พรรคประชาชน พบหลักฐานต้องสงสัย “โพยซื้อเสียง” ก่อนเลือกตั้งเทศบาลนครเชียงใหม่ ยื่น กกต. สอบด่วน!
เชียงใหม่ – 2 พฤษภาคม 2568 – เมื่อเร็วๆ นี้ ความเคลื่อนไหวทางการเมืองก่อนการเลือกตั้งสมาชิกสภาเทศบาล (สท.) และนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ ได้รับความสนใจอย่างมาก หลังจากทีมหาเสียงของพรรคประชาชนได้ค้นพบหลักฐานที่อาจบ่งชี้ถึงความพยายามในการทุจริตการเลือกตั้ง
นายชัยธวัช ตุลาธน ผู้อำนวยการอาวุโสคณะก้าวหน้า ได้ออกมาเปิดเผยผ่านแพลตฟอร์ม X เมื่อวันที่ 2 พฤษภาคม 2568 โดยระบุว่า เมื่อช่วงต้นเดือนเมษายนที่ผ่านมา ทีมหาเสียงของพรรคประชาชนในพื้นที่เทศบาลนครเชียงใหม่ ได้พบสมุดบันทึกเล่มหนึ่ง ซึ่งเชื่อว่าเป็นของทีมหาเสียงจากพรรคการเมืองอื่น ที่ทำหล่นไว้
รายละเอียดที่ปรากฏในสมุดบันทึกเล่มดังกล่าวสร้างความตกตะลึง เนื่องจากมีการจดบันทึกข้อมูลไว้อย่างละเอียดหลายรายการ รวมถึงรายการที่คาดว่าเป็นรายชื่อหัวคะแนนที่รับผิดชอบในการระดมคนมาฟังการปราศรัย พร้อมระบุค่าใช้จ่ายหัวละ 200 บาท นอกจากนี้ ภายในสมุดยังมีเอกสารแนบเป็นบัญชีรายชื่อประชาชนในเขตเลือกตั้ง พร้อมข้อมูลส่วนตัวอย่างละเอียด ทั้งชื่อ-นามสกุล ทะเบียนบ้าน และเบอร์โทรศัพท์ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งรายชื่อหัวคะแนน หรือรายชื่อที่เตรียมไว้สำหรับกระบวนการที่เรียกว่า “ทำเส้น” ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีในวงการว่าเกี่ยวข้องกับการซื้อสิทธิ์ขายเสียง
ด้วยข้อมูลอันน่าสงสัยนี้ ทางทีมงานของพรรคประชาชนในจังหวัดเชียงใหม่จึงตัดสินใจที่จะดำเนินการตามขั้นตอนทางกฎหมาย เพื่อป้องกันไม่ให้เกิดการทุจริตในการเลือกตั้งครั้งนี้
ล่าสุดในวันนี้ (2 พฤษภาคม 2568) นายธีรวุฒิ แก้วฟอง ผู้สมัครนายกเทศมนตรีนครเชียงใหม่ จากพรรคประชาชน ได้เดินทางไปยังสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ (กกต.เชียงใหม่) เพื่อยื่นหลักฐานสมุดบันทึกต้องสงสัยดังกล่าว มอบให้เจ้าหน้าที่ กกต. ทำการตรวจสอบอย่างละเอียด
ทางด้าน นายนพดล สุยะ ผู้อำนวยการสำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้งประจำจังหวัดเชียงใหม่ ได้กล่าวถึงกรณีนี้ว่า ทาง กกต.เชียงใหม่ พร้อมอย่างยิ่งที่จะรับเรื่องร้องเรียนและหลักฐานที่เกี่ยวข้อง และจะดำเนินการสืบสวนสอบสวนหาข้อเท็จจริงในประเด็นนี้อย่างเร่งด่วนที่สุด เนื่องจากประเด็นการพบสมุดโพยต้องสงสัยนี้ ได้รับความสนใจอย่างกว้างขวางและมีการวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างมากในโลกออนไลน์และสังคมทั่วไป ซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่ส่งผลต่อความบริสุทธิ์ยุติธรรมของการเลือกตั้ง
การยื่นหลักฐานในครั้งนี้ถือเป็นความพยายามที่จะปกป้องสิทธิ์และเสียงของประชาชน รวมถึงสร้างความโปร่งใสในการเลือกตั้งท้องถิ่นที่กำลังจะมาถึง ซึ่งทุกฝ่ายต่างจับตาดูผลการสอบสวนของ กกต.เชียงใหม่ อย่างใกล้ชิด