ศธ. ยันไม่ยกเลิก ‘ชุดลูกเสือ’ แค่ปรับเกณฑ์ให้โรงเรียนยืดหยุ่น ลดภาระผู้ปกครอง

กรุงเทพฯ – จากกรณีที่มีการพูดถึงเรื่องการยกเลิกเครื่องแบบลูกเสือของสถานศึกษาในสังกัดกระทรวงศึกษาธิการ (ศธ.) ภายหลังมีกระแสข่าวว่า สำนักงานลูกเสือแห่งชาติ (สลช.) อาจมีการจัดทำประกาศยกเว้นการแต่งเครื่องแบบลูกเสือ

ล่าสุด เมื่อวันที่ 4 เมษายน 2568 นายสิริพงษ์ อังคสกุลเกียรติ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำกระทรวงศึกษาธิการ ได้ออกมาชี้แจงต่อประเด็นดังกล่าวอย่างชัดเจน เพื่อคลายข้อสงสัยและวิพากษ์วิจารณ์ที่เกิดขึ้น โดยยืนยันว่า กระทรวงศึกษาธิการ ไม่เคยมีประกาศยกเลิกการใส่ชุดลูกเสือแต่อย่างใด

นายสิริพงษ์ กล่าวว่า สิ่งที่ ศธ. ดำเนินการคือ การปรับเปลี่ยนกฎระเบียบจากเดิมที่บางกิจกรรมเคยมีการบังคับให้นักเรียนต้องแต่งกายด้วยชุดลูกเสือ เป็นการเพิ่มอำนาจให้โรงเรียนมีอิสระในการเลือกชุดที่เหมาะสมกับกิจกรรมนั้นๆ แทน เช่น กิจกรรมเข้าค่ายลูกเสือ หรือกิจกรรมรอบกองไฟ เป็นต้น ซึ่งอาจไม่จำเป็นต้องเป็นเครื่องแบบลูกเสือเต็มรูปแบบเสมอไป

"สิ่งที่ ศธ. ทำคือการออกประกาศว่า กิจกรรมที่เมื่อก่อนเคยต้องใช้ชุดลูกเสือในการทำ ต่อไปนี้ไม่จำเป็นต้องใช้อีกต่อไป ให้เป็นอำนาจของโรงเรียนในการเลือกชุดที่เหมาะสมได้เลย เป็นการเพิ่มความยืดหยุ่นในการแต่งกาย และลดภาระค่าใช้จ่ายบางส่วน ไม่ใช่การยกเลิกแต่อย่างใด" นายสิริพงษ์ กล่าวย้ำ

ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำ ศธ. ยังกล่าวต่อถึงกระบวนการกำหนดเครื่องแต่งกายต่างๆ ของโรงเรียน ว่าจะใช้กระบวนการเดียวกันกับการกำหนดทรงผมที่เหมาะสม ซึ่งอ้างอิงตามระเบียบเดียวกัน นั่นคือ โรงเรียนจะต้องมีการปรึกษาหารือกับคณะกรรมการสถานศึกษาและตัวแทนผู้ปกครอง เพื่อให้ทุกฝ่ายมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ

นอกจากนี้ ในกรณีที่ผู้ปกครองหรือนักเรียนอาจมีข้อจำกัดในการจัดหาชุดลูกเสือมาใส่ได้ ทาง พลตำรวจเอก เพิ่มพูน ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ได้เน้นย้ำและกำชับไปยังสถานศึกษาต่างๆ ให้มีการผ่อนผันในเรื่องระเบียบการแต่งกายเหล่านี้ เพื่อไม่ให้เป็นอุปสรรคต่อการเรียนรู้และการเข้าร่วมกิจกรรมของนักเรียน

เมื่อถามถึงอนาคตของการใช้ชุดลูกเสือ นายสิริพงษ์ ยืนยันว่า ในอนาคตจะไม่มีการยกเลิกชุดลูกเสืออย่างแน่นอน เนื่องจากเครื่องแบบลูกเสือยังคงมีความจำเป็นสำหรับการเข้าร่วมกิจกรรมลูกเสือในส่วนกลาง โดยเฉพาะกิจกรรมที่เป็นพิธีการอย่างเป็นทางการของลูกเสือ อย่างไรก็ตาม กิจกรรมเหล่านี้จะเป็นไปด้วยความสมัครใจ ไม่ได้เป็นการบังคับให้นักเรียนทุกคนต้องมีชุดลูกเสือเพื่อเข้าร่วมกิจกรรมบังคับ ซึ่งแตกต่างจากแนวทางการปรับเปลี่ยนสำหรับกิจกรรมในระดับโรงเรียน

การชี้แจงครั้งนี้ของกระทรวงศึกษาธิการ ถือเป็นการยืนยันแนวนโยบายที่มุ่งเน้นการลดภาระผู้ปกครองและนักเรียน พร้อมทั้งเพิ่มความยืดหยุ่นให้กับสถานศึกษาในการบริหารจัดการกิจกรรมต่างๆ ให้เหมาะสมกับบริบทและงบประมาณ โดยยังคงรักษาไว้ซึ่งความสำคัญของกิจกรรมลูกเสือในภาพรวม

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *