กรุงเทพฯ – จากกรณีที่เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์อย่างกว้างขวางในสังคมออนไลน์และสื่อมวลชน เกี่ยวกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งปรากฏว่ามีชาวต่างชาติสัญชาติจีนรวมอยู่ด้วย จนนำไปสู่การถกเถียงถึงความเหมาะสม และที่สุดแล้วผู้ว่าราชการจังหวัดปราจีนบุรีได้มีคำสั่งยกเลิกการแต่งตั้งดังกล่าวในเวลาต่อมา

ล่าสุด วันที่ 30 เมษายน 2568 ความเคลื่อนไหวที่สำคัญได้เกิดขึ้นจากส่วนกลางของกระทรวงมหาดไทย เพื่อรับมือกับสถานการณ์และป้องกันประเด็นที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต

เมื่อเวลา 16.00 น. ของวันนี้ นายเชษฐา โมสิกรัตน์ รองปลัดกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติราชการแทนปลัดกระทรวงมหาดไทย ได้ลงนามในหนังสือคำสั่งด่วนที่สุด เลขที่ มท 0202.3/ว 3803 ส่งตรงถึงผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดทั่วประเทศ

เนื้อหาของคำสั่งดังกล่าว ระบุให้ผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด เร่งดำเนินการรายงานข้อมูลการแต่งตั้งที่ปรึกษาผู้ว่าราชการจังหวัดที่ดำเนินการอยู่ หรือที่เคยดำเนินการผ่านมา โดยให้กรอกรายละเอียดตามแบบฟอร์มที่กระทรวงมหาดไทยได้จัดเตรียมและแนบมาพร้อมกับหนังสือสั่งการฉบับนี้

กระทรวงมหาดไทย ชี้แจงถึงวัตถุประสงค์เบื้องหลังคำสั่งด่วนที่สุดนี้ว่า เพื่อเป็นการสำรวจและรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาของผู้ว่าราชการจังหวัดแต่ละจังหวัด เพื่อนำมาจัดทำเป็นฐานข้อมูลกลางของผู้บริหารในระดับจังหวัด การมีฐานข้อมูลดังกล่าวจะช่วยให้กระทรวงมหาดไทยสามารถบริหารจัดการ กำหนดแนวทาง หรือพิจารณาประเด็นที่เกี่ยวข้องกับการแต่งตั้งที่ปรึกษาได้อย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใสมากยิ่งขึ้นในอนาคต

สิ่งที่เป็นการเน้นย้ำถึงความเร่งด่วนของคำสั่งนี้ คือ กระทรวงมหาดไทยได้กำชับอย่างเด็ดขาด ให้ทุกจังหวัดดำเนินการกรอกข้อมูลและส่งรายงานตามแบบฟอร์มที่กำหนดกลับมายังกระทรวงมหาดไทย ภายในวันเดียวกันนี้ (วันที่ 30 เมษายน 2568) ภายในเวลา 16.30 น. ซึ่งหมายถึงการให้เวลาดำเนินการเพียง 30 นาทีเท่านั้น หลังจากที่หนังสือสั่งการได้ลงนามและน่าจะถูกส่งถึงจังหวัดต่างๆ ด้วยระบบการสื่อสารภายในที่รวดเร็ว แสดงให้เห็นถึงความสำคัญและความต้องการข้อมูลอย่างเร่งด่วนสูงสุดของกระทรวงมหาดไทยต่อประเด็นนี้

คำสั่งดังกล่าวถือเป็นมาตรการเชิงรุกของกระทรวงมหาดไทย ในการจัดการกับประเด็นละเอียดอ่อนที่เกี่ยวข้องกับการใช้อำนาจการแต่งตั้งที่ปรึกษาของผู้บริหารระดับสูงในส่วนภูมิภาค และสะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นในการสร้างความโปร่งใสและเป็นระบบในการบริหารงานราชการ