กรุงเทพฯ, 1 พฤษภาคม 2568 – เนื่องในวันแรงงานแห่งชาติ (May Day) ประจำปี 2568 สมาพันธ์สมานฉันท์แรงงานไทย (สสรท.) และสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ (สรส.) พร้อมด้วยเครือข่ายผู้ใช้แรงงานจากหลากหลายกลุ่มอาชีพหลายพันคน ได้รวมตัวเดินขบวนจากอนุสาวรีย์ประชาธิปไตย มุ่งหน้าสู่ทำเนียบรัฐบาล เพื่อยื่นข้อเรียกร้องและสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนต่อรัฐบาล โดยมีไฮไลท์สำคัญคือการเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 492 บาทเท่ากันทั่วประเทศ และคัดค้านการผลักดันร่าง พ.ร.บ.สถานบันเทิงครบวงจร ที่มีเรื่องบ่อนการพนันแฝงอยู่

บรรยากาศตั้งแต่ช่วงเช้าที่บริเวณอนุสาวรีย์ประชาธิปไตยคึกคักไปด้วยผู้ใช้แรงงานจากเครือข่ายต่างๆ อาทิ สหภาพแรงงานชิ้นส่วนยานยนต์และโลหะแห่งประเทศไทย, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการยางแห่งประเทศไทย, สมาคมเครือข่ายแรงงานนอกระบบ (ประเทศไทย), สมาพันธ์แรงงานอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย, สมาพันธ์แรงงานฮอนด้าแห่งประเทศไทย, สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการประปาส่วนภูมิภาค (สร.กปภ.) สหภาพแรงงานการบินไทย และอีกมากมาย ที่มาร่วมแสดงพลัง โดยผู้เดินขบวนได้ถือป้ายสัญลักษณ์ต่างๆ เพื่อสื่อสารข้อเรียกร้อง เช่น ป้าย “May Day 2025 วันกรรมกรสากล”, “แก๊สแพง”, “ลาคลอด 180 วัน จ่ายค่าจ้าง 100%”, และ “Say No Casino” เป็นต้น

นายสาวิทย์ แก้วหวาน ประธานสสรท. กล่าวถึงการรวมตัวในครั้งนี้ว่า เป็นการจัดกิจกรรมวันกรรมกรสากลเพื่อเฉลิมฉลอง และที่สำคัญคือการร่วมกันสะท้อนปัญหาความเดือดร้อนของผู้ใช้แรงงานและประชาชนในปี 2568 จึงจำเป็นต้องยื่นข้อเรียกร้องเร่งด่วนและข้อเสนออื่นๆ ต่อรัฐบาล น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อให้แก้ไขปัญหาและนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมอย่างยั่งยืน

สำหรับข้อเสนอเร่งด่วน 6 ข้อ ที่เครือข่ายแรงงานยื่นต่อรัฐบาล ประกอบด้วย:

1. คัดค้านร่าง พ.ร.บ.การประกอบธุรกิจสถานบันเทิงครบวงจร พ.ศ. …. เนื่องจากมีเรื่องบ่อนการพนัน (คาสิโน) แฝงอยู่ ซึ่งขัดต่อหลักการของรัฐธรรมนูญ ยุทธศาสตร์ชาติ ปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ศาสนา ศีลธรรม จริยธรรม และการคัดค้านของประชาชนส่วนใหญ่ รัฐบาลต้องหยุดผลักดันและยกเลิกการพนันออนไลน์ถูกกฎหมาย
2. รัฐต้องหยุดการแปรรูปรัฐวิสาหกิจทุกรูปแบบ และให้รัฐวิสาหกิจเป็นกลไกหลักในการจัดบริการสาธารณะเพื่อความมั่นคงและความผาสุกของประชาชน
3. รัฐต้องเร่งรับรองอนุสัญญาองค์การแรงงานระหว่างประเทศ (ILO) ฉบับที่ 155 ว่าด้วยความปลอดภัยและสุขภาพอนามัยในการทำงาน ค.ศ. 1981
4. รัฐต้องวางมาตรการเข้มข้นเพื่อหยุดการคอร์รัปชันทุกรูปแบบ เพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการที่โปร่งใส ตรวจสอบได้ เปิดให้ประชาชนมีส่วนร่วม และเพิ่มกลไกตรวจสอบการใช้เงินประกันสังคม โดยเฉพาะการจัดซื้อตึก
5. รัฐต้องสนับสนุน ส่งเสริมสถานประกอบการของคนไทย สร้างงาน สร้างอาชีพ ค่าจ้างที่เป็นธรรม และเข้มงวด ตรวจสอบ คัดกรองกลุ่มทุนที่ไม่พึงประสงค์ (ทุนเทา – ทุนดำ – นอมินี) ทั้งในและต่างประเทศ ที่เอาเปรียบแรงงานและทำลายทรัพยากร
6. รัฐต้องเร่งช่วยเหลือเยียวยาแรงงานทุกคนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุการณ์ตึกสำนักงานตรวจเงินแผ่นดิน (สตง.) ถล่ม เป็นกรณีเร่งด่วน

นอกจากข้อเสนอเร่งด่วนแล้ว เครือข่ายแรงงานยังได้ย้ำถึงข้อเรียกร้องที่เคยเสนอมาหลายปี เช่น การกำหนดค่าจ้างแรงงานที่เป็นธรรม โดยเฉพาะการปรับค่าจ้างขั้นต่ำเป็น 492 บาทเท่ากันทั้งประเทศ การกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำแรกเข้าให้เพียงพอเลี้ยงชีพตนเองและครอบครัว 3 คน และเท่ากันทั้งภาครัฐและเอกชน รวมถึงการกำหนดให้มีโครงสร้างค่าจ้างและปรับค่าจ้างทุกปี

นายสาวิทย์ ยังกล่าวถึงข้อเรียกร้องให้รัฐบาลช่วยลดรายจ่ายประชาชน เช่น การควบคุมราคาสินค้าจำเป็น, ลดราคาน้ำมัน ก๊าซ, ยกเลิกการเก็บเงินซ้ำซ้อนเข้ากองทุนต่างๆ, ลดค่าขนส่ง ค่าเดินทาง ค่าโทรศัพท์ ค่าอินเทอร์เน็ต และลดราคาค่าไฟฟ้า พร้อมเรียกร้องให้รัฐจัดสวัสดิการถ้วนหน้าที่มีคุณภาพให้กับประชาชนทุกคนอย่างเท่าเทียม ยกเลิกการจ้างงานแบบไม่มั่นคง และปฏิรูปประกันสังคม

ก่อนเริ่มการเคลื่อนขบวน เครือข่ายผู้ใช้แรงงานยังได้ร่วมกันยืนสงบนิ่งไว้อาลัยเป็นเวลา 1 นาที และวางช่อดอกไม้ เพื่อรำลึกถึงและไว้อาลัยให้แก่เพื่อนผู้ใช้แรงงานที่เสียชีวิตจากเหตุการณ์ตึก สตง. ถล่ม

ผู้สื่อข่าวรายงานเพิ่มเติมว่า ในเวลาเดียวกันนั้น น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ไม่ได้อยู่ที่ทำเนียบรัฐบาล แต่ได้เดินทางไปเป็นประธานในพิธีเปิดโครงการบริการด้านสุขภาพที่อิมแพ็ค เมืองทองธานี