ซิดนีย์, ออสเตรเลีย – บีบีซี รายงานความคืบหน้าผลการเลือกตั้งทั่วไปของประเทศออสเตรเลีย ซึ่งจัดขึ้นเมื่อวันเสาร์ที่ 3 พฤษภาคม 2025 ว่า พรรคแรงงาน ซึ่งเป็นพรรครัฐบาลฝ่ายซ้ายกลาง ภายใต้การนำของนายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี ได้รับชัยชนะอย่างถล่มทลายเหนือความคาดหมาย และมีคะแนนนำอย่างไม่เป็นทางการ

จากการนับคะแนนไปแล้วประมาณร้อยละ 63 พรรคแรงงานสามารถคว้าที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรไปได้ถึง 85 ที่นั่ง ซึ่งเกินกว่าเกณฑ์ขั้นต่ำที่ 76 ที่นั่งที่จำเป็นสำหรับการจัดตั้งรัฐบาลเสียงข้างมาก ขณะที่พันธมิตรพรรคเสรีนิยม-อนุรักษ์นิยม ซึ่งเป็นพรรคร่วมฝ่ายค้านหลัก ได้ไป 41 ที่นั่ง พรรคกรีนส์ยังไม่มีที่นั่งปรากฏในผลนับคะแนนเบื้องต้น และมีผู้สมัครอิสระ (Independent) ได้ที่นั่งในสภาไปแล้วอย่างน้อย 9 ที่นั่ง

นายกรัฐมนตรี แอนโทนี อัลบาเนซี กล่าวแสดงความยินดีกับผลการเลือกตั้ง โดยระบุว่า “วันนี้ชาวออสเตรเลียได้ลงคะแนนให้กับคุณค่าของออสเตรเลีย ทั้งเรื่องความยุติธรรม แรงบันดาลใจ และโอกาสสำหรับทุกคน เพื่อความเข้มแข็งในการแสดงความกล้าหาญในยามทุกข์ยาก และความเมตตาต่อผู้ที่ต้องการความช่วยเหลือ” คำกล่าวนี้สะท้อนถึงนโยบายและวิสัยทัศน์ที่พรรคแรงงานนำเสนอในช่วงหาเสียง

ในส่วนของฝ่ายค้าน นายปีเตอร์ ดัตตัน หัวหน้าพรรคร่วมฝ่ายค้าน ประสบความพ่ายแพ้ในการเลือกตั้งครั้งนี้ โดยเขาเสียที่นั่งในสภาผู้แทนราษฎรซึ่งเคยดำรงตำแหน่งมาอย่างยาวนานถึง 24 ปี นายดัตตันได้ออกมาแสดงความรับผิดชอบอย่างเต็มที่ต่อความพ่ายแพ้ของพรรค และได้กล่าวขอโทษต่อสมาชิกรัฐสภาในสังกัดพรรคร่วม

การเลือกตั้งครั้งนี้ถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญของพรรคแรงงานและนายแอนโทนี อัลบาเนซี เพราะเขากลายเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกของออสเตรเลียที่สามารถชนะการเลือกตั้งติดต่อกันได้ถึงสองสมัยในรอบกว่า 20 ปี ความสำเร็จนี้ยังน่าทึ่งยิ่งขึ้นเมื่อพิจารณาจากผลสำรวจความนิยมของนายอัลบาเนซีในช่วงต้นปี ซึ่งเคยดิ่งลงสู่ระดับต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนหนึ่งเป็นผลมาจากปัญหาเศรษฐกิจที่ซบเซา ซึ่งก่อให้เกิดความไม่พอใจในหมู่ประชาชนต่อการบริหารงานของรัฐบาล

ชัยชนะอย่างเด็ดขาดของพรรคแรงงานในครั้งนี้คาดว่าจะส่งผลต่อทิศทางการเมืองและนโยบายของออสเตรเลียในหลายด้าน โดยเฉพาะในประเด็นที่เกี่ยวกับเศรษฐกิจ สังคม และสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นประเด็นที่พรรคแรงงานให้ความสำคัญ

ก่อนหน้านี้ มีรายงานข่าวว่าการเลือกตั้งครั้งนี้ได้รับความสนใจจากประชาชนจำนวนมาก โดยมีผู้มีสิทธิเลือกตั้งกว่า 18 ล้านคน ออกมาใช้สิทธิ์อย่างคึกคัก และผลสำรวจเบื้องต้นก่อนวันเลือกตั้งยังคงแสดงการสนับสนุนต่อนายกรัฐมนตรี อัลบาเนซี