กรมอุตุฯ เตือนพายุฤดูร้อนถล่มไทยตอนบนต่อเนื่อง! 41 จังหวัดเสี่ยงภัย ฝนตกหนัก ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก ถึง 1 พ.ค. 68
กรุงเทพฯ – กรมอุตุนิยมวิทยายังคงออกประกาศเตือนภัยจากพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบนต่อเนื่องไปจนถึงวันที่ 1 พฤษภาคม 2568 โดยคาดว่าหลายพื้นที่จะยังคงได้รับผลกระทบจากพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง ลูกเห็บตก และอาจมีฟ้าผ่าเกิดขึ้นได้บางพื้นที่ รวมถึงมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคเหนือ
ประกาศฉบับที่ 14 (107/2568) จากกรมอุตุนิยมวิทยา ระบุว่า สถานการณ์ดังกล่าวมีผลกระทบต่อภาคเหนือ ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง เนื่องจากบริเวณความกดอากาศสูงจากประเทศจีนยังคงแผ่ลงมาปกคลุมประเทศเวียดนามและทะเลจีนใต้ ประกอบกับมีแนวพัดสอบของลมตะวันออกเฉียงใต้และลมตะวันตกเฉียงใต้พัดปกคลุมประเทศไทยตอนบน ซึ่งขณะนี้มีอากาศร้อนโดยทั่วไป อีกทั้งยังมีคลื่นกระแสลมฝ่ายตะวันตกจากประเทศเมียนมาเคลื่อนเข้าปกคลุมภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบน ปัจจัยเหล่านี้ล้วนเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดพายุฤดูร้อนขึ้น
จังหวัดที่คาดว่าจะได้รับผลกระทบในช่วงวันที่ 30 เมษายน – 1 พฤษภาคม 2568 รวมทั้งสิ้น 41 จังหวัด มีดังนี้
วันที่ 30 เมษายน 2568:
- ภาคเหนือ: จังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย ลำพูน ลำปาง พะเยา น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี ชัยภูมิ ขอนแก่น และนครราชสีมา
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท ลพบุรี สระบุรี และกาญจนบุรี
วันที่ 1 พฤษภาคม 2568:
- ภาคเหนือ: จังหวัดเชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง น่าน แพร่ อุตรดิตถ์ สุโขทัย กำแพงเพชร ตาก พิษณุโลก พิจิตร และเพชรบูรณ์
- ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ: จังหวัดเลย หนองคาย บึงกาฬ หนองบัวลำภู อุดรธานี สกลนคร นครพนม กาฬสินธุ์ มุกดาหาร ขอนแก่น มหาสารคาม ร้อยเอ็ด ยโสธร ชัยภูมิ และนครราชสีมา
- ภาคกลาง: จังหวัดนครสวรรค์ อุทัยธานี ชัยนาท และลพบุรี
กรมอุตุนิยมวิทยาขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระมัดระวังอันตรายจากพายุฤดูร้อนที่อาจเกิดขึ้น โดยหลีกเลี่ยงการอยู่ในที่โล่งแจ้ง ใต้ต้นไม้ใหญ่ สิ่งปลูกสร้าง และป้ายโฆษณาที่ไม่แข็งแรง นอกจากนี้ยังต้องระวังอันตรายจากฝนตกหนักและปริมาณฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจนำไปสู่ภาวะน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลากในบางพื้นที่
สำหรับเกษตรกร ควรเตรียมพร้อมรับมือ ด้วยการเสริมความแข็งแรงให้กับไม้ผล และเตรียมการป้องกันความเสียหายที่อาจเกิดขึ้นกับผลผลิตทางการเกษตรและสัตว์เลี้ยง
ในส่วนของภาคใต้ สถานการณ์ฝนลดลง เนื่องจากมีลมตะวันออกพัดปกคลุมอ่าวไทย ภาคใต้ และทะเลอันดามัน โดยอ่าวไทยและทะเลอันดามันมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร แต่บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นอาจสูงมากกว่า 2 เมตร จึงขอให้ชาวเรือในบริเวณดังกล่าวหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง
ส่วนสภาวะการสะสมของฝุ่นละออง/หมอกควันบริเวณภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือยังคงอยู่ในเกณฑ์เล็กน้อยถึงปานกลาง และมีแนวโน้มทรงตัว เนื่องจากมีโอกาสเกิดฝนตกในบางพื้นที่
ประชาชนสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและประกาศเตือนจากกรมอุตุนิยมวิทยาได้อย่างใกล้ชิด ผ่านทางเว็บไซต์ http://www.tmd.go.th หรือโทรศัพท์สอบถามได้ที่ 0-2399-4012-13 และสายด่วน 1182 ตลอด 24 ชั่วโมง