วิกฤตแม่น้ำกก: ชาวบ้าน 13 ชุมชนเชียงราย เดือดร้อนหนัก ปมน้ำปนเปื้อนสารหนู ร้องรัฐบาลเร่งแก้ หวั่นสุขภาพ-วิถีชีวิตพัง
เชียงราย – ชาวบ้านจาก 13 ชุมชนริมแม่น้ำกก จังหวัดเชียงราย ยื่นหนังสือถึงรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อเรียกร้องให้เร่งตรวจสอบและแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกปนเปื้อนสารพิษ โดยเฉพาะสารหนู ซึ่งส่งผลกระทบอย่างรุนแรงต่อสุขภาพ วิถีชีวิต และสิ่งแวดล้อมของชาวบ้านที่อาศัยและใช้ประโยชน์จากแม่น้ำสายนี้มาอย่างยาวนาน
เมื่อวันที่ 30 เมษายนที่ผ่านมา เครือข่ายสิทธิชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้นำหนังสือเข้ายื่นต่อผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย เพื่อสะท้อนความเดือดร้อนของชาวบ้านอย่างน้อย 13 ชุมชน ในพื้นที่ตำบลแม่ยาวและตำบลห้วยชมภู อำเภอเมือง จังหวัดเชียงราย รวมถึงชุมชนอื่นๆ ตลอดแนวแม่น้ำกก หลังได้รับแจ้งว่าห้ามสัมผัสกับน้ำในแม่น้ำกก เนื่องจากพบว่ามีการปนเปื้อนสารพิษ โดยเฉพาะสารหนูในปริมาณที่เกินมาตรฐาน
หนังสือร้องเรียนระบุถึงความวิตกกังวลและความเดือดร้อนที่เกิดขึ้นจริงในหลายมิติ:
- ผลกระทบต่อการดำรงชีวิต: ชาวบ้านไม่สามารถใช้น้ำจากแม่น้ำกกเพื่ออุปโภคบริโภค ทำการเกษตร หรือแม้แต่น้ำจากบ่อหรือน้ำบาดาลบริเวณริมน้ำ ซึ่งคาดว่าอาจได้รับผลกระทบไปด้วย
- ปัญหาด้านสุขภาพ: มีรายงานกรณีชาวบ้านในพื้นที่บ้านแคววัวดำ ตำบลแม่ยาว สัมผัสน้ำแล้วเกิดอาการผื่นคัน ซึ่งจนถึงขณะนี้อาการยังไม่หาย และไม่มีหน่วยงานใดเข้าตรวจสอบข้อเท็จจริง หรือตรวจสุขภาพของชาวบ้านเพื่อยืนยันว่ามีการสะสมของสารพิษในร่างกายหรือไม่
- แหล่งอาหารชุมชน: ชาวบ้านไม่สามารถจับสัตว์น้ำ เช่น ปลา หอย ปู กุ้ง หรือเก็บพืชผักริมน้ำ เช่น ผักกูด ผักหนาม ผักบุ้ง มาเป็นอาหารได้ตามปกติ เหมือนวิถีชีวิตดั้งเดิม เนื่องจากกลัวอันตรายจากสารพิษ
- ผลกระทบต่อการท่องเที่ยว: กิจกรรมท่องเที่ยวที่พึ่งพาแม่น้ำกก เช่น แพ ล่องเรือ ปางช้าง หรือโฮมสเตย์ริมน้ำ ไม่สามารถดำเนินไปได้ตามปกติ เนื่องจากผู้ประกอบการและนักท่องเที่ยวมีความหวาดกลัวเรื่องสารพิษ
- การสื่อสารและการแก้ไขปัญหาที่ล่าช้า: ชาวบ้านมองว่าการให้ข้อมูล การทำความเข้าใจกับชุมชน และการแก้ไขปัญหายังไม่ทั่วถึงและล่าช้า ทำให้เกิดความเดือดร้อนในด้านอื่นๆ ตามมา ที่ผ่านมา ชาวบ้านทราบเรื่องคุณภาพน้ำส่วนใหญ่จากข่าวสาร ซึ่งไม่ได้ตรวจสอบตะกอนดินที่เป็นแหล่งสะสมสารพิษ และยังไม่มีหน่วยงานใดยืนยันได้ชัดเจนว่าสารพิษนี้มีอยู่ก่อนแล้วหรือเพิ่งเกิดขึ้น
จากสถานการณ์วิกฤตดังกล่าว ชาวบ้านและเครือข่ายสิทธิชุมชนจังหวัดเชียงราย ได้ยื่นข้อเรียกร้องต่อรัฐบาลและผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงราย ดังนี้:
- เร่งตรวจสอบข้อเท็จจริง: ให้มีการตรวจสอบคุณภาพน้ำอย่างครอบคลุม ทั้งในแม่น้ำกก น้ำบ่อ/บาดาลริมน้ำ ตะกอนดินในแม่น้ำ และสารพิษในแปลงเกษตรหรือพื้นที่ที่เคยถูกน้ำท่วม
- แก้ไขปัญหาอย่างเร่งด่วน: ให้เร่งค้นหาและจัดการแหล่งที่มาของสารพิษ/สารหนูโดยด่วน พร้อมทั้งหาแนวทางช่วยเหลือชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบด้านแหล่งอาหาร และจัดการตรวจสุขภาพร่างกาย/หาสารหนูในชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบระยะยาว
- ความชัดเจนจากการประปา: ให้การประปาจังหวัดเชียงราย ชี้แจงต่อสาธารณชนถึงความปลอดภัยของน้ำประปาที่ใช้น้ำดิบจากแม่น้ำกก รวมถึงวิธีการกำจัดสารพิษที่อาจปนเปื้อน
- สร้างการมีส่วนร่วม: ให้จังหวัดเปิดโอกาสให้ตัวแทนประชาชนและผู้เดือดร้อนมีส่วนร่วมในกระบวนการแก้ไขปัญหาแม่น้ำกกอย่างแท้จริง
ชาวบ้านย้ำว่า ความเดือดร้อนนี้เป็นข้อเท็จจริงที่กำลังเกิดขึ้นกับผู้คนทุกชาติพันธุ์และคนเมืองที่พึ่งพาแม่น้ำกก และต้องการให้ภาครัฐเร่งเข้ามาจัดการปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพและโปร่งใส ก่อนที่วิกฤตนี้จะส่งผลกระทบต่อชีวิตความเป็นอยู่ของชุมชนริมน้ำกกอย่างรุนแรงยิ่งขึ้น