อุบัติเหตุสลด! หนุ่มใหญ่ขี่ จยย. ชนท้ายเก๋งล้ม ถูกรถพ่วง 18 ล้อทับซ้ำ ดับคาที่กลางถนนเทพรัตนฯ สมุทรปราการ
สมุทรปราการ – อุบัติเหตุสะเทือนขวัญบนถนนเทพรัตนฯ หนุ่มใหญ่ขี่รถจักรยานยนต์มาตามทาง ก่อนพุ่งชนท้ายรถเก๋งที่จอดติดสัญญาณไฟ เสียหลักล้มลงกลางถนนเคราะห์ร้ายถูกรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อที่ขับตามมาทับร่างซ้ำเสียชีวิตคาที่ เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.บางแก้ว รุดตรวจสอบ พร้อมเร่งสอบสวนสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุสลดครั้งนี้
เมื่อเวลาประมาณ 17.00 น. ของวันที่ 30 เมษายน 2568 เจ้าหน้าที่ตำรวจสถานีตำรวจภูธรบางแก้ว จังหวัดสมุทรปราการ ได้รับแจ้งเกิดอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ชนท้ายรถยนต์นั่งส่วนบุคคล ทำให้ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เสียหลักล้มและถูกรถบรรทุกทับซ้ำจนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต เหตุเกิดบริเวณถนนเทพรัตน ช่องทางคู่ขนาน ฝั่งขาออกกรุงเทพฯ หลักกิโลเมตรที่ 14 ตำบลบางโฉลง อำเภอบางพลี จังหวัดสมุทรปราการ หลังรับแจ้งเหตุ เจ้าหน้าที่ตำรวจพร้อมด้วยกำลังเจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญู จึงรีบรุดเดินทางไปตรวจสอบที่เกิดเหตุทันที
ที่เกิดเหตุ เจ้าหน้าที่พบภาพอันน่าสลดใจ เมื่อพบร่างของผู้เสียชีวิตเป็นชายนอนคว่ำหน้าอยู่กลางถนน ทราบชื่อต่อมาคือ นายภิญโญ อายุ 39 ปี ชาวจังหวัดขอนแก่น โดยมีบาดแผลฉกรรจ์บริเวณศีรษะ คาดว่าเกิดจากการถูกล้อรถบรรทุกทับ ใกล้กันพบรถจักรยานยนต์ของผู้เสียชีวิตล้มคว่ำอยู่สภาพได้รับความเสียหาย ห่างออกไปเล็กน้อย เจ้าหน้าที่พบรถยนต์นั่งส่วนบุคคลยี่ห้อวอลโว่ สีดำ และรถบรรทุกพ่วง 18 ล้อ ซึ่งเป็นคู่กรณีในอุบัติเหตุครั้งนี้ จอดอยู่ในบริเวณใกล้เคียง
จากการสอบถามหญิงสาว ซึ่งเป็นผู้ขับขี่รถยนต์นั่งส่วนบุคคลวอลโว่ เล่าด้วยอาการตื่นตกใจว่า ตนเองขับรถมาตามเส้นทางปกติ เมื่อมาถึงจุดเกิดเหตุ สภาพการจราจรค่อนข้างหนาแน่น รถยนต์ที่อยู่ด้านหน้าได้ชะลอตัวและหยุดนิ่งเพื่อรอสัญญาณไฟหรือการจราจรที่เคลื่อนตัว ตนจึงได้จอดรถต่อท้ายรถคันหน้าตามปกติ ทันใดนั้น ตนรู้สึกว่ามีบางอย่างพุ่งเข้ามาชนที่บริเวณท้ายรถอย่างแรง เมื่อลงมาดูก็พบว่ามีรถจักรยานยนต์พุ่งชนท้ายรถของตน ก่อนที่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์จะเสียหลักล้มลงไปกลางถนน และเป็นจังหวะเดียวกับที่รถบรรทุกพ่วง 18 ล้อซึ่งขับตามมา ได้แล่นทับร่างของผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์เข้าอย่างจัง จนเป็นเหตุให้เสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที
ภายหลังจากตรวจสอบที่เกิดเหตุและรวบรวมพยานหลักฐานในเบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจได้ทำการบันทึกรายละเอียดของเหตุการณ์ทั้งหมดไว้เป็นหลักฐาน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ส่วนร่างของผู้เสียชีวิต เจ้าหน้าที่มูลนิธิร่วมกตัญญูได้ทำการเคลื่อนย้ายส่งไปยังสถาบันนิติเวช โรงพยาบาลรามาจักรีนฤบดินทร์ เพื่อทำการชันสูตรหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แน่ชัด ก่อนที่จะประสานญาติให้มารับศพกลับไปประกอบพิธีทางศาสนาต่อไป
เจ้าหน้าที่ตำรวจจะเรียกผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด รวมถึงพยานผู้เห็นเหตุการณ์ (ถ้ามี) มาให้ปากคำเพิ่มเติม เพื่อให้ได้ข้อมูลที่ครบถ้วนสมบูรณ์ และสรุปหาสาเหตุที่แท้จริงของการเกิดอุบัติเหตุสลดในครั้งนี้ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป