กรุงเทพฯ – เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยข้อมูลที่น่าสนใจจากผลสำรวจระดับโลก โดยระบุว่า อิปซอสส์ (IPSOS) บริษัทวิจัยตลาดชั้นนำระดับโลก ได้เผยแพร่รายงานดัชนีความสุขโลกประจำปี 2025 ซึ่งผลการสำรวจดังกล่าวชี้ให้เห็นว่า ประเทศไทยติดอันดับที่ 7 ของประเทศที่ประชากรมีความสุขมากที่สุด

การสำรวจครั้งนี้จัดทำขึ้นระหว่างวันที่ 20 ธันวาคม 2024 ถึง 3 มกราคม 2025 โดย IPSOS ได้เก็บข้อมูลจากประชากรจำนวน 23,765 คน ใน 30 ประเทศทั่วโลก โดยเน้นกลุ่มตัวอย่างที่มีอายุต่ำกว่า 75 ปี ผลสำรวจได้แบ่งระดับความสุขของประชากรออกเป็น 4 ระดับ ได้แก่ มีความสุขมาก ค่อนข้างมีความสุข ไม่มีความสุข และไม่มีความสุขเลย

นายอนุกูลกล่าวว่า จากผลสำรวจ พบว่า มีคนไทยเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ระบุว่า “ไม่มีความสุขเลย” ซึ่งตัวเลขนี้ถือเป็นสัญญาณที่ดีที่สะท้อนให้เห็นถึงคุณภาพชีวิตและสภาพจิตใจของคนไทยในภาพรวมที่ยังคงอยู่ในระดับที่ดี แม้จะเผชิญกับความท้าทายต่างๆ ก็ตาม

เมื่อพิจารณาในบริบทของภูมิภาคเอเชียเฉพาะกลุ่ม 7 ประเทศที่ IPSOS ทำการสำรวจ พบว่า ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 3 ของประเทศที่ประชากรมีความสุขมากที่สุดในกลุ่มนี้ โดยอันดับ 1 คือประเทศอินเดีย และอันดับ 2 คือประเทศอินโดนีเซีย

สำหรับรายละเอียดผลสำรวจของประเทศไทย พบว่า ประชากรร้อยละ 18 ระบุว่ามีความสุขมาก ร้อยละ 61 ระบุว่าค่อนข้างมีความสุข ร้อยละ 19 ระบุว่าไม่มีความสุข และมีเพียงร้อยละ 2 เท่านั้นที่ระบุว่าไม่มีความสุขเลย ซึ่งหากรวมกลุ่มที่มีความสุขมากและค่อนข้างมีความสุข จะคิดเป็นร้อยละ 79 ของประชากรทั้งหมด

นายอนุกูลยังได้กล่าวถึงประเทศที่มีระดับความสุขใกล้เคียงกับประเทศไทยในกลุ่มเอเชีย โดยระบุว่า ประเทศมาเลเซียมีอันดับความสุขเท่ากับไทย ตามมาด้วยสิงคโปร์และญี่ปุ่นในอันดับที่ 4 (ร่วม) และเกาหลีใต้อยู่ในอันดับที่ 5 ในกลุ่มประเทศเอเชียที่ทำการสำรวจ

นอกจากนี้ ผลสำรวจของ IPSOS ยังได้เจาะลึกถึงปัจจัยหลักที่ส่งเสริมความสุขของประชาชน 3 ประการ ได้แก่ การได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว และลูกๆ การได้รับการยอมรับ และความรักจากผู้อื่น รวมถึงความสามารถในการควบคุมชีวิตของตนเองได้

ในทางตรงกันข้าม ปัจจัยที่ส่งผลให้ระดับความสุขลดลง ได้แก่ ปัญหาทางการเงิน ปัญหาสุขภาพจิต และปัญหาด้านสุขภาพโดยรวม ซึ่งเป็นสิ่งที่รัฐบาลให้ความสำคัญและพยายามแก้ไขอย่างต่อเนื่อง

ในด้านการจำแนกตามกลุ่มอายุ ผลวิจัยพบว่า ผู้ที่มีอายุ 70 ปีขึ้นไปเป็นกลุ่มที่มีระดับความสุขมากที่สุด ขณะเดียวกัน ผลวิจัยยังชี้ให้เห็นว่า ในกลุ่มเจเนอเรชัน Z (Gen Z) เพศชายมีระดับความสุขสูงกว่าเพศหญิงในช่วงวัยเดียวกัน

นายอนุกูลย้ำว่า รัฐบาลตระหนักถึงความสำคัญของความสุขและคุณภาพชีวิตของประชาชน และพร้อมเดินหน้ายกระดับบริการด้านสาธารณสุข การสร้างความมั่นคงทางรายได้ และการส่งเสริมความสัมพันธ์อันดีในครอบครัว เพื่อให้คนไทยมีความสุขในการดำรงชีวิตอย่างแท้จริง รวมถึงจะเร่งผลักดันนโยบายเพื่อเสริมสร้างสุขภาวะที่ยั่งยืนในทุกกลุ่มประชากร โดยเฉพาะในกลุ่มประชากรวัยทำงานและผู้สูงอายุ ให้มีความเป็นอยู่ที่ดีทั้งกายและใจอย่างถ้วนหน้า