ธรรมศาสตร์ ประกาศความพร้อมรับมือ ‘สังคมสูงวัย’ เปิดตัวโครงการ ‘TU Care & Ageing Society’ ผนึกทุกภาคส่วนดูแลประชาชน

กรุงเทพมหานคร – มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ (มธ.) เดินหน้าเต็มตัวรับมือความท้าทายของสังคมสูงวัย จัดงานแถลงข่าว KICK OFF โครงการ “TU Care & Ageing Society ‘ธรรมศาสตร์’ เพื่อนร่วมทางสังคมสูงวัย” ประกาศความพร้อมในการบูรณาการทรัพยากรจากหลากหลายคณะและหน่วยงานภายใต้ค่านิยม ONE TU เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสนับสนุนด้านบริการวิชาการ บริการสังคม และการสื่อสารสังคม แก่ประชาชน ณ มิวเซียมสยาม เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา

ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ ชัชวาลย์ อธิการบดีมหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ เปิดเผยถึงความจำเป็นเร่งด่วนในการรับมือกับสถานการณ์สังคมสูงวัยอย่างสมบูรณ์ที่ประเทศไทยได้ก้าวเข้าสู่มาแล้วตั้งแต่ 2 ปีก่อน และคาดการณ์ว่าในอีก 10-15 ปีข้างหน้า ประชากรไทยกว่า 20 ล้านคน หรือประมาณ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมดจะเป็นผู้สูงอายุ สถานการณ์นี้ส่งผลโดยตรงต่อสัดส่วนประชากรวัยทำงานที่ลดลง กระทบต่อกำลังการผลิต ความสามารถในการแข่งขัน ความท้าทายทางการคลัง การจัดเก็บภาษี และการจัดสวัสดิการภาครัฐ

“นักศึกษาที่จะจบการศึกษาในอนาคตอันใกล้จะต้องเผชิญกับภาระที่หนักอึ้งกว่าคนยุคปัจจุบันอย่างมาก เพราะนอกจากจะต้องดูแลชีวิตตนเองแล้ว ยังต้องมีรายได้เพื่อดูแลผู้สูงอายุ และทำหน้าที่พลเมืองอย่างเต็มที่ นี่คือเหตุผลที่ธรรมศาสตร์ต้องเร่งพัฒนาทักษะนักศึกษาให้แข็งแกร่งที่สุด และในฐานะมหาวิทยาลัยเพื่อประชาชน เรามีหน้าที่และความรับผิดชอบโดยตรงต่อโจทย์ใหญ่ของประเทศนี้ เราพร้อมระดมทุกสรรพกำลังและทรัพยากร เพื่อเป็นกำแพงพิงหลังให้ประชาชน” ศ.ดร.ศุภสวัสดิ์ กล่าวเน้นย้ำ

อธิการบดีธรรมศาสตร์ยังกล่าวเพิ่มเติมว่า นอกเหนือจากความเป็นเลิศด้านการเมืองการปกครอง ซึ่งเป็นรากฐานที่แข็งแกร่ง ทุกวันนี้ธรรมศาสตร์มีความเข้มแข็งในทุกสาขาวิชา โดยเฉพาะกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพ ซึ่งจะเข้ามาเป็นกำลังสำคัญในการขับเคลื่อนภารกิจภายใต้โครงการ TU Care & Ageing Society พร้อมด้วยโครงสร้างพื้นฐานระดับสูง ได้แก่:

  • โรงพยาบาลธรรมศาสตร์เฉลิมพระเกียรติฯ: กำลังยกระดับขีดความสามารถรองรับผู้ป่วยได้ถึง 1,000 เตียง
  • ศูนย์ธรรมศาสตร์ธรรมรักษ์: ศูนย์ให้การดูแลผู้สูงอายุระยะสุดท้ายแห่งแรกของประเทศที่ดูแลโดยโรงเรียนแพทย์
  • โครงการ EEC Md: บนพื้นที่กว่า 585 ไร่ ที่จะพัฒนาเป็น The Health and Wellness Innopolis และต้นแบบ Medical Valley ของประเทศ
  • ศูนย์พัฒนาธุรกิจและการดูแลสังคมสูงอายุ (ABCD Centre): ให้การสนับสนุนด้านต่างๆ

ด้าน รศ.ดร.อรรถสิทธิ์ พานแก้ว ผู้ช่วยอธิการบดีฝ่ายกิจการพิเศษ มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ ได้กล่าวถึงรายละเอียดโครงการ TU Care & Ageing Society ว่า โครงการนี้จะนำเอาจิตวิญญาณของความเป็นธรรมศาสตร์ผสานเข้ากับการดูแลผู้สูงอายุ ผ่านกิจกรรมหลัก 4 ด้าน คือ การให้บริการวิชาการ การให้บริการสังคม การฝึกอบรมพัฒนาทักษะ และการสื่อสารสังคม

สำหรับเฟสแรกในปี 2568 ธรรมศาสตร์จะร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับจังหวัดปทุมธานี ซึ่งเป็นที่ตั้งของศูนย์รังสิต โดยมีแผนปฏิบัติการ (ACTION PLAN) ดังนี้:

  • ระดับนโยบาย: ทำงานร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดปทุมธานี (อบจ.ปทุมธานี) กำหนดพื้นที่ Sandbox เพื่อสำรวจความต้องการและปัญหาในการดูแลผู้สูงอายุระดับชุมชน จากทั้งผู้ปฏิบัติงานด่านหน้าและประชาชนในชุมชน จากนั้นจะนำข้อมูลเข้าสู่เวที Policy Dialogue เพื่อสังเคราะห์เป็นข้อเสนอเชิงนโยบายให้กับ อบจ.ปทุมธานี และเป็นโจทย์ให้ธรรมศาสตร์นำทรัพยากรเข้าไปสนับสนุนการแก้ไขปัญหาต่อไป
  • ระดับพื้นที่: นำองค์ความรู้ คณาจารย์ และงานวิจัย เข้าไปพัฒนาศักยภาพบุคลากรในจังหวัดปทุมธานี ผ่านการ Up-Skill ผู้ดูแลผู้สูงอายุโดยตรง เช่น Caregiver, อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน (อสม.) รวมถึงให้องค์ความรู้และเตรียมความพร้อมพื้นฐานในการดูแลผู้สูงอายุแก่ประชาชนทั่วไปในชุมชน ด้วยหลักสูตรที่ออกแบบโดยกลุ่มสาขาวิชาวิทยาศาสตร์สุขภาพของธรรมศาสตร์ นอกจากนี้ยังจะสนับสนุนกระบวนการสร้างภูมิคุ้มกันทางจิตใจและฟื้นฟูพลังใจให้กับผู้ปฏิบัติงานด่านหน้า ซึ่งเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างคุณภาพชีวิตที่ดีให้กับผู้สูงอายุ

นอกจากนี้ โครงการ TU Care & Ageing Society ยังให้ความสำคัญกับการสื่อสารสังคมและขยายความร่วมมือกับเครือข่ายสื่อมวลชน เพื่อร่วมกันเผยแพร่ความสำเร็จ โมเดลต้นแบบ และนวัตกรรมต่างๆ ที่เกิดขึ้น ทั้งในส่วนของธรรมศาสตร์และจังหวัดปทุมธานี เพื่อให้เกิดการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ สร้างแรงบันดาลใจ และนำไปปรับใช้ในชุมชนอื่นๆ ทั่วประเทศต่อไป.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *