กรุงเทพฯ – กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) โดยกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เตรียมเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมระดับภูมิภาคอาเซียนครั้งสำคัญ เพื่อผลักดันประเด็น “น้ำบาดาล” ให้เป็นวาระสำคัญในกรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของอาเซียน

เมื่อวันที่ 30 เมษายน 2568 นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาล เป็นประธานในการแถลงข่าวการจัดประชุมระหว่างประเทศ ในหัวข้อ “การบริหารจัดการทรัพยากรน้ำบาดาล ในภูมิภาคอาเซียน (Regional Meeting on ASEAN Groundwater Resources Management)” ซึ่งจะจัดขึ้นระหว่างวันที่ 19 – 20 พฤษภาคม 2568 ณ โรงแรมสวิสโซเทล กรุงเทพฯ และมีกิจกรรมศึกษาดูงานในวันที่ 21 พฤษภาคม 2568 ณ จังหวัดฉะเชิงเทรา

การประชุมครั้งนี้มีวัตถุประสงค์หลักเพื่อเสริมสร้างความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียน ยกระดับองค์ความรู้ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ และแนวทางปฏิบัติที่ดีด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาล รวมถึงนำเสนอนวัตกรรมและเทคโนโลยีเพื่อการพัฒนาและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาลอย่างยั่งยืน โดยจะมีผู้แทนจากหน่วยงานด้านน้ำบาดาลของประเทศสมาชิกอาเซียน ผู้แทนเลขาธิการอาเซียน องค์กรระหว่างประเทศ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องด้านการบริหารจัดการน้ำของประเทศไทยเข้าร่วม

นายภาดล ถาวรกฤชรัตน์ เปิดเผยว่า น้ำบาดาลเป็นทรัพยากรที่มีความสำคัญอย่างยิ่งต่อความมั่นคงด้านน้ำของภูมิภาคอาเซียน แต่ที่ผ่านมาประเด็นนี้ยังไม่ได้รับความสนใจเท่าที่ควรในเวทีระดับภูมิภาค การประชุมครั้งนี้จึงถือเป็นก้าวสำคัญในการผลักดันให้การบริหารจัดการน้ำบาดาลเป็นวาระสำคัญในกรอบความร่วมมือด้านสิ่งแวดล้อมของอาเซียน เพื่อเสริมสร้างศักยภาพให้ทุกประเทศสามารถรับมือกับวิกฤตน้ำและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศได้อย่างมีประสิทธิภาพ

อธิบดีกรมทรัพยากรน้ำบาดาลยังกล่าวเพิ่มเติมถึงศักยภาพและความพร้อมของประเทศไทย โดยระบุว่า กรมทรัพยากรน้ำบาดาลของไทยมีความเชี่ยวชาญด้านธรณีวิทยา อุทกธรณีวิทยา วิศวกรรม และการใช้เทคโนโลยีที่ทันสมัยในการบริหารจัดการและอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำบาดาล นอกจากนี้ ยังมีกฎหมายสำคัญอย่างพระราชบัญญัติน้ำบาดาล พ.ศ. 2520 ที่เป็นกลไกสำคัญในการกำกับควบคุมการใช้น้ำบาดาลอย่างยั่งยืน ความสำเร็จของไทยในเวทีนานาชาติ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพในการเป็นผู้นำด้านการบริหารจัดการน้ำบาดาลในภูมิภาค

ผลจากการประชุมในครั้งนี้จะถูกนำเสนอต่อที่ประชุมคณะทำงานอาเซียนด้านการจัดการทรัพยากรน้ำ (AWGWRM) การประชุมเจ้าหน้าที่อาวุโสอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (ASOEN) และการประชุมรัฐมนตรีอาเซียนด้านสิ่งแวดล้อม (AMME) เพื่อให้ประเด็นเรื่องน้ำบาดาลได้รับการพิจารณาในระดับนโยบายของอาเซียน และสนับสนุนการบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs) โดยเฉพาะเป้าหมายที่ 6 ด้านน้ำสะอาดและสุขอนามัย

การเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมในครั้งนี้ จึงไม่เพียงแต่เป็นการสร้างเครือข่ายและความร่วมมือระหว่างประเทศสมาชิกอาเซียนเท่านั้น แต่ยังเป็นการแสดงบทบาทนำของประเทศไทยในการบริหารจัดการน้ำบาดาล และร่วมกับประเทศเพื่อนบ้านในการรับมือกับความท้าทายด้านวิกฤตน้ำและสิ่งแวดล้อมในอนาคต