NIA จับมือ Farm Expo ลงนาม MOU ขับเคลื่อน ‘AgTech’ ไทย สู่เวทีโลก ยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกร
กรุงเทพฯ – สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) หรือ NIA และ บริษัท ฟาร์ม เอ็กซ์โป จำกัด ได้ร่วมลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือในการขับเคลื่อนการพัฒนาธุรกิจ เทคโนโลยี นวัตกรรม และการส่งเสริมตลาดในอุตสาหกรรมการเกษตรไทย โดยมีเป้าหมายสำคัญคือการสร้างความสามารถในการแข่งขันระดับสากล และยกระดับคุณภาพชีวิตเกษตรกรไทยอย่างยั่งยืน
พิธีลงนามดังกล่าวจัดขึ้นเมื่อวันพุธที่ 30 เมษายน 2568 ณ อาคารอุทยานนวัตกรรม สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ โดยมี ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง ผู้อำนวยการ สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ และนายนรบดี ผดุงเจริญ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ฟาร์ม เอ็กซ์โป จำกัด ร่วมลงนามในครั้งนี้
ดร.กริชผกา บุญเฟื่อง เปิดเผยว่า การลงนาม MOU ครั้งนี้ ตอกย้ำถึงความมุ่งมั่นของ NIA ในการเร่งเสริมสร้างความแข็งแกร่งให้กับผู้ประกอบการฐานนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีการเกษตร หรือ AgTech ของไทย ผ่านความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างภาครัฐและเอกชน เพื่อผลักดันนวัตกรรมไปสู่การใช้จริงในภาคการเกษตร สร้างมูลค่าเพิ่ม และเตรียมความพร้อมสำหรับการแข่งขันในตลาดโลก รวมถึงการพัฒนาคุณภาพชีวิตความเป็นอยู่ของเกษตรกรไทยให้ดีขึ้นอย่างยั่งยืน
ในฐานะ “ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม” ของประเทศ NIA มีบทบาทสำคัญในการสร้างระบบนิเวศนวัตกรรมที่เอื้อต่อการเติบโต ผ่านกลไกหลัก 4 ด้าน ได้แก่ Groom – Grant – Growth – Global ครอบคลุมตั้งแต่การบ่มเพาะไอเดีย การสนับสนุนเงินทุน การขยายขนาดธุรกิจ ไปจนถึงการผลักดันเข้าสู่ตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมเป้าหมายอย่างเทคโนโลยีการเกษตร การผนึกกำลังกับ ฟาร์ม เอ็กซ์โป ซึ่งเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการจัดงานมหกรรมการเกษตรในร่มที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และเป็นเจ้าของลิขสิทธิ์การแข่งขัน AGRITHON จะเป็นพลังสำคัญในการสื่อสาร ต่อยอดผลงานวิจัยและนวัตกรรมด้านเกษตรให้เข้าถึงกลุ่มเป้าหมาย ผ่านกิจกรรมหลากหลาย เช่น การจัดแสดงนวัตกรรม การแข่งขันพัฒนาเทคโนโลยี และการส่งเสริมการนำไปใช้จริงในระดับเกษตรกรรากหญ้า ที่ผ่านมา NIA และ ฟาร์ม เอ็กซ์โป ต่างมีบทบาทในการสร้างผู้ประกอบการ AgTech รุ่นใหม่กว่า 60 ราย และขยายเครือข่ายเกษตรกรที่เข้าถึงเทคโนโลยีเกษตรแล้วกว่า 20,000 รายทั่วประเทศ
“เราเชื่อมั่นว่าการขับเคลื่อนนวัตกรรมเพื่อเศรษฐกิจและสังคมไทย ภายใต้แนวคิด ‘Focal Conductor’ หรือ ‘ผู้กำหนดทิศทางนวัตกรรม’ โดยการเชื่อมโยงเครือข่ายพันธมิตรทั้งในและต่างประเทศ จะเป็นกุญแจสำคัญ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในอุตสาหกรรมเกษตร ซึ่งเป็นฐานรากที่สำคัญของเศรษฐกิจประเทศ เราจะเน้นการดำเนินงานผ่าน 4 กลไกหลัก เพื่อสนับสนุนไอเดียธุรกิจใหม่ๆ ตั้งแต่ต้นน้ำ (R&D) จนถึงปลายน้ำ (ตลาดในประเทศและต่างประเทศ) มุ่งหวังให้ผู้ประกอบการนวัตกรรมด้านการเกษตรสามารถนำเสนอโซลูชันที่ตอบโจทย์ปัญหาเร่งด่วนของภาคเกษตรกร เช่น การรับมือกับการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การขาดแคลนแรงงาน และความต้องการลดต้นทุนพร้อมเพิ่มผลผลิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและยั่งยืน” ดร.กริชผกากล่าวเสริม
ด้าน นายนรบดี ผดุงเจริญ กล่าวถึงความร่วมมือครั้งนี้ว่า การจับมือกับ NIA จะช่วยเร่งกระบวนการบ่มเพาะนวัตกรรมด้านการเกษตรให้รวดเร็วยิ่งขึ้น ตั้งแต่การถ่ายทอดองค์ความรู้ การทดลองใช้จริงในพื้นที่ ไปจนถึงการขยายผลในระดับภูมิภาคและระดับประเทศ โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ การยกระดับภาคการเกษตรไทยให้ก้าวขึ้นเป็นผู้นำด้าน AgTech ในภูมิภาคอาเซียนอย่างแท้จริง ซึ่งรวมถึงการสร้าง Startup ด้าน AgTech ให้เกิดขึ้นใหม่และเติบโตอย่างก้าวกระโดด การขยายการเข้าถึงนวัตกรรมของเกษตรกรไทยให้ครอบคลุมไม่น้อยกว่า 100,000 ราย การสร้างโมเดลธุรกิจเกษตรสมัยใหม่ที่สามารถแข่งขันได้ในตลาดโลก และการสนับสนุนการจับคู่ธุรกิจ (Business Matching) ระหว่างเกษตรกร นักพัฒนานวัตกรรม และนักลงทุน
“ฟาร์ม เอ็กซ์โป มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในการสร้างเวทีกลางเพื่อรวบรวมเทคโนโลยี องค์ความรู้ และนวัตกรรมด้านการเกษตร เพื่อให้เข้าถึงเกษตรกรรากหญ้าได้อย่างเป็นรูปธรรม ผ่านการจัดงานมหกรรมขนาดใหญ่ และการแข่งขัน AGRITHON ซึ่งเป็นเวทีสำคัญในการค้นหาและส่งเสริมเหล่านักพัฒนานวัตกรรมเกษตรหน้าใหม่ จากการจัดงานที่ผ่านมา เราสามารถรวบรวมผู้แสดงสินค้าและนวัตกรรมได้มากกว่า 300 ราย และมีผู้เข้าชมงานกว่า 35,000 คน
ในปีนี้ เรายังได้ขยายการสนับสนุนด้านเงินทุนสำหรับการพัฒนานวัตกรรมและเงินลงทุนรวมมูลค่ากว่า 100 ล้านบาท ผ่านรายการแนวเรียลลิตี้โชว์ และการจัด Roadshow ไปยัง 8 จังหวัดสำคัญทั่วประเทศ เพื่อให้เกษตรกรได้มีโอกาสสัมผัสและทดลองใช้นวัตกรรมและเทคโนโลยีจริง พร้อมนำไปต่อยอดในพื้นที่การเกษตรของตนเอง ความร่วมมือกับ NIA ในครั้งนี้ ถือเป็นการเปิดศักราชใหม่ของการสร้างความเปลี่ยนแปลงเชิงบวกในภาคการเกษตรไทย นำพาเกษตรกรไทยก้าวสู่ยุคใหม่ที่ขับเคลื่อนด้วยพลังของนวัตกรรม สร้างเศรษฐกิจฐานรากที่แข็งแกร่ง มั่นคง และยั่งยืนในเวทีโลก” นายนรบดีกล่าวปิดท้าย