใกล้ชิดกว่า 600 ราย ซึ่งส่วนใหญ่ได้พ้นระยะเฝ้าระวังแล้ว

สำหรับโรคแอนแทรกซ์ เป็นโรคติดต่อจากสัตว์สู่คน ไม่มีการติดต่อจากคนสู่คน เชื้อมีสปอร์ที่ทนทาน พบได้ในดินและซากสัตว์ป่วย การป้องกันที่สำคัญคือ หลีกเลี่ยงการรับประทานเนื้อโคที่ปรุงไม่สุก หรือสุกๆ ดิบๆ และควรรับฟังข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุขอย่างเป็นทางการ

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข ได้กำชับให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกรมควบคุมโรคและสาธารณสุขจังหวัดทั่วประเทศ เฝ้าระวังโรคทั้งสองอย่างเข้มงวด และให้ความรู้แก่ประชาชน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดและลดความสูญเสียที่อาจเกิดขึ้น

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *