สิงห์บลูท็อปฟอร์ม! เชลซีเปิดบ้านอัดลิเวอร์พูล 3-1 จุดประกายลุ้นท็อปไฟฟ์ พรีเมียร์ลีก

เชลซีรักษาโอกาสคว้าพื้นที่ท็อปไฟฟ์ในศึกพรีเมียร์ลีก อังกฤษ เพื่อคว้าตั๋วไปลุยฟุตบอลยุโรปในฤดูกาลหน้า หลังเปิดบ้านโชว์ฟอร์มสุดยอด เอาชนะแชมป์เก่าอย่างลิเวอร์พูลไปได้แบบขาดลอย 3-1 ในการแข่งขันที่สนามสแตมฟอร์ด บริดจ์ เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา

การแข่งขันฟุตบอล พรีเมียร์ลีก อังกฤษ นัดสำคัญของ “สิงโตน้ำเงินคราม” เชลซี ที่ต้องการแต้มเพื่อขยับอันดับขึ้นไปลุ้นพื้นที่ฟุตบอลยุโรป เปิดบ้านต้อนรับการมาเยือนของ “หงส์แดง” ลิเวอร์พูล ที่การันตีตำแหน่งแชมป์ไปแล้ว

เกมนี้ เมาริซิโอ โปเช็ตติโน กุนซือเชลซี จัดทัพชุดที่ดีที่สุดลงสนาม นำโดย นิโคลัส แจ๊กสัน, โคล พาลเมอร์ และ โนนี มาดูเอเก ในแนวรุก ขณะที่ เยอร์เกน คล็อปป์ ผู้จัดการทีมลิเวอร์พูล ส่ง ดิโอโก โชตา, โคดี กักโป และ โมฮาเหม็ด ซาลาห์ เป็นสามประสานแดนหน้า

เริ่มเกมมาเพียงแค่ 3 นาที เจ้าบ้านเชลซีก็มาได้ประตูขึ้นนำอย่างรวดเร็ว จากจังหวะที่ เปโดร เนโต กระชากบอลขึ้นมาทางกราบขวา ก่อนตักเข้ากลางให้ เอ็นโซ เฟร์นานเดซ วิ่งเข้ามายิงด้วยขวาเสียบเสาแรกเข้าประตูไปอย่างเด็ดขาด เชลซีออกนำ 1-0

นาทีที่ 43 เชลซีเกือบได้ประตูที่สอง จากจังหวะที่ โรเมโอ ลาเวีย จ่ายทะลุช่องให้ นิโคลัส แจ๊กสัน หลุดเข้าไปในเขตโทษ แล้วป้ายต่อให้ โนนี มาดูเอเก เลี้ยงหลบผู้รักษาประตูแล้วยิงเข้าไป แต่ผู้ช่วยผู้ตัดสินยกธงล้ำหน้าในจังหวะที่แจ๊กสันรับบอล ทำให้เชลซีพลาดโอกาสได้ประตู จบครึ่งแรก เชลซียังคงนำอยู่ 1-0

กลับมาในครึ่งหลังนาทีที่ 56 เชลซีก็มาได้ประตูที่สองหนีห่าง จากความผิดพลาดของแนวรับลิเวอร์พูล โคล พาลเมอร์ จ่ายบอลเข้ากลางให้ โนนี มาดูเอเก พยายามเข้าชาร์จแล้วติดบล็อก กองหลังลิเวอร์พูลพยายามเคลียร์ แต่ลูกกระดอนไปโดน จาเรลล์ ควอนซาห์ เข้าประตูตัวเองไป กลายเป็นลูกทำเข้าประตูตัวเองของลิเวอร์พูล ทำให้เชลซีนำห่าง 2-0

ช่วงท้ายเกม นาทีที่ 80 เชลซีเกือบได้ประตูเพิ่มอีกครั้ง เอ็นโซ เฟร์นานเดซ ได้บอลในเขตโทษก่อนไหลให้ เจดอน ซานโช ทางซ้าย ซานโชตัดสินใจยิงทันที แต่อลิสซอน เบ็กเกอร์ นายทวารลิเวอร์พูลยังโชว์ซูเปอร์เซฟปัดไว้ได้หวุดหวิด

นาทีที่ 81 เจดอน ซานโช ยังคงปั่นป่วนแนวรับหงส์แดง เขาโชว์ทักษะม้วนหลบผู้เล่นลิเวอร์พูลที่มุมธงซ้าย ก่อนส่งต่อให้ โคล พาลเมอร์ พาบอลจี้เข้าเขตโทษแล้วยิงมุมแคบ ลูกพุ่งผ่านมืออลิสซอนไปชนเสาสองอย่างน่าเสียดาย

นาทีที่ 85 ลิเวอร์พูลมาได้ประตูตีตื้นไล่ขึ้นมาเป็น 1-2 จากลูกเตะมุมฝั่งขวา อเล็กซิส แม็กอัลลิสเตอร์ เปิดเข้ามาให้ เฟอร์จิล ฟาน ไดก์ ที่แก้ตัวจากจังหวะเสียประตูที่สอง โขกเต็มศีรษะเสียบตาข่ายเข้าไป

เกมทำท่าจะจบด้วยสกอร์นี้ แต่ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บ นาทีที่ 90+5 มอยเซส ไคเซโด ของเชลซีหลุดเข้าเขตโทษและถูก จาเรลล์ ควอนซาห์ ทำฟาวล์ ผู้ตัดสินชี้เป็นจุดโทษทันที และเป็น โคล พาลเมอร์ รับหน้าที่สังหารไม่พลาดในนาทีที่ 90+6 ทำให้เชลซีเอาชนะไปในที่สุดด้วยสกอร์ 3-1

จากผลการแข่งขันนี้ ทำให้เชลซีเก็บเพิ่มเป็น 63 คะแนน จาก 35 นัด ขยับขึ้นมารั้งอันดับ 5 ของตารางอย่างเหนียวแน่น ยังคงมีโอกาสสูงในการแย่งชิงพื้นที่ท็อปไฟฟ์ เพื่อไปเล่นฟุตบอลสโมสรยุโรปในฤดูกาลหน้าต่อไป ส่วนลิเวอร์พูลยังคงมี 82 คะแนน การันตีตำแหน่งแชมป์พรีเมียร์ลีกไปแล้ว

สำหรับผลการแข่งขันคู่อื่นๆ ที่น่าสนใจในวันเดียวกัน
เบรนต์ฟอร์ด ชนะ แมนเชสเตอร์ ยูไนเต็ด 4-3
ไบรตัน เสมอ นิวคาสเซิล ยูไนเต็ด 1-1
เวสต์แฮม ยูไนเต็ด เสมอ ท็อตแนม ฮอตสเปอร์ 1-1

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *