สะเทือนวงการ! ผอ.รพ.เมาขับพุ่งชนทีมข่าวสำนักดังบาดเจ็บ ปฏิเสธจ่าย 3 แสน ลั่น “ลาออกสู้คดี” ไม่รอเกษียณปีหน้า
ชัยภูมิ – เรื่องร้อนในวงการสาธารณสุข! ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในจังหวัดชัยภูมิ ขับรถยนต์ส่วนตัวพุ่งชนทีมข่าวสำนักดังที่กำลังนั่งรับประทานอาหารริมทางจนได้รับบาดเจ็บ เหตุการณ์นี้พบปริมาณแอลกอฮอล์สูงเกินกว่าที่กฎหมายกำหนด ล่าสุด การเจรจาค่าเสียหายกับผู้บาดเจ็บยังไม่ลงตัว โดย ผอ.รพ. ปฏิเสธยอดเงินที่เรียก พร้อมประกาศตัดสินใจลาออกจากราชการทันทีเพื่อไปต่อสู้คดีความแทนการรอเกษียณในปีหน้า
จากกรณีที่ นพ.พุทธา ผู้อำนวยการโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในพื้นที่จังหวัดชัยภูมิ ได้ขับรถยนต์ยี่ห้อโตโยต้า ฟอร์จูนเนอร์ ซึ่งติดสติ๊กเกอร์ “กระทรวงสาธารณสุข” อยู่ที่ข้างรถ เสียหลักพุ่งชน นายเอส อายุ 33 ปี ผู้ช่วยช่างภาพ และ นายทศวรรษ อายุ 35 ปี ช่างภาพ ของสำนักข่าวแห่งหนึ่ง ขณะที่ทั้งสองกำลังนั่งรับประทานอาหารอยู่บริเวณหน้าร้านริมถนน ในพื้นที่ ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ชัยภูมิ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 22.16 น. ของคืนวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ส่งผลให้ทีมข่าวทั้งสองนายได้รับบาดเจ็บ โดยภายหลังเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ของ นพ.พุทธา พบว่ามีค่าสูงถึง 119 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์
ความคืบหน้าล่าสุดในวันนี้ (1 พฤษภาคม 2568) เวลาประมาณ 13.00 น. ได้มีการนัดหมายเพื่อทำการไกล่เกลี่ยข้อพิพาทและเจรจาเรื่องค่าเสียหายและค่ารักษาพยาบาล โดยมี พ.ต.อ.พิชิต มีแสง รองผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดชัยภูมิ ทำหน้าที่เป็นคนกลางในการเจรจาระหว่าง นพ.พุทธา กับผู้เสียหายทั้งสองราย
ในการเจรจาเบื้องต้น ทางฝ่ายผู้เสียหายได้เรียกค่าทำขวัญและค่ารักษาพยาบาลเป็นเงินจำนวนรวม 300,000 บาท อย่างไรก็ตาม นพ.พุทธา ได้ปฏิเสธยอดเงินจำนวนดังกล่าว ทำให้การเจรจาในครั้งนี้ยังไม่เป็นผลสำเร็จ
เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงจำเป็นต้องเลื่อนการนัดไกล่เกลี่ยออกไปก่อน โดยกำหนดนัดหมายครั้งต่อไปเป็นวันที่ 15 พฤษภาคมนี้ เพื่อรอให้ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บจากการถูกชน มีเวลาพักฟื้นและรักษาตัวจนกว่าอาการจะดีขึ้น และเพื่อรอผลการตรวจใบรับรองแพทย์ยืนยันระดับอาการบาดเจ็บอย่างเป็นทางการ นอกจากนี้ ยังต้องรอผลการตรวจปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดอย่างละเอียด ซึ่งได้มีการส่งไปตรวจสอบที่สถาบันการแพทย์ในจังหวัดนครราชสีมาแล้ว คาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 7 วันจึงจะทราบผล
สิ่งที่สร้างความประหลาดใจในระหว่างการพูดคุย คือการที่ นพ.พุทธา ได้กล่าวทิ้งท้ายในห้องประชุมว่า เดิมทีตนเองเตรียมตัวที่จะเกษียณอายุราชการภายในระยะเวลาอีก 1 ปีข้างหน้านี้ และตั้งใจให้โรงพยาบาลที่ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการอยู่ในปัจจุบัน เป็นโรงพยาบาลสุดท้ายในชีวิตราชการ แต่เมื่อเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝันเช่นนี้ขึ้น จึงตัดสินใจที่จะไม่รอจนถึงเวลาเกษียณ และขอเลือกที่จะลาออกจากราชการทันที เพื่อที่จะได้เดินทางไปต่อสู้คดีความตามกระบวนการทางกฎหมายอย่างเต็มที่
เหตุการณ์นี้สร้างคำถามและข้อถกเถียงในสังคมถึงความรับผิดชอบของผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง และการใช้รถราชการที่ติดสติ๊กเกอร์หน่วยงานของรัฐในการกระทำผิด ซึ่งจะต้องติดตามความคืบหน้าของคดีและการเยียวยาผู้เสียหายต่อไป
ขอบคุณข้อมูลจาก: อมรินทร์ทีวี