สุดช้ำ! หนุ่มเช่าบ้าน 2 หลังถูกโกง สูญเงินนับหมื่น ครอบครัวไร้ที่อยู่ เหยื่อเพียบชุมพร

ชุมพร – กลายเป็นอุทาหรณ์เตือนภัยสำหรับผู้ที่กำลังมองหาที่อยู่อาศัย หลังผู้ใช้โซเชียลมีเดียรายหนึ่งในจังหวัดชุมพร ได้โพสต์ข้อความเตือนภัยเกี่ยวกับกรณีถูกมิจฉาชีพหลอกให้เช่าบ้านพัก สูญเสียเงินมัดจำไปเป็นจำนวนมาก แต่กลับไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้จริง อีกทั้งยังพบว่ามีผู้เสียหายในลักษณะเดียวกันอีกนับ 10 รายในพื้นที่ ทำให้หลายครอบครัวต้องเผชิญกับภาวะไร้ที่อยู่ชั่วคราวอย่างไม่คาดคิด

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นในพื้นที่ ต.บางหมาก อ.เมือง จ.ชุมพร โดยหนึ่งในผู้เสียหายคือ นายณัฐพงศ์ อายุ 28 ปี ได้เปิดเผยเรื่องราวสุดช้ำกับผู้สื่อข่าว “ข่าวสดออนไลน์” เมื่อช่วงบ่ายวันที่ 4 พฤษภาคม ที่ผ่านมา ว่า เดิมทีตนและครอบครัวอาศัยอยู่ในอำเภออื่นของจังหวัดชุมพร แต่ด้วยความจำเป็นด้านการเดินทางและการทำงาน จึงตัดสินใจย้ายเข้ามาอยู่ในตัวเมืองและเริ่มหาบ้านเช่าตั้งแต่เดือนเมษายนที่ผ่านมา

นายณัฐพงศ์เล่าว่า เขาได้พบโพสต์ประกาศให้เช่าบ้านจำนวน 2 หลังที่อ้างว่าอยู่ติดกัน ผ่านทางกลุ่มเฟซบุ๊กกลุ่มหนึ่ง ซึ่งผู้โพสต์เป็นหญิงสาว ด้วยความที่ครอบครัวมีสมาชิกหลายคน จึงตัดสินใจเช่าบ้านทั้งสองหลังเพื่อให้สมาชิกทุกคนได้อยู่ใกล้กัน โดยได้เดินทางไปดูบ้านจริงในวันที่ 21 เมษายน ก่อนจะนัดเซ็นสัญญาและชำระเงินมัดจำรวม 10,500 บาท (บ้านหลังแรก 5,500 บาท และหลังที่สอง 5,000 บาท) เมื่อวันที่ 29 เมษายน โดยผู้ให้เช่าแจ้งว่าจะสามารถเข้าอยู่ได้ในวันที่ 1 พฤษภาคม

เมื่อใกล้ถึงกำหนดเข้าอยู่ ผู้ให้เช่าเริ่มมีท่าทีบ่ายเบี่ยง เลื่อนวันเข้าอยู่ด้วยเหตุผลต่างๆ นานา กระทั่งถึงวันที่ 1 พฤษภาคม กลับได้รับแจ้งว่าไฟฟ้าในบ้านถูกตัด ขอเลื่อนการเข้าอยู่ออกไปก่อน นายณัฐพงศ์จึงตัดสินใจรอ เพราะผู้ให้เช่าดูน่าเชื่อถือถึงขนาดบอกรหัสเข้าบ้านและแนะนำรายละเอียดต่างๆ เกี่ยวกับตัวบ้านอย่างแนบเนียน

แต่เมื่อเดินทางมาถึงบ้านพัก กลับต้องตกใจเมื่อพบว่าบ้านยังไม่ได้รับการทำความสะอาดและไม่มีความพร้อมให้คนเข้าอยู่ แม้จะสามารถเปิดประตูหน้าบ้านได้ แต่ภายในตัวบ้านทั้งห้องนอนและห้องน้ำกลับถูกล็อกกุญแจไว้ทั้งหมด โดยผู้ให้เช่าอ้างว่ายังมีทรัพย์สินส่วนตัวที่ยังขนย้ายออกไม่หมด จึงขอเก็บกุญแจไว้ก่อน ประกอบกับปัญหาไฟฟ้าถูกตัดตามที่อ้าง ทำให้ไม่สามารถพักอาศัยได้เลย

ยิ่งไปกว่านั้น บ้านอีกหลังที่ตกลงเช่าก็ไม่สามารถเข้าอยู่ได้เช่นกัน โดยผู้ให้เช่าอ้างว่าหลานชายยังหาที่อยู่ใหม่ไม่ได้ ขอเวลาอีก 3 วันในการย้ายออก แต่เมื่อนายณัฐพงศ์สอบถามจากเพื่อนบ้านในซอย กลับได้รับข้อมูลที่น่าตกใจยิ่งกว่า คือบ้านหลังดังกล่าวไม่ได้เป็นของผู้ให้เช่ารายนี้เลย แต่เป็นบ้านของผู้อื่นที่ถูกแอบอ้างนำมาหลอกปล่อยเช่า ซึ่งเจ้าของบ้านตัวจริงก็ไม่ทราบเรื่องนี้มาก่อน

จากการสืบหาข้อมูลเพิ่มเติม นายณัฐพงศ์พบว่ามีผู้เสียหายอีกหลายรายในพื้นที่ที่ถูกมิจฉาชีพรายนี้หลอกลวงในลักษณะเดียวกัน คือ โพสต์ประกาศให้เช่าบ้าน ทำทีให้ดูบ้าน เก็บเงินค่ามัดจำและค่าเช่าล่วงหน้า แต่เมื่อถึงกำหนดกลับไม่สามารถเข้าอยู่อาศัยได้ หรือบ้านไม่มีความพร้อมให้เข้าอยู่จริง ทำให้มีผู้เสียหายตกเป็นเหยื่อแล้วไม่ต่ำกว่า 10 ราย

นายณัฐพงศ์กล่าวด้วยความช้ำใจว่า “ตอนนี้ผมกับครอบครัวยังไม่มีที่อยู่ ต้องไปอาศัยบ้านคนรู้จัก ข้าวของเครื่องใช้ทุกอย่างก็ยังต้องกองไว้ที่หน้าบ้านที่เราเข้าไม่ได้ ไม่รู้จะเริ่มต้นตรงไหน ชีวิตลำบากมากครับ”

เบื้องต้น นายณัฐพงศ์และผู้เสียหายรายอื่นๆ กำลังรวบรวมพยานหลักฐานทั้งหมด ทั้งหลักฐานการพูดคุยทางข้อความ, รูปภาพบ้าน, หลักฐานการโอนเงิน และข้อมูลผู้ให้เช่า เพื่อนำไปแจ้งความดำเนินคดีกับมิจฉาชีพรายนี้ พร้อมกันนี้ ยังเรียกร้องให้หน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้องเข้ามาตรวจสอบและเร่งให้ความช่วยเหลือผู้ที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์นี้ เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดเหตุการณ์หลอกลวงในลักษณะนี้ขึ้นอีก และเพื่อให้ผู้เสียหายได้รับความเป็นธรรมและความช่วยเหลือโดยเร็วที่สุด.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *