สำนักงานตำรวจแห่งชาติ, 1 พฤษภาคม 2568 – มีรายงานจากสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยถึงผลการปฏิบัติงานที่น่าทึ่งของ “AI Police Cyborg 1.0” หรือหุ่นตำรวจที่มีกล้อง AI อัจฉริยะ ซึ่งเป็นนวัตกรรมที่พัฒนาขึ้นโดยตำรวจภูธรจังหวัดนครปฐม ภายใต้การสนับสนุนของตำรวจภูธรภาค 7 และเทศบาลนครนครปฐม

หุ่น AI Police Cyborg 1.0 ได้ถูกนำไปติดตั้งและปฏิบัติหน้าที่ในงานเทศกาลและกิจกรรมสำคัญต่างๆ โดยเริ่มเปิดตัวอย่างเป็นทางการในงานเทศกาลสงกรานต์ถนนต้นสน จังหวัดนครปฐม ที่ผ่านมา มีเป้าหมายหลักเพื่อป้องกัน ป้องปราม และตรวจจับอาชญากรรมในพื้นที่สาธารณะ

สิ่งที่น่าสนใจและถือเป็นความสำเร็จครั้งสำคัญคือ ระบบ AI ในหุ่นยนต์สามารถจับภาพและประมวลผลข้อมูลผู้ต้องหาตามหมายจับที่เข้าร่วมงานเทศกาลหรือกิจกรรมต่างๆ ได้ ส่งผลให้สามารถติดตามจับกุมผู้ต้องหาที่ซ่อนตัวปะปนอยู่ในฝูงชนได้แล้วจำนวนทั้งสิ้น 14 ราย

เทคโนโลยีของ AI Police Cyborg 1.0

ระบบ AI Police Cyborg 1.0 มีความสามารถพิเศษในการดึงสัญญาณภาพจากกล้อง CCTV ทั่วไปที่มีอยู่เดิมในบริเวณงาน รวมถึงกล้องจากโดรนที่ใช้ดูแลความปลอดภัย และกล้องรอบตัวหุ่นตำรวจเอง มารวมศูนย์และประมวลผลด้วยระบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) ที่ติดตั้งอยู่ในตัวหุ่น

ความสามารถหลักของระบบ AI นี้ ได้แก่:

• Video Analytics: สามารถวิเคราะห์ภาพวิดีโอจากแหล่งต่างๆ ได้พร้อมกัน
• Blacklist Face Recognition: จดจำใบหน้าและเชื่อมโยงกับฐานข้อมูลหมายจับและบุคคลเฝ้าระวัง โดยจะแจ้งเตือนทันทีที่ตรวจพบบุคคลเหล่านี้ ซึ่งอาจเป็นผู้ที่ตั้งใจมาก่อเหตุอันตรายภายในงาน
• Weapon Detection: ตรวจจับอาวุธต่างๆ เช่น ดาบ มีด ไม้หน้าสาม หรือวัตถุอื่นใดที่มีลักษณะคล้ายอาวุธและอาจเป็นอันตรายได้

ผลการปฏิบัติงานและเสียงชื่นชมจาก ผบ.ตร.

จากรายงานของตำรวจภูธรภาค 7 พบว่า ผลการจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับ 14 ราย มาจากการติดตั้งระบบ AI Police Cyborg 1.0 ในหลายพื้นที่ เช่น:

• ติดตั้งที่สนามไก่ชน พุทธมณฑลสาย 5 จังหวัดนครปฐม สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด ร่วมกันลักทรัพย์ พยายามฆ่า และความผิดตาม พ.ร.บ.อาวุธปืน ได้ 4 ราย
• ติดตั้งในพื้นที่ สภ.เมืองนครปฐม สามารถจับกุมผู้ต้องหาตามหมายจับคดียาเสพติด และความผิดตาม พ.ร.บ.เรี่ยไร ได้ 1 ราย

ด้าน พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ พันธุ์เพ็ชร์ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ (ผบ.ตร.) ได้กล่าวชื่นชมหุ่นตำรวจ AI Police Cyborg 1.0 ว่ารู้สึกดีใจและประหลาดใจมากกับนวัตกรรมนี้ ทราบว่าเป็นผลงานการคิดค้นและพัฒนาของกลุ่มตำรวจในพื้นที่ โดยใช้งบประมาณไม่สูงนัก ได้รับความร่วมมือที่ดีจากเทศบาลนครนครปฐมในการสนับสนุนงบประมาณติดตั้งกล้อง AI

พล.ต.อ.กิตติ์รัฐ กล่าวเสริมว่า แม้ประชาชนจะสนใจถ่ายรูปกับหุ่นยนต์จำนวนมาก แต่สิ่งสำคัญที่ได้จากระบบนี้คือ ความปลอดภัยของประชาชน เพราะประชาชนทุกคนที่อยู่ในงานเสมือนอยู่ในสายตาของเจ้าหน้าที่ตลอดเวลา โดยไม่จำเป็นต้องใช้กำลังพลจำนวนมาก

“ตอนนี้คนรู้แล้ว เราอยากให้ประชาชนรู้ ให้คนร้ายกลัวว่าเรามีระบบแบบนี้ เราจะก้าวไป ผมมั่นใจว่าในอีก 6 เดือนข้างหน้า เราจะให้เจ้าหน้าที่อยู่ในจุดที่ควรทำงาน เกิดความปลอดภัย นำ AI มาช่วยให้มากที่สุด ลดอาชญากรรม ลดภัยคุกคามของพี่น้องประชาชน โดยให้เครื่องมือพิเศษมาช่วยตำรวจในการทำงาน ลดความเสี่ยง ลดการสูญเสีย” ผบ.ตร. กล่าว

พร้อมกันนี้ ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติยังได้กล่าวว่าจะพิจารณาให้รางวัลแก่กลุ่มตำรวจผู้คิดค้นนวัตกรรมนี้ และอาจให้ตำรวจภูธรภาค 7 เป็นต้นแบบในการถ่ายทอดองค์ความรู้และเทคโนโลยีนี้ไปยังหน่วยงานอื่น ๆ เพื่อขยายผลการใช้งานให้เกิดประโยชน์สูงสุดต่อไป