สืบ 8 รวบ ‘เอก จูเนียร์’ หัวโจกแก๊งลัก จยย. ส่งออกเพื่อนบ้าน พบเงินหมุนเวียน 3 ล้าน ผู้เสียหายกว่า 1,000 ราย
กรุงเทพมหานคร – 1 พฤษภาคม 2568
ตำรวจกองบังคับการสืบสวนสอบสวน กองบัญชาการตำรวจนครบาล 8 (บก.น.8) ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผบช.น., พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รองผบช.น. และ พล.ต.ต.สุรเชษฐ์ บัณฑิตย์ ผบก.น.8 พร้อมทีมงาน นำโดย พ.ต.ต.ณกฤตชัย สุขนิล สว.กก.สส.บก.น.8 ได้แถลงข่าวความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาในคดีสำคัญ
โดยเมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 เวลา 10.50 น. ชุดสืบสวน กก.สส.บก.น.8 ได้ร่วมกันจับกุม นายณัฐพล หรือ “เอก จูเนียร์” อายุ 42 ปี ที่บริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส วุฒากาศ แขวงบางค้อ เขตจอมทอง กรุงเทพมหานคร ผู้ต้องหาในคดีลักทรัพย์
การจับกุมครั้งนี้สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ออกสืบสวนติดตามกลุ่มคนร้ายที่มีพฤติกรรมลักรถจักรยานยนต์ในพื้นที่รับผิดชอบและใกล้เคียง จนได้รับเบาะแสว่ามีบุคคลต้องสงสัยปรากฏตัวบริเวณใต้สถานีรถไฟฟ้าบีทีเอส จึงได้ลงพื้นที่ตรวจสอบ และพบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัย ยี่ห้อฮอนด้า สีเทา ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จอดอยู่ ลักษณะเบ้ากุญแจถูกทำลายและไม่ได้ล็อกคอ
จากการตรวจสอบหมายเลขตัวถัง รถจักรยานยนต์คันดังกล่าว มีทะเบียนเลขที่ ขฒ 4230 กทม. ซึ่งเป็นรถที่ถูกแจ้งหายไว้ที่ สน.ประเวศ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้วางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ จนกระทั่งพบนายณัฐพลฯ นั่งซ้อนท้ายรถจักรยานยนต์รับจ้างมา และเดินตรงเข้ามาที่รถคันดังกล่าวเพื่อจะขับขี่ออกไป เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงแสดงตัวเข้าจับกุม พร้อมแจ้งข้อหา “ลักทรัพย์หรือรับของโจร”
รายงานข่าวแจ้งว่า จากการสอบสวนขยายผล นายณัฐพล หรือ “เอก จูเนียร์” มีพฤติการณ์ร่วมกับแก๊งลักรถจักรยานยนต์ โดยมีการแบ่งหน้าที่กันทำ นายณัฐพลฯ มีหน้าที่มารับรถจักรยานยนต์ที่ถูกขโมยมา ซึ่งส่วนใหญ่เบ้ากุญแจจะถูกทำลาย เพื่อนำไปเปลี่ยนหรือซ่อมแซมให้พร้อมใช้งาน ก่อนจะนำไปพักไว้ที่จังหวัดสมุทรสาคร เพื่อเตรียมส่งต่อไปขายยังประเทศเพื่อนบ้าน ทำเป็นขบวนการเพื่อหาเงิน
จากการตรวจสอบประวัติ นายณัฐพลฯ พบว่าเคยมีประวัติเกี่ยวข้องกับคดียาเสพติดหลายครั้ง โดยเคยถูกจับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติดที่ สน.ภาษีเจริญ เมื่อปี 2553 และที่ สน.บางขุนเทียน เมื่อปี 2564 ซึ่งแสดงให้เห็นว่ามีพฤติกรรมทางอาชญากรรมต่อเนื่อง
ความเสียหายที่เกิดจากแก๊งของ “เอก จูเนียร์” มีจำนวนมาก รายงานเบื้องต้นระบุว่ามีผู้เสียหายแล้วกว่า 1,000 ราย ในพื้นที่กรุงเทพฯ และปริมณฑล นอกจากนี้ จากการตรวจสอบบัญชีธนาคารของนายณัฐพลฯ พบยอดเงินหมุนเวียนสูงถึงกว่า 3 ล้านบาท ภายในระยะเวลาเพียง 6 เดือน ซึ่งสอดคล้องกับขนาดของขบวนการนี้
ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจอยู่ระหว่างการสืบสวนขยายผลเพื่อเชื่อมโยงกับท้องที่ต่างๆ ที่เกิดเหตุ และเร่งติดตามจับกุมเครือข่ายที่เหลือ เพื่อนำตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป