ชลบุรี, 30 เมษายน 2568 – กรมพัฒนาฝีมือแรงงาน (กพร.) กระทรวงแรงงาน เดินหน้ายกระดับทักษะแรงงานไทย จับมือ สมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (เอ็มโอยู) มุ่งเป้าผลิตช่างฝีมือคุณภาพสูง โดยเฉพาะ “ช่างเชื่อม” เพื่อรองรับความต้องการของตลาดแรงงานต่างประเทศ เตรียมส่งโกอินเตอร์สู่ประเทศเกาหลีใต้และอิสราเอล พร้อมเปิดโอกาสรับรายได้ที่น่าสนใจสูงถึง 70,000 บาทต่อเดือน

พิธีลงนามจัดขึ้น ณ ห้องประชุมอาคารครัวไทย สู่ครัวโลก สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี โดยมี นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดีกรมพัฒนาฝีมือแรงงาน และ น.ส.อรัญญา สกุลโกศล ประธานสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย เป็นผู้ลงนาม พร้อมด้วย นายโกเมศ ปิยะพันธุ์ ผู้ตรวจราชการ กพร. และ นางเบญจรงค์ สุระพันธ์ กรรมการสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย ร่วมเป็นสักขีพยาน

นายเดชา พฤกษ์พัฒนรักษ์ อธิบดี กพร. เปิดเผยว่า อุตสาหกรรมอู่ต่อเรือมีความสำคัญอย่างยิ่งต่อเศรษฐกิจและการคมนาคมของประเทศ และยังมีความต้องการแรงงานไทยที่มีทักษะฝีมือจำนวนมาก โดยเฉพาะช่างเชื่อมที่มีความเชี่ยวชาญ ซึ่ง กพร. มีภารกิจหลักในการพัฒนาและยกระดับฝีมือแรงงานให้ได้มาตรฐาน เพื่อตอบสนองความต้องการทั้งในและต่างประเทศ

อธิบดี กพร. กล่าวเพิ่มเติมว่า ในปี 2567 ที่ผ่านมา กพร. ได้ร่วมกับบริษัท HD Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. (HHI) ผลิตช่างเชื่อมสำหรับอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือไปแล้ว 108 คน และประสบความสำเร็จในการส่งแรงงานไทยเข้าทำงานกับบริษัท HHI ที่เกาหลีใต้จำนวน 73 คน ซึ่งได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทยในการประสานงานและจัดหางาน

“การลงนามความร่วมมือในครั้งนี้ มีเป้าหมายเพื่อยกระดับกลไกความร่วมมือระหว่าง กพร. และสมาคมฯ โดยในเบื้องต้น จะร่วมกันจัดฝึกอบรมหลักสูตรการเชื่อม FCAW 3G และ GTAW 6G ให้แก่แรงงานจำนวน 29 คน ที่สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงาน 3 ชลบุรี ซึ่งผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมทั้งหมดนี้ จะได้รับโอกาสเข้าทำงานกับบริษัท HD Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. (HHI) ที่สาธารณรัฐเกาหลี โดยมีรายได้เฉลี่ยคนละ 70,000 บาทต่อเดือน” นายเดชา กล่าว

นอกจากนี้ กพร. และสมาคมฯ ยังมีแผนขยายการผลิตช่างเชื่อมสำหรับอุตสาหกรรมอู่ต่อเรือไปยังจังหวัดอื่น ๆ ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 500 คน และในอนาคตจะร่วมกันพัฒนาทักษะกลุ่มช่างก่อสร้าง พร้อมทั้งขยายตลาดแรงงานไปยังประเทศอิสราเอล เพื่อสร้างโอกาสและเพิ่มรายได้ให้แก่แรงงานไทยอย่างต่อเนื่อง

ด้าน น.ส.อรัญญา สกุลโกศล ประธานสมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย กล่าวเสริมว่า ปัจจุบัน บริษัท HD Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. (HHI) ยังมีความต้องการช่างฝีมือสำหรับอุตสาหกรรมอู่ต่อเรืออีก 500 คน โดยให้รายได้เฉลี่ย 70,000 บาทต่อเดือน เช่นเดียวกับตลาดแรงงานในประเทศอิสราเอลที่มีความต้องการช่างฝีมือกลุ่มช่างก่อสร้างที่มีความเชี่ยวชาญหลากหลายด้าน (Multi Skills) เช่น ช่างเชื่อม ช่างปูน ช่างไม้ ช่างเหล็ก เป็นต้น จำนวนถึง 8,000 คน โดยเสนอรายได้เฉลี่ยสูงถึง 77,000 บาทต่อเดือน

น.ส.อรัญญา ย้ำว่า สมาคมฯ ในนามภาคเอกชน พร้อมร่วมขับเคลื่อนนโยบายของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน (นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ) ในการผลิตและส่งออกแรงงานสู่ตลาดต่างประเทศ ทั้งการเปิดตลาดใหม่และขยายตลาดเดิม ความร่วมมือนี้ใช้สถานที่ฝึกอบรมของสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานชลบุรี และสถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานสมุทรปราการ โดยได้รับการสนับสนุนอย่างดีจากบริษัท HD Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. ซึ่งได้ส่งครูฝึกจากเกาหลีใต้มาพร้อมอุปกรณ์การฝึกมูลค่ากว่า 40 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีการฝึกอบรมภาษาเกาหลีเพื่อการทำงาน มีเบี้ยเลี้ยงให้วันละ 700 บาท ค่าอาหารวันละ 150 บาท รวมเป็น 850 บาทต่อคนต่อวัน

ผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมและทดสอบฝีมือ จะได้เข้าทำงานกับบริษัท HD Hyundai Heavy Industries Co., Ltd. อย่างถูกต้องตามกฎหมายด้วยวีซ่าประเภท E-7 (วีซ่าสำหรับแรงงานมีทักษะฝีมือ) ซึ่งเป็นวีซ่าทำงานระยะเวลา 4 ปี และสามารถต่ออายุได้อีก 1 ปี

สำหรับผู้ที่สนใจเข้ารับการฝึกอบรม ต้องมีคุณสมบัติเป็นช่างที่มีประสบการณ์งานเชื่อม และผ่านการทดสอบฝีมือ สามารถติดต่อสอบถามรายละเอียดได้ที่ สมาคมนายจ้างส่งเสริมแรงงานไทย โทรศัพท์ 06 2091 6783 หรือไลน์ไอดี @wm.visa (มี @ นำหน้า) หรือติดต่อ บริษัทจัดหางาน เวิล์ด แม็ป จำกัด หรือสำนักงาน/สถาบันพัฒนาฝีมือแรงงานจังหวัดทั่วประเทศ