ดีเอสไอคืบหน้าคดี ‘นอมินี’ โครงการก่อสร้าง สตง. เปิดตรวจเอกสาร 121 ลัง เร่งสอบวิศวกร พบหลายรายรับสารภาพ ‘ถูกปลอมลายเซ็น’

กรุงเทพฯ, 1 พฤษภาคม 2568 – กรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) เดินหน้าคลี่คลายคดีความผิดเกี่ยวกับการประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว (นอมินี) ที่เกี่ยวข้องกับโครงการก่อสร้างอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) โดยล่าสุดได้ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเปิดตรวจเอกสารสำคัญจำนวนมาก พร้อมเร่งสอบปากคำพยานวิศวกร ซึ่งพบข้อมูลน่าตกใจว่าหลายรายรับสารภาพว่าถูกปลอมแปลงลายเซ็น

เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม ที่ห้องอบรมความเชี่ยวชาญ กรมสอบสวนคดีพิเศษ ศูนย์ราชการฯ ถนนแจ้งวัฒนะ พ.ต.ท.อมร หงษ์ศรีทอง ผู้อำนวยการกองคดีความผิดเกี่ยวกับการเสนอราคาต่อหน่วยงานของรัฐ ดีเอสไอ ได้เปิดเผยถึงความคืบหน้าก่อนจะดำเนินการเปิดตรวจเอกสารสำคัญร่วมกับผู้แทนจากสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) กรมโยธาธิการและผังเมือง ผู้แทนกิจการร่วมค้า ITD-CREC (บริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) และบริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 เอ็นจิเนียริ่ง กรุ๊ป (ประเทศไทย) จำกัด) และผู้แทนกิจการร่วมค้า PKW ซึ่งเป็นผู้รับจ้างในโครงการนี้

พ.ต.ท.อมร กล่าวว่า การดำเนินการในวันนี้แบ่งเป็น 2 ส่วนหลัก คือ ส่วนแรก การสอบสวนปากคำพยานวิศวกรภายใต้กิจการร่วมค้า PKW จำนวน 10 ราย โดยมีวิศวกรยืนยันเข้าให้ปากคำ 8 ราย แบ่งเป็นช่วงเช้า 4 ราย และช่วงบ่าย 4 ราย ส่วนที่สอง คือ การเปิดตรวจเอกสารที่ดีเอสไอได้อายัดมาจากตู้คอนเทนเนอร์ 26 ตู้ บริเวณไซต์งานก่อสร้างชั่วคราวของ สตง. ซึ่งมีเอกสารรวมทั้งสิ้น 121 ลัง

การเปิดตรวจเอกสาร 121 ลังในครั้งนี้ มีผู้แทนจากทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมอย่างพร้อมเพรียง เพื่อร่วมกันตรวจสอบอย่างละเอียด เนื่องจากเอกสารเหล่านี้ถูกตรวจยึดมาจากตู้คอนเทนเนอร์ที่พวกเขาครอบครอง การตรวจสอบร่วมกันจะช่วยให้ทุกฝ่ายรับทราบและลดความสงสัยได้ โดยมีเจ้าหน้าที่จากกรมโยธาธิการและผังเมืองเข้าร่วมตรวจและจำแนกประเภทเอกสาร เพื่อพิจารณาว่าจะยึดเอกสารรายการใดไว้เป็นพยานหลักฐานในสำนวนคดี และรายการใดที่ไม่เกี่ยวข้องก็จะส่งคืนให้ ซึ่งเจ้าหน้าที่โยธาธิการฯ ที่เข้าร่วมเป็นฝ่ายเลขานุการจากคณะกรรมการชุดใหญ่ฯ และจะดูประเด็นสำคัญ 5 เรื่อง

เอกสารที่คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษต้องการนำเข้าสู่สำนวน ประกอบด้วย เอกสารเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างทั้งหมด, เอกสารเกี่ยวกับการออกแบบงาน, เอกสารการควบคุมงาน, เอกสารการแก้ไขเปลี่ยนแปลงแบบ และเอกสารเกี่ยวกับวัสดุ

ต่อมา ได้รับรายงานจากคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษที่ 32/2568 ซึ่งเป็นคดีความผิดตาม พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจของคนต่างด้าว พ.ศ. 2542 หรือคดีนอมินีของ บริษัท ไชน่า เรลเวย์ นัมเบอร์ 10 (ประเทศไทย) จำกัด ว่า ภายหลังจากการเปิดตรวจเอกสาร 121 ลัง ร่วมกับทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง ซึ่งใช้เวลาดำเนินงานนานกว่า 5 ชั่วโมง ตั้งแต่เวลา 09.30 น. ถึง 14.30 น. การตรวจสอบและจำแนกเอกสารได้เสร็จสิ้นเรียบร้อย โดยภายใน 1 ลังเอกสาร จะประกอบด้วย 6 แฟ้ม มีรายงานว่าเอกสารบางส่วนได้ถูกนำไปใช้ประกอบการพิจารณาในสำนวนคดี

ในส่วนของการสอบปากคำพยานวิศวกรที่ถูกออกหมายเรียก 40 รายนั้น ดีเอสไอได้ทำการสอบปากคำมาตั้งแต่วันที่ 29 เมษายน ถึง 1 พฤษภาคม รวมแล้ว 25 ราย โดยในวันนี้ (1 พฤษภาคม) พยานวิศวกรทั้ง 8 รายได้เข้าให้ปากคำครบถ้วน สำหรับวิศวกรอีก 10 รายที่เหลือ จะเข้าให้ปากคำในวันที่ 2 พฤษภาคม ซึ่งเป็นวันสุดท้ายของการสอบปากคำตามหมายเรียกชุดนี้ ส่วนวิศวกรที่ไม่ได้มาตามนัดหมาย จะมีการออกหมายเรียกซ้ำอีกครั้งภายในสัปดาห์นี้

ข้อมูลสรุปคำให้การของพยานวิศวกรทั้ง 25 รายที่สอบปากคำไปแล้วมีดังนี้

  • วันที่ 29 เมษายน 2568: พยานวิศวกรเข้าพบ 7 ราย, ยอมรับว่ามีการปลอมลายเซ็น 6 ราย, ยอมรับว่าเป็นลายเซ็นตนเองจริง 1 ราย
  • วันที่ 30 เมษายน 2568: พยานวิศวกรเข้าพบ 10 ราย, ยอมรับว่ามีการปลอมลายเซ็น 6 ราย, ยอมรับว่าเป็นลายเซ็นตนเองจริง 4 ราย
  • วันที่ 1 พฤษภาคม 2568: พยานวิศวกรเข้าพบ 8 ราย, ยอมรับว่ามีการปลอมลายเซ็น 7 ราย, ยอมรับว่าเป็นลายเซ็นตนเองจริง 1 ราย

รวมแล้ว จากวิศวกร 25 รายที่ถูกสอบปากคำ มีถึง 19 รายที่ยอมรับว่าลายเซ็นของตนเองถูกปลอมแปลงในเอกสารที่เกี่ยวข้องกับโครงการนี้

ในเวลาต่อมา ผู้สื่อข่าวได้สอบถามผู้แทน สตง. ที่เพิ่งเดินออกจากห้องตรวจสอบเอกสาร ได้รับคำยืนยันว่าการตรวจเอกสารเสร็จสิ้นแล้ว โดยส่วนใหญ่เป็นเอกสารของผู้รับจ้างที่ตรวจพบในตู้คอนเทนเนอร์ เมื่อถามถึงความผิดปกติ ผู้แทน สตง. ระบุว่ายังไม่ทราบ ยังไม่ได้พิจารณา สำหรับเอกสารที่เป็นของ สตง. เอง มีทั้งหมด 30 ลัง ซึ่งจำนวนมาก แต่ไม่ได้ถูกนำเข้าสำนวนดีเอสไอทั้งหมด มีเพียงบางส่วนที่นำเข้าและบางส่วนถูกส่งคืน

ขณะที่ผู้แทนจากกรมโยธาธิการและผังเมือง กิจการร่วมค้า PKW และกิจการร่วมค้า ITD-CREC ต่างเดินทางกลับเรียบร้อยแล้ว แสดงให้เห็นถึงความคืบหน้าที่สำคัญในการรวบรวมพยานหลักฐานและข้อมูลเพื่อขยายผลในคดีนอมินีดังกล่าวต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *