เพชรบูรณ์ – เหตุการณ์สุดเศร้าสลดรับต้นเดือนพฤษภาคม เมื่อชายวัยกลางคนออกไปหาอึ่งและกบในช่วงกลางดึกที่ฝนตกหนักและมีพายุฝนที่จังหวัดเพชรบูรณ์ แต่กลับต้องมาจบชีวิตลงอย่างกะทันหันด้วยฤทธิ์ของธรรมชาติ โดยถูกฟ้าผ่าเข้าอย่างจังขณะกำลังขี่รถจักรยานยนต์กลับบ้าน พบศพเสียชีวิตคาอยู่บนรถ สภาพเสื้อผ้าขาดกระจุย และยังพบถุงอึ่งอ่างและกบที่หามาได้จำนวนมากตกอยู่ในที่เกิดเหตุ

เมื่อเวลา 06.10 น. ของวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรพุเตย จังหวัดเพชรบูรณ์ ได้รับแจ้งเหตุมีผู้เสียชีวิตจากการถูกฟ้าผ่าบนถนนภายในหมู่บ้าน หมู่ที่ 6 ตำบลภูน้ำหยด อำเภอวิเชียรบุรี จังหวัดเพชรบูรณ์ ภายหลังรับแจ้ง จึงรีบประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลวิเชียรบุรี และเจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูพุเตย เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุอย่างเร่งด่วน

ที่เกิดเหตุเป็นถนนคอนกรีตภายในหมู่บ้าน เจ้าหน้าที่พบศพชายคนหนึ่งอยู่ในสภาพนอนตะแคงเสียชีวิตคร่อมอยู่บนรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีน้ำเงิน-ดำ หมายเลขทะเบียน ขคต 245 เพชรบูรณ์ จากการตรวจสอบสภาพศพเบื้องต้น พบร่องรอยคล้ายถูกกระแสไฟฟ้าแรงสูงและมีบาดแผลฉกรรจ์ โดยสภาพเสื้อพลาสติกที่สวมใส่สำหรับกันฝนถูกฟ้าผ่าจนขาดกระจายเป็นชิ้นเล็กชิ้นน้อยเกลื่อนพื้น นอกจากนี้ยังพบไฟฉายคาดศีรษะที่ผู้เสียชีวิตใช้สำหรับส่องหาสัตว์ตกอยู่ในที่เกิดเหตุด้วย

สิ่งที่สร้างความสะเทือนใจอีกอย่างคือ พบถุงตาข่ายขนาดใหญ่ ภายในบรรจุอึ่งอ่างและกบจำนวนมาก ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้เสียชีวิตได้ออกไปหาในช่วงที่มีฝนตกหนักเมื่อคืนที่ผ่านมา วางอยู่ใกล้ๆ ศพและรถจักรยานยนต์ แสดงให้เห็นว่าผู้เสียชีวิตกำลังเดินทางกลับบ้านหลังจากออกไปประกอบอาชีพเสริมหรือหาอาหารในช่วงฤดูฝน

จากการสอบถามชาวบ้านในพื้นที่ใกล้เคียง ให้ข้อมูลว่า เมื่อคืนที่ผ่านมาในช่วงเวลาประมาณตีสองถึงตีสาม ได้ยินเสียงฟ้าร้องและฟ้าผ่าดังขึ้นหลายครั้งอย่างน่ากลัว จนกระทั่งรุ่งเช้า ชาวบ้านจึงได้ออกมาพบร่างของผู้เสียชีวิตนอนอยู่บนถนน คาดว่าผู้เสียชีวิตน่าจะออกไปหาจับกบจับอึ่งในช่วงที่มีฝนตกหนักและพายุรุนแรงเมื่อคืน และอาจถูกฟ้าผ่าเสียชีวิตในขณะที่กำลังขี่รถจักรยานยนต์อยู่บนถนน

ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกภาพและรายละเอียดในที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน พร้อมสอบสวนพยานแวดล้อมเพื่อสรุปสาเหตุการเสียชีวิตที่แท้จริง อย่างไรก็ตาม ทางญาติของผู้เสียชีวิตไม่ติดใจในสาเหตุการเสียชีวิตครั้งนี้ และขอรับศพไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป

ทั้งนี้ เจ้าหน้าที่หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูพุเตย ได้ให้ความช่วยเหลือในการเคลื่อนย้ายศพผู้เสียชีวิตไปยังวัด และยังได้ช่วยทำความสะอาดร่างกายและเปลี่ยนเสื้อผ้าให้แก่ผู้เสียชีวิตจนเสร็จสิ้น ก่อนที่จะมอบศพให้กับญาตินำไปจัดการตามประเพณี

เหตุการณ์นี้เป็นอุทาหรณ์เตือนใจให้ประชาชนเพิ่มความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการอยู่ในพื้นที่โล่งแจ้ง หรือใช้เครื่องมือสื่อสาร/อุปกรณ์ไฟฟ้าโลหะ ในช่วงเวลาที่เกิดพายุฝนฟ้าคะนองรุนแรง

ขอบคุณภาพจาก: หน่วยกู้ภัยร่วมกตัญญูพุเตย