วัดไผ่ล้อม เตรียมจัดงาน “วิสาขบูชารำลึก” 113 ปี ชาตกาล 20 ปี ละสังขาร “หลวงพ่อพูล” ชวนศิษย์ร่วมพิธีไหว้ครู 11 พ.ค. 68
นครปฐม – วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง จังหวัดนครปฐม เตรียมจัดงานบุญครั้งใหญ่ เนื่องในโอกาสวิสาขบูชารำลึก 113 ปี ชาตกาล และครบรอบ 20 ปี การละสังขารของพระมงคลสิทธิการ หรือ “หลวงพ่อพูล อัตตรักโข” อดีตเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม พระเกจิชื่อดังแห่งเมืองนครปฐม
สำหรับกิจกรรมสำคัญภายในงานคือ พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ซึ่งเปิดโอกาสให้ประชาชนทั่วไป ลูกศิษย์ลูกหา และพุทธศาสนิกชน ได้เข้าร่วมเพื่อความเป็นสิริมงคล และรำลึกถึงพระคุณของหลวงพ่อพูล ที่ตลอดชีวิตท่านได้อุทิศตนสงเคราะห์ญาติโยมในหลากหลายด้าน โดยมีนายบริพันธ์ ชัยภูมิ นายกสมาคมนักเพลงลูกทุ่งแห่งประเทศไทย นำคณะศิลปินดาราเข้าร่วมในพิธีด้วย
กำหนดการจัดงานจะมีขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 เริ่มพิธีตั้งแต่เวลา 09.19 น. ณ วัดไผ่ล้อม พระอารามหลวง ตำบลพระปฐมเจดีย์ อำเภอเมือง จังหวัดนครปฐม จึงขอเชิญชวนผู้มีจิตศรัทธาร่วมงานโดยพร้อมเพรียงกัน
พระครูปลัดสิทธิวัฒน์ กิตติจิตโต หรือ หลวงพี่น้ำฝน ผู้รักษาการแทนเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อม ได้กล่าวว่า การจัดงานในปี พ.ศ. 2568 นี้ มีความสำคัญยิ่งเนื่องจากครบ 20 ปี แห่งการละสังขารของหลวงพ่อพูล ท่านได้สืบสานเจตนารมณ์และต่อยอดวัฒนธรรมประเพณีสำคัญของวัด คือ พิธีไหว้ครูบูรพาจารย์ ซึ่งเป็นการแสดงความกตัญญูกตเวทิตาต่อหลวงพ่อพูลและครูบาอาจารย์ทุกท่าน
นอกจากการสืบสานประเพณีแล้ว หลวงพี่น้ำฝนยังคงเดินหน้าพัฒนาวัดไผ่ล้อมให้เป็นศูนย์รวมจิตใจและเป็นศูนย์กลางในการประสานงานช่วยเหลือประชาชนผู้เดือดร้อน ปัจจุบันวัดไผ่ล้อมได้ร่วมมือกับหน่วยงานสาธารณสุข จัดตั้งโรงพยาบาลนครปฐม สาขาวัดไผ่ล้อม เพื่อให้บริการดูแลสุขภาพเบื้องต้นแก่ญาติโยม เช่น การเจาะเลือด ตรวจรักษาโรคเบาหวาน ความดัน หัวใจ และกำลังอยู่ระหว่างการจัดสร้างศูนย์ไตเทียมวัดไผ่ล้อม และศูนย์สุขภาพวัดไผ่ล้อม เพื่อขยายขอบเขตการบริการด้านสุขภาพให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น
โครงการสงเคราะห์สังคมอื่นๆ ที่หลวงพ่อพูลได้ริเริ่มไว้และยังคงสืบสานต่อยอดมาจนถึงปัจจุบัน ได้แก่ โครงการสวดเผาฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย และ โครงการบวชฟรี ไม่มีค่าใช้จ่าย ซึ่งล้วนเป็นส่วนสำคัญในการช่วยเหลือแบ่งเบาภาระของญาติโยมและทำนุบำรุงพระพุทธศาสนา
ย้อนไปในอดีต หลวงพ่อพูล อัตตรักโข ได้รับการแต่งตั้งเป็นเจ้าอาวาสวัดไผ่ล้อมอย่างเป็นทางการเมื่อวันที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2492 ในช่วงที่ท่านรักษาการเจ้าอาวาส ท่านได้ริเริ่มสร้างอุโบสถหลังใหม่ ซึ่งได้รับพระราชทานวิสุงคามสีมาในปี พ.ศ. 2490 และสร้างเสร็จสมบูรณ์ในปี พ.ศ. 2492 นอกจากนี้ ท่านยังเป็นผู้อุปถัมภ์การก่อสร้างโรงเรียนวัดไผ่ล้อม (พูลประชาอุปถัมภ์) เพื่อส่งเสริมการศึกษาแก่เยาวชนในพื้นที่ แสดงให้เห็นถึงคุณูปการอันใหญ่หลวงของท่านต่อทั้งวัดและชุมชน
หลวงพ่อพูลเป็นแบบอย่างของศิษย์ผู้มีความกตัญญูกตเวทิตาต่อครูบาอาจารย์ โดยในวันวิสาขบูชาของทุกปี ท่านจะจัดพิธีไหว้ครูขึ้นเสมอ แม้จะมีอายุขัยเพิ่มมากขึ้น ท่านก็ไม่เคยละเว้นจากการปฏิบัติศาสนกิจ การฝึกสมาธิภาวนาจิต และแผ่เมตตา ด้วยวัตรปฏิบัติอันงดงามนี้ ทำให้ท่านเป็นที่เคารพศรัทธาของสาธุชนจำนวนมาก
ในปี พ.ศ. 2547 เนื่องในโอกาสที่สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงเจริญพระชนมพรรษาครบ 6 รอบ 72 พรรษา หลวงพ่อพูลได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระราชาคณะชั้นสามัญที่ พระมงคลสิทธิการ
หลวงพ่อพูล อัตตรักโข ได้มรณภาพอย่างสงบเมื่อบ่ายวันอาทิตย์ที่ 22 พฤษภาคม พ.ศ. 2548 เวลา 14.55 น. สิริรวมอายุ 94 ปี 68 พรรษา ทิ้งไว้ซึ่งวัตรปฏิบัติอันงดงามและคุณูปการนานัปการแก่วัดและสังคม ซึ่งลูกศิษย์และคณะกรรมการวัดไผ่ล้อมยังคงสืบสานเจตนารมณ์ของท่านมาจนถึงปัจจุบัน