เพื่อนร้อยบุกโรงพัก หวิดประชาทัณฑ์! แก๊งโหดรุมกระทืบสาว 27 ซอยรัชดาฯ 13 คุมตัวสอบปมขัดแย้ง แม่เหยื่อลั่นสู้คดีถึงที่สุด
กรุงเทพฯ – จากกรณีคลิปเหตุการณ์รุมทำร้ายหญิงสาวคนหนึ่งอย่างโหดเหี้ยมภายในซอยรัชดาฯ 13 ที่ถูกเผยแพร่บนสื่อสังคมออนไลน์ จนกลายเป็นกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างหนัก ตำรวจ สน.สุทธิสาร เร่งติดตามผู้ก่อเหตุและผู้เสียหายมาดำเนินการตามกฎหมาย ขณะเดียวกันก็เกิดเหตุการณ์ตึงเครียดที่หน้าสถานีตำรวจ เมื่อเพื่อนผู้เสียหายกว่าร้อยคนเดินทางมาติดตามความคืบหน้า
เหตุดังกล่าวเกิดขึ้นช่วงกลางดึกวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 บริเวณหน้าอพาร์ตเมนต์แห่งหนึ่งภายในซอยรัชดาฯ 13 แขวงรัชดาภิเษก เขตดินแดง โดยคลิปความยาวกว่า 4 นาที เผยให้เห็นภาพกลุ่มชายหญิงจำนวนหนึ่งกำลังรุมทำร้าย น.ส.ไหม อายุ 27 ปี ผู้เสียหายอย่างทารุณ แม้ผู้เสียหายจะพยายามวิ่งหนี แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังตามไปทำร้ายซ้ำ สร้างความตกใจและไม่พอใจอย่างมากแก่ผู้ที่ได้รับชมคลิป
ภายหลังทราบเรื่อง พ.ต.อ.พรเทพ เฉลิมเกียรติ ผู้กำกับการ สน.สุทธิสาร ได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่สายตรวจเร่งค้นหา น.ส.ไหม หลังจากที่ครอบครัวและเพจกันจอมพลังเข้าร้องขอความช่วยเหลือ เนื่องจากไม่สามารถติดต่อผู้เสียหายได้ ต่อมาเจ้าหน้าที่ได้พบ น.ส.ไหม เดินอยู่ภายในซอยใกล้เคียงที่เกิดเหตุ และได้นำตัวส่งพบญาติก่อนจะเข้าแจ้งความกับพนักงานสอบสวน
เจ้าหน้าที่ตำรวจใช้เวลาไม่นานในการติดตามและควบคุมตัวผู้ร่วมก่อเหตุได้ 3 ราย เป็นหญิง 2 คน และชาย 1 คน เพื่อนำมาสอบปากคำ แต่ระหว่างที่เจ้าหน้าที่กำลังคุมตัวผู้ก่อเหตุชายเข้าห้องสืบสวน เหตุการณ์ที่หน้าสถานีตำรวจก็เต็มไปด้วยความวุ่นวาย เมื่อกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหายกว่า 100 คนที่มารอติดตามสถานการณ์ ได้แสดงความไม่พอใจและพยายามจะเข้ารุมประชาทัณฑ์ผู้ก่อเหตุ ทำให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกว่า 20 นาย ต้องเข้ามาระงับเหตุและพูดคุยทำความเข้าใจกับกลุ่มเพื่อนผู้เสียหาย ก่อนที่ทั้งหมดจะค่อยๆ สลายตัวไป
จากการสืบสวนเบื้องต้นพบว่า มีผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมด 5 คน เป็นหญิง 3 คน และชาย 2 คน ซึ่งขณะนี้ตำรวจกำลังเร่งติดตามตัวผู้ร่วมก่อเหตุที่เหลืออีก 2 คนมาดำเนินคดีตามกฎหมาย
นางฉันทนา อายุ 51 ปี แม่ของ น.ส.ไหม ผู้เสียหาย กล่าวด้วยความรู้สึกรับไม่ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ระบุว่า ลูกสาวของตนพยายามร้องขอชีวิตและยอมแพ้แล้ว แต่กลุ่มผู้ก่อเหตุก็ยังไม่หยุดทำร้าย นอกจากนี้ ลูกสาวของตนยังพยายามอ้างว่ากำลังตั้งครรภ์เพื่อให้หยุดการทำร้าย แต่ก็ไม่เป็นผล กลับถูกตามไปรุมทำร้ายซ้ำ ยืนยันว่าจะไม่ยอมความและจะดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุให้ถึงที่สุด
แม่ของผู้เสียหายยอมรับว่า ลูกสาวของตนมีประวัติการใช้สารเสพติดและมีอาการทางสมอง ซึ่งพยายามพาไปบำบัดแล้วแต่ก็ยังกลับมาใช้ซ้ำ ก่อนหน้านี้ทราบว่าลูกสาวเคยมีเรื่องกับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่ไม่ทราบรายละเอียด
ด้านกลุ่มเพื่อนของผู้เสียหาย เล่าว่า น.ส.ไหม เคยถูกรุมทำร้ายมาแล้วครั้งหนึ่งช่วงเทศกาลสงกรานต์ และเมื่อวันที่ 1 พฤษภาคมที่ผ่านมา น.ส.ไหม ได้ไปทำร้ายร่างกายคู่อริคืน ก่อนจะมาถูกรุมทำร้ายอย่างหนักในครั้งนี้ ซึ่งพวกตนมองว่าเป็นการกระทำที่เกินกว่าเหตุ จึงรู้สึกไม่พอใจเป็นอย่างมาก
สำหรับการดำเนินคดี ตำรวจ สน.สุทธิสาร อยู่ระหว่างรวบรวมพยานหลักฐานและสอบปากคำผู้ที่เกี่ยวข้อง โดยจะแยกการดำเนินคดีออกเป็น 2 ส่วน คือคดีที่ น.ส.ไหม เคยไปทำร้ายคู่อริ และคดีที่ น.ส.ไหม ถูกรุมทำร้ายในครั้งนี้ ยืนยันจะให้ความเป็นธรรมกับทั้งสองฝ่ายตามข้อเท็จจริงที่ปรากฏ