ระทึก! นาทีเปลวไฟพุ่งใส่ “อาจารย์แจ๊คพันศพ” ขณะทำพิธีเผาศพ เจ็บหน้า-แขน เจ้าตัวงงไม่เคยเกิดเหตุการณ์แบบนี้
บุรีรัมย์ – เกิดเหตุการณ์ระทึกกลางพิธีฌาปนกิจศพ เมื่อเปลวไฟปริศนาพุ่งเข้าใส่ร่างของ “อาจารย์แจ๊คพันศพ” หรือ นายอนันต์ สืบวงษ์ สัปเหร่อและหมอผีชื่อดัง ขณะกำลังวางดอกไม้จันทน์ลงในโลงศพ ทำให้ได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้า ศีรษะ และแขน เจ้าตัวเผยเผาศพมานับพันไม่เคยพบเจอเหตุการณ์เช่นนี้มาก่อน ขณะที่เจ้าอาวาสวัดที่เกิดเหตุชี้สาเหตุไม่ใช่อาถรรพ์ แต่คาดเกิดจากการใช้สารเคมีบางชนิดกับศพปริมาณมากเกินไป ซึ่งเหตุการณ์นี้ถือเป็นอุทาหรณ์สำคัญเตือนใจผู้ประกอบพิธีทุกคน
เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 3 พฤษภาคม 2568 ที่เมรุเผาศพภายในวัดบ้านน้อยลำคลอง ตำบลละหานทราย จังหวัดบุรีรัมย์ ขณะอาจารย์แจ๊คพันศพ วัย 30 ปี กำลังทำพิธีเผาศพชายวัย 54 ปี ซึ่งป่วยด้วยโรคมะเร็งและมีประวัติติดเชื้อโควิด-19 ผู้เสียชีวิตรายนี้มีฐานะยากจน อาจารย์แจ๊คจึงได้รับปากช่วยดำเนินการพิธีฌาปนกิจให้โดยไม่คิดค่าใช้จ่าย
นายอนันต์ หรืออาจารย์แจ๊คพันศพ ซึ่งยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล ได้เล่าถึงนาทีระทึกผ่านการวิดีโอคอลว่า หลังจากเสร็จสิ้นพิธีสงฆ์และเตรียมศพเข้าเตาเผาตามปกติ ตนได้ขึ้นไปวางดอกไม้จันทน์ในโลงศพเพื่อเริ่มกระบวนการเผา จู่ๆ เปลวไฟก็ลุกพรึบพุ่งเข้าใส่ตนอย่างแรงทันที ทำให้ถูกไฟลวกบริเวณใบหน้า ศีรษะ ใบหู และแขน สร้างความตกใจให้กับญาติโยมและทีมงานที่ร่วมพิธีเป็นอย่างมาก ก่อนที่ตนจะถูกนำตัวส่งโรงพยาบาลละหานทราย
อาจารย์แจ๊คยอมรับว่ารู้สึกแปลกใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอย่างมาก เนื่องจากตนประกอบอาชีพสัปเหร่อและทำพิธีเผาศพมาแล้วนับพันราย ไม่เคยปรากฏเหตุการณ์ลักษณะนี้มาก่อน ในคลิปเหตุการณ์ที่ถูกแชร์ในโซเชียล ตนเองถึงกับถามด้วยความตกใจว่า “ใครเอาน้ำมันเบนซินใส่” เพราะตอนที่นำโลงเข้าเตา ทีมงานและญาติผู้เสียชีวิตเป็นผู้จัดการ
อย่างไรก็ตาม หลังเกิดเหตุได้ให้ทีมงานตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง พบว่าไม่ได้ใช้น้ำมันเบนซิน แต่เป็นน้ำมันโซล่าหรือดีเซล ซึ่งเป็นเชื้อเพลิงที่ใช้ในการเผาศพตามปกติ ทำให้ยิ่งรู้สึกงงว่าเหตุใดจึงเกิดเปลวไฟที่รุนแรงผิดปกติเช่นนั้นได้ ทั้งนี้ ยังไม่ทราบสาเหตุที่แน่ชัด แต่อย่างไรก็ตาม หลังจากนี้จะเพิ่มความระมัดระวังในการประกอบพิธีมากขึ้น
ด้านพระครูวิบูลสีลาภิรม สีลสุทฺโธ เจ้าอาวาสวัดบ้านน้อยลำคลอง ได้กล่าวถึงเหตุการณ์นี้ว่า หลังเสร็จพิธีสวดมนต์และขึ้นไปร่วมวางดอกไม้จันทน์ ก็รู้สึกได้กลิ่นของแอลกอฮอล์และฟอร์มาลีนที่ฉีดดับกลิ่นศพแรงมากผิดปกติ จนมีอาการฉุนขึ้นจมูก ทำให้คาดว่าอาจมีการใช้สารเคมีฆ่าเชื้อและดับกลิ่นกับศพในปริมาณมากเกินไป
เจ้าอาวาสอธิบายว่า ตามหลักแล้วหากมีการใช้สารเคมีดังกล่าวมาก ควรมีการเปิดโลงเพื่อให้กลิ่นระเหยออกไปก่อนทำการเผา แต่ในกรณีนี้อาจจะไม่ได้เปิดโลงระบาย ทำให้เมื่อความร้อนจากเตาและเชื้อเพลิงทำปฏิกิริยากับสารเคมีในโลงศพ อาจเกิดการลุกไหม้และเปลวไฟพุ่งออกมาอย่างรวดเร็วและรุนแรงได้ ซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้ประกอบพิธี
พระครูวิบูลสีลาภิรม ยืนยันว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเป็นอุบัติเหตุที่เกิดจากความไม่รอบคอบของผู้ที่จัดการศพ ไม่ได้เกี่ยวข้องกับอาถรรพ์หรือสิ่งลี้ลับใดๆ ทั้งสิ้น และอยากให้เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจสัปเหร่อหรือผู้ที่ทำหน้าที่เกี่ยวกับการเผาศพทุกคน ให้มีความรอบคอบและระมัดระวังในทุกขั้นตอนของการประกอบพิธี เพื่อป้องกันอันตรายที่อาจเกิดขึ้นได้
ขณะที่คุณตา อายุ 77 ปี พยานผู้เห็นเหตุการณ์ ซึ่งอยู่ในบริเวณด้านล่างเมรุ เล่าว่า เห็นเปลวไฟลุกพุ่งใส่อาจารย์แจ๊คอย่างรวดเร็ว ตอนแรกก็คิดว่ามีการใช้น้ำมันผิดประเภทเป็นเบนซินหรือไม่ แต่เมื่อทราบว่าใช้โซล่าตามปกติ ก็เชื่อว่าไม่ได้เกิดจากน้ำมัน แต่สันนิษฐานเช่นเดียวกับเจ้าอาวาสว่า น่าจะเกิดจากการใช้แอลกอฮอล์ฆ่าเชื้อในปริมาณมากกับศพ แต่ไม่ได้เปิดโลงให้ระบายออก ทำให้เมื่อถูกความร้อนจึงเกิดเปลวไฟลุกแรง ไม่น่าใช่เรื่องอาถรรพ์แต่อย่างใด