สะเทือนขวัญสมุทรปราการ! ชายวัย 60 ปี อดีตผู้ใหญ่บ้าน ฉุนเพื่อนบ้านต่อเติมบ้านเสียงดัง คว้าปืนยิงดับ 2 ศพ ก่อนหลบหนี

สมุทรปราการ – เกิดเหตุสะเทือนขวัญในพื้นที่อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ เมื่อชายวัย 60 ปี ซึ่งมีรายงานว่าเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้าน ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิงเพื่อนบ้านที่กำลังต่อเติมบ้าน ทำให้มีผู้เสียชีวิตคาที่ 2 ราย เป็นชาย 1 ราย และหญิง 1 ราย เบื้องต้นคาดสาเหตุมาจากความไม่พอใจเรื่องเสียงดังจากการต่อเติมบ้านที่กระทบกับผนังบ้านของผู้ก่อเหตุ หลังก่อเหตุผู้ต้องสงสัยได้ขับรถยนต์หลบหนีไปอย่างรวดเร็ว เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.สำโรงใต้ เร่งลงพื้นที่ตรวจสอบและไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดี

เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2568 ภายในซอยบุญถนอม ตำบลสำโรง อำเภอพระประแดง จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุว่ามีการใช้อาวุธปืนยิงกันและมีผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรสำโรงใต้ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่กู้ภัยมูลนิธิร่วมกตัญญู ได้รุดเข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที

ที่เกิดเหตุเป็นบ้านลักษณะทาวน์เฮ้าส์ที่ตั้งติดกัน พบร่างผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย เป็นชายและหญิง นอนจมกองเลือดอยู่ในบริเวณบ้านที่กำลังมีการซ่อมแซมต่อเติม โดยจากการตรวจสอบเบื้องต้น พบว่าผู้เสียชีวิตทั้งสองรายถูกยิงด้วยอาวุธปืนหลายนัด

พยานในพื้นที่ระบุว่า ขณะเกิดเหตุได้ยินเสียงปืนดังขึ้นติดต่อกันประมาณ 10 นัด สร้างความตกใจแก่เพื่อนบ้านเป็นอย่างมาก ก่อนที่ผู้ก่อเหตุ ซึ่งทราบว่าเป็นชายวัยประมาณ 60 ปี และมีประวัติเคยเป็นอดีตผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่ ได้รีบขึ้นรถยนต์เก๋งขับหลบหนีไปอย่างรวดเร็วหลังก่อเหตุ

จากการสืบสวนสอบสวนเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจตั้งปมสังหารในครั้งนี้ว่าน่าจะมาจากความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้าน โดยมีรายงานว่าผู้ก่อเหตุไม่พอใจที่บ้านของผู้เสียชีวิตมีการต่อเติมบ้านและมีเสียงดังรบกวนอย่างต่อเนื่อง โดยเฉพาะการที่อาจมีการเจาะหรือกระทำการใดๆ ที่กระทบกับกำแพงบ้านของผู้ก่อเหตุ ซึ่งความขัดแย้งสะสมนี้อาจเป็นชนวนให้เกิดเหตุนองเลือดขึ้น

ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายสืบสวน สภ.สำโรงใต้ กำลังระดมกำลังออกติดตามไล่ล่าตัวผู้ก่อเหตุที่หลบหนีไป พร้อมทั้งเก็บรวบรวมพยานหลักฐานในที่เกิดเหตุ รวมถึงสอบปากคำพยานแวดล้อม เพื่อสรุปสาเหตุที่แท้จริงและนำตัวผู้กระทำผิดมาเข้าสู่กระบวนการยุติธรรมโดยเร็วที่สุด เหตุการณ์นี้สร้างความหวาดวิตกและความกังวลให้กับประชาชนในพื้นที่เป็นอย่างมาก.

อ้างอิง: ข้อมูลเบื้องต้นจากเจ้าหน้าที่ในพื้นที่และมูลนิธิร่วมกตัญญู

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *