เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม นายคารม พลพรกลาง สมาชิกสภาผู้แทนราษฎร พรรคภูมิใจไทย ได้ออกมาแสดงความเห็นต่อเอกสารของกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) ซึ่งมีเนื้อหากล่าวหาบุคคลหลายราย รวมถึง นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ว่ามีการใช้สถาบันพระมหากษัตริย์เพื่อประโยชน์ทางการเมือง หรือที่เรียกว่า ‘โหนสถาบัน’

นายคารม กล่าวว่า ความจริงแล้ว ความจงรักภักดี หรือการแสดงออกซึ่งเป็นการเคารพและต้องการรักษาปกป้องสถาบันนั้น เป็นสิ่งที่ กอ.รมน. ควรจะทราบว่าแตกต่างอย่างสิ้นเชิงกับการนำสถาบันมาใช้เพื่อประโยชน์ส่วนตน หรือการ ‘โหนสถาบัน’

นายคารม ย้ำว่า ใครๆ ก็ทราบดีว่า พรรคภูมิใจไทยและนายอนุทิน มีจุดยืนที่ชัดเจนเกี่ยวกับการดำเนินงานทางการเมืองภายใต้ระบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข พรรคมีแนวทางในการปกป้องสถาบัน และคัดค้านการก้าวล่วงสถาบันในทุกรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็นการแก้ไขกฎหมายอาญามาตรา 112 หรือการกระทำอื่นๆ ดังนั้น การกระทำของ กอ.รมน. ในลักษณะเช่นนี้จึงเป็นเรื่องที่อันตรายอย่างยิ่ง

เขากล่าวต่อว่า การกระทำของ กอ.รมน. ดังกล่าว เป็นการสร้างความเข้าใจผิดระหว่างประชาชนที่มีความจงรักภักดี เคารพ และปกป้องสถาบัน กับการกล่าวหาพวกเขาว่านำสถาบันมาใช้เพื่อประโยชน์ของตนเองในทางการเมือง

นายคารม ชี้แจงถึงหน้าที่ของ กอ.รมน. ว่าคือการรักษาความมั่นคงภายในประเทศ มีภารกิจในการตรวจสอบว่ามีบุคคลหรือกลุ่มใดกระทำการที่เป็นอันตรายต่อประเทศ ประชาชน และสถาบันพระมหากษัตริย์หรือไม่ จากนั้นจึงนำเสนอข้อมูลต่อหน่วยงานความมั่นคงเพื่อดำเนินการป้องกัน ยับยั้ง หรือดำเนินคดีตามกฎหมาย

ดังนั้น การทำงานของ กอ.รมน. จึงจำเป็นต้องมีความแม่นยำ ข้อมูลต้องถูกต้องตามความเป็นจริง และไม่ควรนำข้อมูลที่ไม่ถูกต้องมากล่าวหาผู้อื่นในลักษณะที่ไม่เหมาะสม ซึ่งนายคารมเปรียบว่าเป็นพฤติกรรมที่ไม่ฉลาด