ช็อก! พบห้องคอนโดภูเก็ตพังยับเยิน ค่าเสียหายกว่า 3.5 แสนบาท หลังนักท่องเที่ยวชาวยูเครนย้ายออก

ภูเก็ต — ผู้จัดการคอนโดมิเนียมแห่งหนึ่งในพื้นที่ตำบลวิชิต อำเภอเมือง จังหวัดภูเก็ต ถึงกับตะลึงงัน เมื่อเปิดห้องพักที่ปล่อยเช่าให้นักท่องเที่ยวชาวยูเครนอยู่นานกว่า 1 ปี พบสภาพห้องถูกทำลายเสียหายทั้งห้อง ประเมินค่าเสียหายเบื้องต้นกว่า 350,000 บาท (ประมาณ 10,490 ดอลลาร์สหรัฐ)

ทางด้าน พันตำรวจโท วัชรกร สุวรรณ รองผู้กำกับการ (สอบสวน) สภ.วิชิต เปิดเผยว่า คุณวรินรัตน์ อายุ 39 ปี ผู้จัดการคอนโดฯ ในพื้นที่ตำบลวิชิต ได้เดินทางเข้าแจ้งความดำเนินคดีกับ Miss Anastasia นักท่องเที่ยวชาวยูเครน ซึ่งเป็นผู้เช่าห้องดังกล่าว และเชื่อว่าเป็นผู้ที่ก่อเหตุทำลายทรัพย์สิน

ภาพถ่ายที่เจ้าของห้องนำมาโพสต์ในเฟซบุ๊กก่อนเข้าแจ้งความ เผยให้เห็นสภาพผนังและเพดานสีครีมขาว ถูกขีดเขียนด้วยสีฟ้าและสีเขียวอย่างเละเทะ บางจุดมีการวาดสัญลักษณ์อวัยวะเพศชาย และเหนือเตียงนอนมีการเขียนคำว่า “SWINDLE” (โกง) นอกจากนี้ เตียงนอน หมอน ผ้าห่ม และผ้าม่าน ยังถูกกรีดทำลายจนนุ่นกระจายเกลื่อนห้อง

คุณวรินรัตน์ให้การว่า นักท่องเที่ยวชาวยูเครนคนดังกล่าวได้เช่าห้องพักมาตั้งแต่วันที่ 15 เมษายน 2564 ตามสัญญาเช่า 1 ปี ซึ่งจะครบกำหนดวันที่ 15 เมษายน 2565 แต่นักท่องเที่ยวคนดังกล่าวกลับไม่ยอมย้ายออก จนกระทั่งตกลงว่าจะย้ายออกภายในวันที่ 29 เมษายน 2565 และนัดส่งมอบกุญแจคืนเวลา 16:00 น. แต่ปรากฏว่าเวลาประมาณ 15:00 น. นักท่องเที่ยวชาวยูเครนได้ส่งข้อความมาแจ้งว่าได้ออกจากห้องแล้ว และนำกุญแจไปทิ้งไว้ในถังขยะ

ต่อมา คุณวรินรัตน์พร้อมเพื่อนและเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยของคอนโดฯ ได้นำช่างกุญแจมาทำการเปิดประตูเพื่อเข้าตรวจสอบ เมื่อเปิดเข้าไปก็ต้องตกใจกับสภาพความเสียหายที่เกิดขึ้นทั้งห้อง อุปกรณ์ไฟฟ้าภายในห้องก็ถูกทำลายทั้งหมด โดยประเมินค่าซ่อมแซมและค่าแรงงานเบื้องต้นไว้ที่ประมาณ 350,000 บาท

เจ้าของห้องพักยังได้ตอบข้อสงสัยในโพสต์เฟซบุ๊ก หลังจากมีผู้สอบถามว่า ได้ปฏิเสธการคืนเงินมัดจำจำนวน 32,000 บาท (ประมาณ 960 ดอลลาร์สหรัฐ) ให้กับนักท่องเที่ยวชาวยูเครนหรือไม่ ตามข้อความที่ถูกเขียนไว้บนผนัง

เจ้าของระบุว่า “ไม่จริงเลย ไม่เคยพูดสักคำว่าจะไม่คืน ที่จริงตามสัญญาจะริบเงินมัดจำทั้งหมดก็ทำได้เลย เพราะผู้เช่าไม่ได้แจ้งย้ายออกล่วงหน้า 1 เดือนตามสัญญา และผู้เช่ายังค้างค่าเช่า ค่าน้ำ ค่าไฟ และค่าใช้จ่ายอื่นๆ ตามสัญญาที่ต้องหักออกก่อน จะให้คืนเงินมัดจำเต็มจำนวน 32,000 บาทได้อย่างไร”

พันตำรวจโท วัชรกร กล่าวว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังรวบรวมพยานหลักฐาน และตรวจสอบประวัติการเดินทางเข้าออกประเทศไทยของนักท่องเที่ยวคนดังกล่าว ซึ่งอยู่ระหว่างขั้นตอนการขออนุมัติหมายจับ และจะประสานไปยังเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมือง เพื่อตรวจสอบว่า Miss Anastasia ได้เดินทางออกจากประเทศไทยไปแล้วหรือยัง

สำหรับเหตุการณ์ความเสียหายที่เกิดขึ้น ทางผู้เสียหายยังไม่ทราบสาเหตุ หรือข้อสันนิษฐานว่าทำไมนักท่องเที่ยวชาวยูเครนถึงก่อเหตุเช่นนี้ หากกระบวนการทางกฎหมายพิสูจน์ได้ว่ากระทำความผิดจริง นักท่องเที่ยวรายนี้จะถูกขึ้นบัญชีดำ (Blacklist) ห้ามเข้าประเทศไทยอีกต่อไป

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *