พิธา ลั่นกลางขอนแก่น! ประกาศอีก 9 ปี กลับมาเป็น ‘นายกฯ ที่ดีที่สุด’ ชูผู้สมัคร ปชน. เป็นวิศวกร แก้ปัญหาได้

ขอนแก่น – เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 2568 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ อดีตหัวหน้าพรรคก้าวไกล ในฐานะผู้ช่วยหาเสียงพรรคประชาชน ได้เดินทางลงพื้นที่จังหวัดขอนแก่น เพื่อร่วมปราศรัยช่วยนางสาวเบญจมาภรณ์ ศรีละบุตร ผู้สมัครนายกเทศมนตรีเทศบาลนครขอนแก่น จากพรรคประชาชน ณ สถานีขนส่งจังหวัดขอนแก่นแห่งเก่า ท่ามกลางประชาชนที่ให้ความสนใจเข้าร่วมรับฟัง

นายพิธา เริ่มต้นด้วยการกล่าวทักทายเป็นภาษาถิ่นว่า “คิดฮอตหลายๆ” พร้อมแสดงความรู้สึกตื่นเต้นที่ได้มาพบปะพี่น้องชาวขอนแก่น โดยในการปราศรัยครั้งนี้ นายพิธาได้นำเสนอ 4 เหตุผลสำคัญที่พี่น้องชาวขอนแก่นควรเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน

เหตุผลแรก: ตัวผู้สมัครที่เป็นวิศวกร
นายพิธาเน้นย้ำว่า การมีผู้สมัครที่เป็นวิศวกรนั้นไม่ธรรมดาและเป็นข้อดีอย่างมาก เพราะงบประมาณของเทศบาลนครขอนแก่นเป็นอันดับต้นๆ ของประเทศ การมีนายกฯ ที่มีความรู้ด้านวิศวกรรมจะช่วยให้สามารถตรวจสอบการทำงานของข้าราชการได้ดีขึ้น เพราะสามารถ “อ่านแบบเป็น” ทำให้ข้าราชการไม่สามารถหลอกให้เซ็นอนุมัติโครงการต่างๆ ได้โดยง่าย ซึ่งแตกต่างจากอดีตที่มักมีนายกฯ ที่เป็นนักการเมืองท้องถิ่นมานาน ถึงเวลาที่คนขอนแก่นจะได้ผู้นำที่มีพื้นฐานวิชาชีพที่แตกต่างออกไป

นายพิธากล่าวชื่นชมผู้สมัครว่ามี DNA ของคนทำงาน ลงพื้นที่ต่อเนื่องมา 2 ปี แสดงให้เห็นถึงความขยัน อดทน พร้อมฟันธงว่าคนนี้ “ขยันถึกทนแน่นอน”

เหตุผลที่สอง: นโยบายที่ชัดเจน
นายพิธาแสดงความประทับใจในนโยบายของผู้สมัครที่เน้นการแก้ปัญหาของคนขอนแก่นด้วยคนขอนแก่นเอง ไม่ว่าจะเป็นปัญหาเรื่องการซ่อมบำรุงถนน การบริหารจัดการขยะ การบำบัดน้ำเสีย หรือการพัฒนาศักยภาพของคนในพื้นที่ โดยเชื่อมั่นว่าปัญหาเหล่านี้สามารถแก้ไขได้แน่นอนหากมีผู้นำที่เข้าใจและมีนโยบายที่ตรงจุด

เหตุผลที่สาม: ได้ สส. พรรคประชาชนมาช่วยทำงาน
นายพิธาชี้ว่าข้อได้เปรียบที่พรรคอื่นไม่มีคือ หากเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน พี่น้องชาวขอนแก่นจะได้ สส. ของพรรคอีก 3 คนในพื้นที่มาร่วมทำงานด้วย ทำให้เกิดการทำงานที่ไร้รอยต่อระหว่างเทศบาลนครกับ สส. ถือเป็นการทำงานร่วมกันแบบ “คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม” เพื่อพัฒนาขอนแก่น

เหตุผลที่สี่: ได้พรรคอันดับหนึ่งของประเทศมาช่วย
แม้ว่าตนเองจะถูกตัดสิทธิ์ทางการเมือง แต่พรรคประชาชนยังคงเป็นพรรคที่มี สส. มากที่สุดในประเทศ นายพิธากล่าวว่า การเลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชนเท่ากับได้ “พรรคอันดับหนึ่งของประเทศไทย” มาช่วยทำงาน ซึ่งหมายถึงการได้คนเก่งๆ จากทั่วประเทศเข้ามาช่วยกันจัดการปัญหาต่างๆ ในขอนแก่น

นอกจากนี้ นายพิธายังได้กล่าวถึงภาพรวมของปัญหาประเทศไทยในปัจจุบัน ซึ่งแบ่งเป็น 2 ส่วน คือ ปัญหาบนโต๊ะ และ ปัญหาใต้โต๊ะ
ปัญหาบนโต๊ะ คือปัญหาเศรษฐกิจที่ทั่วโลกกำลังเผชิญอยู่ ประเทศไทยต้องอาศัยการเจรจาบนเวทีโลกเพื่อขับเคลื่อนเศรษฐกิจ แต่นายพิธาแสดงความกังวลว่า เศรษฐกิจไทยตอนนี้เติบโตช้ากว่าประเทศเพื่อนบ้านอย่างลาว เวียดนาม และเมียนมา พร้อมตั้งคำถามว่าหากตนเองถูกแบนไป 10 ปี เศรษฐกิจไทยจะอยู่ในอันดับใด

ส่วนปัญหาใต้โต๊ะ คือปัญหาคอร์รัปชันที่ฝังรากลึก นายพิธายกตัวอย่างกรณีตึกถล่มในกรุงเทพฯ ที่ชาวญี่ปุ่นถึงกับตกใจกับปัญหาคอร์รัปชันของไทย มากกว่าความตกใจจากแผ่นดินไหว พร้อมเน้นย้ำว่า ประเทศไทยจะไม่สามารถก้าวต่อไปได้ หากประชาชนไม่ออกมาร่วมมือแก้ไขปัญหาคอร์รัปชัน

ในช่วงท้ายของการปราศรัย นายพิธาได้กล่าวเสริมด้วยความเชื่อมั่นในศักดิ์ศรีของคนขอนแก่นว่า “ซื้อไม่ได้” และเชิญชวนให้ประชาชนออกมาใช้สิทธิ์เลือกผู้สมัครจากพรรคประชาชน พร้อมประกาศเป้าหมายส่วนตัวที่สร้างความฮือฮาว่า หลังจากนี้ ตนเองจะเดินทาง “หาความรู้ทั่วประเทศอีก 9 ปี” และจะกลับมาเพื่อเป็น “นายกรัฐมนตรีที่ดีที่สุดของประเทศไทย”

การปราศรัยครั้งนี้ถือเป็นการแสดงบทบาทในฐานะผู้ช่วยหาเสียงของนายพิธา พร้อมกับการส่งสัญญาณถึงอนาคตทางการเมืองของตนเองที่ยังคงมุ่งมั่น แม้จะเผชิญกับข้อจำกัดในปัจจุบัน

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *