ภูเก็ตอ่วม! เจ้าของห้องเช่าเปิดประตูผงะ ค่าเสียหายพุ่ง 3.5 แสน หลังผู้เช่าชาวยูเครนหมดสัญญา คาดฝีมือผู้เช่าชาวยูเครนที่เพิ่งย้ายออก ทำลายทรัพย์สินภายในห้องเช่าพังยับ ผนังเพดานเต็มไปด้วยการขีดเขียน ต้องใช้เงินซ่อมแซมมหาศาล เรื่องราวนี้กลายเป็นไวรัลบนโซเชียลมีเดีย เตือนภัยผู้ให้เช่าต้องรอบคอบ

เรื่องราวสุดช็อกและสร้างความตกใจให้กับวงการอสังหาริมทรัพย์และการให้เช่าที่พักในจังหวัดภูเก็ต เมื่อมีการแชร์ภาพและเรื่องราวสุดเศร้าของผู้ให้เช่ารายหนึ่งบนโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นสภาพห้องเช่าในคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งที่กลายเป็นสภาพไม่ต่างจากสนามรบ หรือถูกพายุถล่มอย่างหนัก หลังผู้เช่าหมดสัญญาและย้ายออกไป

ภาพที่ถูกโพสต์และแชร์ต่ออย่างรวดเร็ว แสดงให้เห็นความเสียหายอย่างรุนแรงภายในห้อง ผนังห้องหลายส่วนถูกขีดเขียนด้วยข้อความภาษาอังกฤษและรูปภาพต่างๆ จนแทบไม่เหลือเค้าโครงเดิม ไม่เว้นแม้แต่บนเพดาน ก็เต็มไปด้วยร่องรอยการทำลายล้าง เฟอร์นิเจอร์และเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องก็อยู่ในสภาพที่เสียหายอย่างหนัก จนแทบไม่สามารถใช้งานได้อีกต่อไป

จากข้อมูลที่ผู้โพสต์ซึ่งเป็นผู้ดูแลทรัพย์สินแทนเจ้าของได้ระบุไว้ ห้องเช่าดังกล่าวถูกปล่อยเช่าให้กับผู้เช่าหญิงชาวยูเครนคนหนึ่ง ชื่อ นางสาวอนาสตาเซีย (Anastasiia) โดยมีการทำสัญญาเช่าเป็นระยะเวลา 1 ปี ซึ่งสัญญานั้นได้หมดลงแล้ว แต่ผู้เช่ารายนี้กลับไม่ยอมย้ายออก จนกระทั่งวันนี้ (ตามวันที่เกิดเหตุการณ์) จึงได้ยอมย้ายออกไป แต่สิ่งที่ทิ้งไว้เบื้องหลังคือความเสียหายที่ประเมินค่าแทบไม่ได้

ผู้ดูแลเปิดเผยว่า หลังจากที่ผู้เช่าคนดังกล่าวได้ส่งคืนกุญแจ ซึ่งใช้วิธีการทิ้งกุญแจไว้ในถังขยะ แทนที่จะส่งมอบอย่างเป็นทางการ เมื่อเจ้าของและผู้ดูแลได้เข้าไปตรวจสอบสภาพภายในห้องถึงกับต้องผงะกับภาพที่เห็น ไม่คิดว่าผู้เช่าจะทำลายทรัพย์สินได้ถึงขนาดนี้ สภาพห้องพังเสียหายยับเยินกว่าที่คาดคิดไว้มาก

จากการประเมินความเสียหายในเบื้องต้น ทั้งค่าซ่อมแซมผนัง เพดาน การทำความสะอาดครั้งใหญ่ และค่าเปลี่ยนเฟอร์นิเจอร์รวมถึงเครื่องใช้ไฟฟ้าที่เสียหาย คาดว่าต้องใช้งบประมาณในการฟื้นฟูสภาพห้องกลับคืนมาให้เหมือนเดิมสูงถึง 350,000 บาท ซึ่งถือเป็นจำนวนเงินที่มหาศาลและสร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับเจ้าของทรัพย์สิน

เรื่องราวนี้ได้สร้างกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในโซเชียลมีเดีย ผู้คนส่วนใหญ่แสดงความเห็นใจต่อเจ้าของทรัพย์สิน และประณามการกระทำของผู้เช่าที่จงใจทำลายทรัพย์สินเช่นนี้ หลายรายที่เป็นผู้ให้เช่าหรือมีแผนจะปล่อยเช่าอสังหาริมทรัพย์ ต่างเข้ามาแสดงความกังวลและสอบถามถึงวิธีการป้องกันความเสี่ยงจากผู้เช่าที่อาจสร้างปัญหาในลักษณะเดียวกัน

เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์สำคัญสำหรับผู้ที่ต้องการปล่อยเช่าทรัพย์สิน ควรมีการตรวจสอบประวัติผู้เช่าอย่างรอบคอบ มีการทำสัญญาที่รัดกุม ระบุถึงความรับผิดชอบในกรณีที่เกิดความเสียหาย และอาจพิจารณาการทำประกันภัยทรัพย์สินเพิ่มเติม เพื่อลดความเสี่ยงจากเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ เพราะการตกอยู่ในสถานการณ์เดียวกับเจ้าของห้องเช่าในภูเก็ตรายนี้ คงไม่มีใครอยากให้เกิดขึ้นกับตัวเอง.