“เอ ศุภชัย” เปิดใจวงการบันเทิงซบเซาหนัก! จัด “A fair” ช่วยคนในวงการฯ พร้อมเคลียร์ดราม่าไข่พะโล้ ยันสมราคา
กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ณ ลานโปรโมชั่น ชั้น 1 เซ็นทรัล เวสเกต คุณเอ ศุภชัย ศรีวิจิตร นักปั้นมือทองและนักธุรกิจชื่อดัง ได้เปิดงาน “A fair อร่อยเกรดเอ by A Supachai” พร้อมให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์ปัจจุบันของวงการบันเทิง และประเด็นที่หลายคนให้ความสนใจเกี่ยวกับธุรกิจอาหารของเธอ
คุณเอ ศุภชัย กล่าวเปิดใจถึงเหตุผลของการจัดงาน A fair ว่า เป็นเพราะสถานการณ์ในวงการบันเทิงช่วงนี้เงียบกว่าที่เคย ทำให้ศิลปิน นักแสดง รวมถึงบุคลากรเบื้องหลังอย่างช่างหน้าช่างผม มีงานน้อยลง เธอจึงอยากจัดงานนี้ขึ้นมาเพื่อเป็นพื้นที่ให้ทุกคนได้มีรายได้ “ตั้งแต่ที่พี่เอทำอาหารขายก็ได้มีโอกาสได้รู้จักหลายคนที่ขายของ ได้รู้จักวงการอาหาร และความเป็นคนชอบกินชอบชิมแต่อาหารอร่อยเราก็อยากเอามาให้ทุกคนได้เจอ เลยเกิดไอเดียขึ้นมาว่าน่าจะจัดเป็นงานแฟร์ขึ้น เลยเกิดงาน A fair ขึ้นมา” เธอกล่าวเสริมว่า งานนี้ยังเป็นโอกาสให้น้องๆ ศิลปินมาแสดงความสามารถ ได้ร้องเพลง และผู้ประกอบการธุรกิจอาหารได้นำสินค้ามาขาย เป็นการสร้างอีเวนต์ในช่วงที่วงการบันเทิงซบเซามาก เพื่อให้ทุกคนมีงานทำ
เมื่อถูกถามว่าปีนี้วงการบันเทิงเงียบกว่าปีที่แล้วหรือไม่ คุณเอยืนยันว่า “สำหรับพี่เอเงียบมากเลยค่ะ พี่ไม่รู้จะเจอน้องๆ ในสังกัดด้วยวิธีไหน มันไม่มีละคร ไม่มีอะไรเลยนอกจากจัดงานนี้ให้พี่ๆ นักข่าวได้มาเจอ” เธอยังเปรียบเทียบว่าการทำงานในยุคที่ทีวีวิดีโอยังเฟื่องฟูนั้นดูจะขับเคลื่อนไปได้ดีกว่ายุคปัจจุบัน แม้ภาพจะไม่ชัดเท่า แต่ธุรกิจกลับดูคึกคักกว่านี้ ทำให้เธอต้องพยายามหาช่องทางใหม่ๆ เพื่อให้ทุกคนที่เธอรักได้มีงานและมีรายได้อยู่ได้
ในส่วนของธุรกิจอาหารที่ประสบความสำเร็จอย่างมาก โดยเฉพาะเมนูไข่พะโล้ คุณเอ ศุภชัย กล่าวว่า ไข่พะโล้หม้อเดียวนี้ทำให้คนในวงการอาหารหันมามองเธอมากขึ้น จากเดิมที่คนอาจจะฟังเรื่องอาหารของเธอเพียงครึ่งเดียว แต่ตอนนี้กลับให้ความสนใจมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด และยังเป็นจุดเริ่มต้นให้เธอได้ช่วยเหลือชุมชน อย่างโปรเจกต์ขายมะยงชิดที่ทำร่วมกับชาวบ้าน และสามารถทำยอดขายได้ถึงเจ็ดหลัก เธอมองว่าตัวเองเป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเกษตรกรที่ผลิตได้ดีแต่ไม่ถนัดการตลาด กับผู้บริโภคในเมืองที่มีกำลังซื้อและต้องการสินค้าคุณภาพ
สำหรับประเด็นดราม่าเรื่องราคาไข่พะโล้ที่หลายคนมองว่าสูงเมื่อเทียบกับเศรษฐกิจ คุณเอ ศุภชัย ชี้แจงว่า “พี่เอว่ามันสมราคามากกว่าค่ะ” เธอกล่าวว่าแม้จะขายได้ปริมาณมากในบางช่วง (เคยทำยอดสูงสุดถึง 2.5 ล้านบาทต่อวันในช่วงพีค) แต่กำไรที่เหลือนั้นไม่ได้เยอะอย่างที่คิด เนื่องจากเธอเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพดีและปรุงตามความอร่อยโดยไม่จำกัดต้นทุน การทำอาหารแบบ “ครัวบ้านเอ” เน้นคุณภาพจนคนทานแล้วรู้สึกอยากทานอีก ซึ่งนี่คือจุดแข็งที่ทำให้คนยังคงอุดหนุนมาจนถึงทุกวันนี้
เมื่อถามถึงแผนการขยายธุรกิจในอนาคต คุณเอเปิดเผยว่า ตอนนี้มี “อาณาจักรครัวบ้านเอ” แล้ว และมีแผนจะขยาย “อาณาจักร A fair” ไปจัดตามจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศไทย เพื่อค้นหาสินค้าท้องถิ่นของแต่ละพื้นที่มาอยู่ในงาน และยังคงมีศิลปินมาร่วมสร้างความบันเทิงให้กับผู้เข้าชมด้วย
ปิดท้ายด้วยประเด็นคอนเทนต์ในโซเชียลมีเดีย ที่ช่วงหลังมาพร้อมกับเสียงเอฟเฟกต์ต่างๆ เช่น เสียงกรอบเมื่อทานอาหาร คุณเอ ศุภชัย ยืนยันว่าเธอทำคอนเทนต์เพื่อให้ผู้ชมได้ดูอย่างสนุกสนาน ไม่ต้องคิดมาก และอยากให้หัวเราะไปกับความบ้าๆ บอๆ ที่เธอนำเสนอ ส่วนคอมเมนต์ที่ดูแรง เธอมองว่าส่วนใหญ่เป็นการแซวด้วยความรัก “ถ้าไม่ด่าพ่อล่อแม่ก็จะไม่ค่อยร้องไห้ เพราะเขาแซวกันแบบเพราะรัก” เธอเสริมอย่างอารมณ์ดี และขอให้ผู้ชมดูคอนเทนต์ของเธอแล้วยิ้มไปด้วยกัน
การจัดงาน A fair ในครั้งนี้จึงไม่ใช่แค่การรวมสินค้าและอาหารอร่อย แต่ยังสะท้อนถึงความพยายามของคุณเอ ศุภชัย ในการปรับตัวและสร้างโอกาสใหม่ๆ ให้กับผู้คนในวงการบันเทิงและธุรกิจต่างๆ ในช่วงเวลาที่ท้าทาย