ปิดฉากลงอย่างยิ่งใหญ่สำหรับการแข่งขันฟุตบอลไทยลีก ฤดูกาล 2024-25 นัดสุดท้ายของฤดูกาล เมื่อวันที่ 30 เมษายน ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการตัดสินแชมป์ระหว่างสองทีมยักษ์ใหญ่ โดย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด และ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต่างลงสนามพร้อมกันเพื่อแย่งชิงตำแหน่งจ่าฝูง

สถานการณ์ก่อนเกมนัดสุดท้าย บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด มีแต้มนำหน้า ทำให้ต้องการเพียงชัยชนะก็จะการันตีแชมป์ทันทีโดยไม่ต้องสนผลคู่ของ ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องบุกไปเยือน พีที ประจวบ เอฟซี ที่สนามสามอ่าว สเตเดียม

เกมที่สนามสามอ่าว สเตเดียม กลายเป็นเกมสุดดราม่า เมื่อ “ต่อพิฆาต” พีที ประจวบ เอฟซี เจ้าบ้าน ทำผลงานได้อย่างยอดเยี่ยมในครึ่งแรก ยิงนำ “แข้งเทพ” ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ไปก่อนถึง 2 ประตู จากฝีเท้าของ คริกอร์ โมราเอส ในนาทีที่ 14 และ สหรัฐ กันยะโรจน์ ในนาทีที่ 26 ทำให้จบครึ่งแรก พีที ประจวบ เอฟซี นำอยู่ 2-0

เข้าสู่ครึ่งหลัง ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ที่ต้องการประตูอย่างยิ่งยวดเพื่อหวังปาฏิหาริย์ในการลุ้นแชมป์ โหมบุกอย่างหนัก และสามารถพลิกสถานการณ์กลับมาแซงเอาชนะได้อย่างเหลือเชื่อ โดยยิงคืน 4 ประตูรวด จาก รุ่งรัฐ ภูมิจันทึก นาทีที่ 65, มาห์มูด เอด นาทีที่ 69, ลูกจุดโทษของ มูห์เซ็น อัล กาสซานี่ นาทีที่ 76 และประตูตอกย้ำชัยชนะจาก ฐิติพันธ์ พ่วงจันทร์ ในช่วงทดเวลาบาดเจ็บนาทีที่ 90+10 จบเกม ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด บุกมาเอาชนะ พีที ประจวบ เอฟซี ไปได้ 4-2 เก็บเพิ่มเป็น 69 คะแนน

อย่างไรก็ตาม ความหวังในการคว้าแชมป์ของ “แข้งเทพ” ก็ต้องสลายไป เมื่อผลการแข่งขันอีกคู่ปรากฏว่า บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด เปิดบ้านเอาชนะ หนองบัว พิชญ เอฟซี ไปได้ถึง 7-0 ทำให้เก็บเพิ่มเป็น 70 คะแนน

จากผลการแข่งขันทั้งสองคู่ ทำให้ บุรีรัมย์ ยูไนเต็ด คว้าตำแหน่งแชมป์ไทยลีก ฤดูกาล 2024-25 ไปครองได้สำเร็จ ถือเป็นแชมป์ลีกสมัยที่ 10 ของสโมสร พร้อมกับได้สิทธิ์เข้าร่วมการแข่งขันรายการ เอเอฟซี แชมเปี้ยนส์ลีก อีลิท ในฤดูกาลถัดไป ส่วน ทรู แบงค็อก ยูไนเต็ด ต้องผิดหวังอีกครั้ง จบฤดูกาลด้วยตำแหน่งรองแชมป์เป็นปีที่สองติดต่อกัน โดยมี 69 คะแนน

สำหรับทีมที่ต้องตกชั้นจากไทยลีกในฤดูกาลนี้ ได้แก่ ขอนแก่น ยูไนเต็ด, นครปฐม และ หนองบัว พิชญ เอฟซี