กรุงเทพฯ – บริษัท บุญรอดบริวเวอรี่ จำกัด โดย สิงห์ คอร์เปอเรชั่น ในฐานะโกลบอล สปอร์ต พาร์ทเนอร์ชิพ การแข่งขันกอล์ฟที่เก่าแก่ที่สุดรายการหนึ่งอย่าง “ดิ โอเพ่น” จัดการแข่งขัน สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์ เพื่อคัดเลือกนักกอล์ฟฝีมือดีไปสัมผัสประสบการณ์ระดับโลก ล่าสุดได้ 4 สุดยอดนักกอล์ฟกลุ่มแรก จากการแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ เวอร์ชวลกอล์ฟ ไฟนัล สเตจ ที่สนามโพธาลัย แบงค็อก

การแข่งขันรอบชิงชนะเลิศ “สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์ เวอร์ชวล ไฟนัล สเตจ” จัดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่ผ่านมา ณ สนามโพธาลัย แบงค็อก โดยมีนักกอล์ฟฝีมือดี 232 คนที่ผ่านการคัดเลือกจากสนามต่างๆ ทั่วประเทศรวม 19 สนาม เข้าร่วมชิงชัยเพื่อหา 4 ผู้ชนะรับรางวัลสุดพิเศษ “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป”

รูปแบบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศ เป็นการแข่งขันกอล์ฟเวอร์ชวลจำนวน 9 หลุม บนสนามรอยัล พอร์ตรัช ซึ่งเป็นสนามที่จะใช้จัดการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 โดยใช้เครื่อง TRACKMAN 4 ในการวัดผล คิดคะแนนแบบสโตรกเพลย์ เพื่อเฟ้นหานักกอล์ฟที่มีผลงานดีที่สุด 4 อันดับแรก

ผลการแข่งขันปรากฏว่า นายธนกร ตัณฑเวส โชว์ฟอร์มได้อย่างยอดเยี่ยม คว้าแชมป์ไปครองด้วยสกอร์ 2 อันเดอร์พาร์ ขณะที่อันดับสองร่วม ทำสกอร์ 1 อันเดอร์พาร์ ได้แก่ นายอภิชา อรนิชรตนพร, นายวันชนะ อุดมศรี และ นายวรวีร์ ปริยวงศ์ ซึ่งนักกอล์ฟทั้ง 4 คนนี้ ได้รับสิทธิ์อันทรงเกียรติ เดินทางไปชมการแข่งขัน ดิ โอเพ่น ครั้งที่ 153 ที่สนามรอยัล พอร์ตรัช ประเทศไอร์แลนด์เหนือ ระหว่างวันที่ 17-22 กรกฎาคม 2568 พร้อมรับประสบการณ์พิเศษในการออกรอบ ณ สนามลอนดอน กอล์ฟ คลับ สนามระดับยูโรเปียนทัวร์ ที่ประเทศอังกฤษ

นอกจากนี้ นักกอล์ฟที่จบการแข่งขันในรอบชิงชนะเลิศเวอร์ชวลกอล์ฟ ในอันดับที่ 5-120 จะยังคงมีโอกาสในการคว้าสิทธิ์ไปชม ดิ โอเพ่น เช่นเดียวกัน โดยจะได้ผ่านเข้าสู่รอบพิเศษ “9 HOLES COURSE CHALLENGE” ซึ่งเป็นการแข่งขันออกรอบในสนามกอล์ฟจริง จำนวน 9 หลุม ที่สนามริเวอร์เดล กอล์ฟ คลับ ในวันที่ 31 พฤษภาคม 2568 โดยจะแบ่งการแข่งขันออกเป็น 2 คอร์ส (เก้าหลุมแรก และเก้าหลุมหลัง) คิดคะแนนแบบสโตรกเพลย์ เพื่อคัดเลือกผู้ที่จบสองอันดับแรกของแต่ละคอร์ส รวมอีก 4 คน รับรางวัล “สิงห์ ดิ โอเพ่น ดิ เอ็กซ์คลูซีฟทริป” เพิ่มเติม

การแข่งขัน สิงห์ ไทยแลนด์ ชาลเลนจ์ ถือเป็นโอกาสอันดีที่สิงห์ คอร์เปอเรชั่น มอบให้กับนักกอล์ฟชาวไทยได้สัมผัสและเรียนรู้ประสบการณ์จากรายการกอล์ฟระดับโลกอย่าง ดิ โอเพ่น โดยตรง