กรุงเทพมหานคร – วันที่ 1 พฤษภาคม 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าการรื้อถอนซากอาคารสำนักงานการตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) แห่งใหม่ ที่เกิดเหตุถล่มว่า เจ้าหน้าที่ได้ดำเนินการขนย้ายรถแบคโฮยักษ์รุ่น SK1000 สีชมพู ฉายา “จอมมารบู” คันหมายเลข 22 ออกจากพื้นที่ เพื่อนำกลับไปยังที่ตั้งบริษัทแล้ว หลังเสร็จสิ้นภารกิจสำคัญในการรื้อถอนซากอาคารในส่วนที่สูง

รถแบคโฮ SK-1000 “จอมมารบู” ได้เริ่มปฏิบัติงานในพื้นที่อาคาร สตง. ตั้งแต่วันที่ 9 เมษายน 2568 และทำงานต่อเนื่องมาจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 รวมระยะเวลาทั้งสิ้น 24 วัน

สำหรับในช่วงแรกที่เกิดเหตุถล่ม เมื่อต้นเดือนเมษายน ซากอาคารมีความสูงถึงประมาณ 27 เมตร หรือเทียบเท่าตึก 5 ชั้น ซึ่งเป็นอุปสรรคสำคัญต่อการค้นหาและรื้อถอน เจ้าหน้าที่จึงได้ระดมเครื่องจักรหนักกว่า 20 คัน ทั้งรถเครนและรถแบคโฮหลายขนาด เข้ามาร่วมปฏิบัติภารกิจค้นหาร่างผู้สูญหายในซากอาคาร

ต่อมา เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานในพื้นที่สูงและมีซากอาคารที่ซับซ้อน ทางเจ้าหน้าที่จึงได้นำรถแบคโฮ SK-1000 หรือ “จอมมารบู” ซึ่งได้รับการกล่าวขานว่าเป็นรถแบคโฮขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทย เข้ามาเสริมภารกิจ รถคันนี้มีความสามารถพิเศษในการขุด เจาะ คีบ และตัดเส้นเหล็กที่ระโยงระยาง รวมถึงแผ่นผนังปูนที่ถล่มลงมาในลักษณะ “แพนเค้ก” ซึ่งเป็นอุปสรรคต่อการทำงานของเครื่องจักรทั่วไป

รถแบคโฮ SK1000 ได้รับการสนับสนุนจากเสี่ยโจ้ แห่งบริษัท ปิยะมิตรกรุ๊ป เข้ามาช่วยเหลือในภารกิจนี้ เนื่องจากความสามารถในการทำงานที่ความสูงและสามารถรับน้ำหนักได้มาก ทำให้การรื้อถอนซากอาคารในส่วนที่สูงสามารถดำเนินการไปได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ จนสามารถลดความสูงของซากอาคารลงได้เป็นระยะๆ

ล่าสุด เมื่อวานนี้ (30 เมษายน 2568) เจ้าหน้าที่สามารถเคลียร์เศษซากโครงสร้างอาคารในส่วนที่อยู่เหนือพื้นดินจนถึงบริเวณชั้น 1 หรือพื้นราบได้สำเร็จเรียบร้อยแล้ว ทำให้ภารกิจหลักของรถแบคโฮยักษ์ SK1000 ในการทำงานที่ความสูงได้เสร็จสิ้นลง เนื่องจากรถ SK1000 มีสมรรถภาพและถูกออกแบบมาเพื่องานในที่สูงเป็นหลัก

ส่วนการทำงานในบริเวณที่เหลือ ซึ่งส่วนใหญ่เป็นพื้นที่ชั้นใต้ดิน สามารถใช้เครื่องจักรหนักหรือรถแบคโฮขนาดทั่วไปปฏิบัติงานต่อไปได้ ทำให้ไม่จำเป็นต้องใช้รถ SK1000 อีกต่อไป จึงได้มีการส่งมอบรถคืนบริษัทผู้สนับสนุน แต่ยังคงมีรถแบคโฮขนาดเล็กอื่นๆ อยู่ร่วมในภารกิจเก็บกวาดและรื้อถอนส่วนที่เหลือตามเดิม

การเสร็จสิ้นภารกิจของ “จอมมารบู” ถือเป็นก้าวสำคัญในการจัดการกับซากอาคาร สตง. ที่ถล่มลงมา แสดงให้เห็นถึงการทำงานร่วมกันของเครื่องจักรและเจ้าหน้าที่ในการแก้ไขสถานการณ์ที่ยากลำบากนี้