พระนครศรีอยุธยา – “กัน จอมพลัง” พา 2 เหยื่อ ด.ญ. 13 และเพื่อน 16 ปี เข้าพบ ผกก.สภ.บางบาล หลังถูกกลุ่มวัยรุ่นกว่า 6 คนรุมทำร้ายบาดเจ็บ ตำรวจเร่งไล่ล่าครบ 11 ราย รวบแล้ว 9 จ่อดำเนินคดีผู้ปกครองฐานปล่อยปละละเลย ซ้ำกำชับตรวจเข้มจุดเกิดเหตุประตูระบายน้ำบางบาล แหล่งมั่วสุมยามค่ำคืน

จากกรณีเหตุการณ์สะเทือนใจ เด็กหญิงวัยเพียง 13 ปี ตกเป็นเหยื่อถูกกลุ่มเยาวชนทั้งชาย หญิง และเพศหลากหลาย กว่า 6 คน รุมทำร้ายร่างกายจนได้รับบาดเจ็บที่ใบหน้าและริมฝีปาก เหตุเกิดบริเวณประตูระบายน้ำปากคลองบางบาล จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เมื่อไม่นานมานี้ ซึ่งเรื่องราวถูกนำเสนอผ่านสื่อต่างๆ และสร้างความกังวลใจให้กับสังคมอย่างมาก

ล่าสุด เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ความคืบหน้าในคดีนี้เป็นไปอย่างรวดเร็ว โดย นายกัณฐัศว์ พงศ์ไพบูลย์เวชย์ หรือ “กัน จอมพลัง” ได้ให้ความช่วยเหลือเหยื่อผู้เสียหายทั้งสองราย ประกอบด้วย เด็กหญิงวัย 13 ปี และเพื่อนรุ่นพี่วัย 16 ปี พร้อมกับพาเข้าพบ พันตำรวจเอก สรรเสริญ กรีอารี ผู้กำกับการสถานีตำรวจภูธรบางบาล เพื่อแจ้งความร้องทุกข์และติดตามความคืบหน้าของคดี

ในการเข้าพบครั้งนี้ “กัน จอมพลัง” ได้กล่าววิงวอนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความคุ้มครองความปลอดภัยแก่เหยื่อและเพื่อนของเหยื่อ ที่ออกมาเปิดเผยเรื่องราวผ่านโซเชียลมีเดีย เนื่องจากยังคงถูกกลุ่มผู้ก่อเหตุโพสต์ข้อความในลักษณะข่มขู่คุกคามอย่างต่อเนื่อง สร้างความหวาดกลัวให้กับผู้เสียหายและผู้ที่เกี่ยวข้อง

ด้าน พันตำรวจเอก สรรเสริญ กรีอารี ผู้กำกับการ สภ.บางบาล ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าของคดีว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการสืบสวนสอบสวนจนทราบตัวผู้ร่วมก่อเหตุทั้งหมดแล้ว มีจำนวนทั้งสิ้น 11 ราย ซึ่งขณะนี้สามารถติดตามจับกุมตัวมาได้แล้ว 9 ราย และยังเหลือผู้ต้องหาอีก 2 รายที่อยู่ระหว่างการติดตามตัว หากผู้ต้องหาที่เหลือยังไม่เดินทางเข้ามอบตัวตามกระบวนการ ก็จะดำเนินการออกหมายเรียกและดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป

ผกก.สภ.บางบาล กล่าวเพิ่มเติมว่า ในจำนวนผู้ก่อเหตุ 11 รายนั้น มีเยาวชนอายุต่ำกว่า 18 ปี จำนวน 6 ราย และผู้ที่มีอายุเกิน 18 ปี อีก 5 ราย ซึ่งสำหรับผู้ต้องหาที่เป็นเยาวชน จะต้องมีการสอบสวนโดยทีมสหวิชาชีพ ซึ่งประกอบด้วยพนักงานสอบสวน อัยการ นักสังคมสงเคราะห์ และนักจิตวิทยา เพื่อให้การสอบสวนเป็นไปตามหลักการคุ้มครองเด็กและเยาวชน โดยจะทำการแยกบทบาทและพฤติการณ์ของผู้กระทำผิดแต่ละรายให้มีความชัดเจน ว่าใครมีส่วนร่วม ใครเป็นผู้ลงมือทำร้าย เพื่อดำเนินการตามกฎหมายกับทุกคนที่มีส่วนเกี่ยวข้อง

เบื้องต้น พนักงานสอบสวนได้แจ้งข้อกล่าวหา “ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นให้ได้รับอันตรายแก่ร่างกายและจิตใจ” ไว้ก่อนแล้ว อย่างไรก็ตาม หากผลการตรวจของแพทย์ระบุว่าผู้เสียหายได้รับบาดเจ็บสาหัส ก็อาจมีการพิจารณาเพิ่มข้อกล่าวหาให้หนักขึ้นตามพยานหลักฐานและผลการสอบสวนต่อไป

พันตำรวจเอก สรรเสริญ ยังได้ย้ำว่า ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจจะให้ความเป็นธรรมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในคดีนี้ และจะให้การดูแลความปลอดภัยแก่ผู้เสียหายเป็นอย่างดี พร้อมกันนี้ ได้กล่าวถึงบริเวณจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นประตูระบายน้ำของอำเภอบางบาล โดยยอมรับว่าในช่วงเย็นมักจะมีประชาชนทั่วไปเดินทางไปนั่งพักผ่อน แต่ในช่วงเวลากลางคืน มักจะมีกลุ่มวัยรุ่นเข้าไปรวมตัวกันเป็นประจำ ซึ่งทางตนได้สั่งการให้สายตรวจในพื้นที่เข้าตรวจตราอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันการเกิดเหตุการณ์ความรุนแรงซ้ำขึ้นอีก และยังฝากถึงประชาชนรายอื่นๆ ที่เคยถูกกลุ่มวัยรุ่นกลุ่มนี้กระทำ ก็ขอให้เข้ามาแจ้งความเพิ่มเติมได้ที่ สภ.บางบาล เพื่อความเป็นธรรมและดำเนินคดีตามกฎหมาย

ประเด็นสำคัญอีกประเด็นที่ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังพิจารณา คือ การดำเนินคดีกับผู้ปกครองของผู้ก่อเหตุบางราย หากพบว่ามีการปล่อยปละละเลยให้เยาวชนในความดูแลไปกระทำความผิดซ้ำซาก หรือมีพฤติกรรมที่เป็นอันตรายต่อสังคม ก็อาจเข้าข่ายความผิดตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง

ด้าน นางสาวเฟิร์น เพื่อนรุ่นพี่ของผู้เสียหายวัย 16 ปี ที่เดินทางมาพร้อมกัน ยอมรับว่ารู้สึกหวาดกลัวเป็นอย่างมาก หลังจากที่เธอได้โพสต์คลิปเหตุการณ์ความรุนแรงที่เกิดขึ้นลงบนโซเชียลมีเดีย ซึ่งเป็นจุดเริ่มต้นที่ทำให้เรื่องนี้ถูกเปิดเผยและทำให้ “กัน จอมพลัง” เข้ามาให้การช่วยเหลือ เธอยืนยันว่าน้องผู้เสียหายวัย 13 ปี ไม่เคยมีปัญหาหรือความขัดแย้งใดๆ กับกลุ่มผู้ก่อเหตุมาก่อน แต่กลับถูกหลอกลวงให้ออกมายังจุดเกิดเหตุเพื่อถูกทำร้ายร่างกายโดยไม่มีสาเหตุ

ขณะที่ “แม่บิว” ผู้ปกครองของ 1 ในกลุ่มผู้ก่อเหตุ ได้เปิดใจกับผู้สื่อข่าว โดยยอมรับว่าเพิ่งทราบเรื่องราวที่เกิดขึ้นจากข่าวบนโซเชียลมีเดีย และเมื่อได้สอบถามลูกสาว ก็ยอมรับว่าเคยมีการ “นัดไปตีกันหลายครั้ง” เธอกล่าวด้วยความกังวลว่า ลูกสาวตัวใหญ่แต่สมองยังไม่ใหญ่พอที่จะคิดไตร่ตรองสิ่งต่างๆ ไม่ได้อยากโทษใคร แต่อย่างไรก็ตาม ก็ยอมรับว่าควบคุมดูแลลูกสาวยาก แม้ว่าจะมีสามีและมีลูกเป็นของตัวเองแล้ว แต่ก็ยังติดเพื่อน และหวาดกลัวว่าลูกจะถูกชักชวนให้ไปก่อเหตุในลักษณะนี้อีก

เหตุการณ์นี้สะท้อนให้เห็นถึงปัญหาความรุนแรงในกลุ่มเยาวชนที่ยังคงเป็นเรื่องสำคัญที่ทุกฝ่ายต้องร่วมมือกันแก้ไข ทั้งครอบครัว สถาบันการศึกษา และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะการควบคุมดูแลพฤติกรรมของเยาวชนในพื้นที่เสี่ยงต่างๆ เช่น บริเวณประตูน้ำบางบาล ซึ่งมักเป็นแหล่งรวมตัวของวัยรุ่นในยามค่ำคืน

ตำรวจ สภ.บางบาล ย้ำชัดอีกครั้งว่าจะกวดขันพื้นที่ประตูน้ำบางบาลให้เข้มงวดมากขึ้น พร้อมทั้งเปิดรับแจ้งเบาะแสเพิ่มเติมจากประชาชนที่เคยถูกกลุ่มดังกล่าวทำร้าย เพื่อรวบรวมพยานหลักฐานและดำเนินคดีกับผู้ก่อเหตุทุกคนอย่างเด็ดขาด