บุกรวบหนุ่มโรงงาน ปล่อยกู้ดอกเบี้ยโหด 280% ยึด ATM-ข่มขู่ประจานเพื่อนร่วมงาน

สมุทรสาคร – เจ้าหน้าที่ตำรวจ บก.ปอศ. บุกเข้าจับกุมหนุ่มโรงงานในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร หลังตั้งตัวเป็นนายทุนเงินกู้นอกระบบ เรียกเก็บดอกเบี้ยมหาโหดสูงถึงร้อยละ 280 ต่อปี พร้อมใช้วิธียึดบัตร ATM เงินเดือนของลูกหนี้เป็นหลักประกัน หากใครผิดนัดชำระเจอโพสต์ประจานผ่านโซเชียลมีเดีย สร้างความเดือดร้อนอย่างหนักให้กับเพื่อนร่วมงานจำนวนมาก

วันที่ 30 เมษายน 2568 พล.ต.ต.ทัศน์ภูมิ จารุปรัชญ์ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผบก.ปอศ.) ได้สั่งการให้ พ.ต.อ.เมฆพิศาล ศรีภิรมย์ ผู้กำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ผกก.5 บก.ปอศ.) และ พ.ต.ต.พิชญากร แตงรอด สารวัตร กองกำกับการ 5 กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (สว.กก.5 บก.ปอศ.) สนธิกำลังร่วมกันเข้าทำการจับกุมตัว นายเชิด (สงวนนามสกุล) อายุ 45 ปี

การจับกุมครั้งนี้เกิดขึ้นที่หอพักแห่งหนึ่งในพื้นที่ ต.โคกขาม อ.เมือง จ.สมุทรสาคร โดยแจ้งข้อหาดำเนินคดีกับนายเชิด ในความผิดฐานประกอบธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคลโดยไม่ได้รับอนุญาต, เรียกดอกเบี้ยเกินกว่าอัตราที่กฎหมายกำหนด และทวงหนี้ในลักษณะข่มขู่ ใช้ความรุนแรง พร้อมของกลางที่ตรวจยึดได้ประกอบด้วย โทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง, แท็บเล็ต 1 เครื่อง, สมุดจดบันทึกรายชื่อและยอดเงินลูกหนี้ 1 เล่ม และที่สำคัญคือ บัตร ATM ของลูกหนี้ถึง 26 ใบ

สืบเนื่องจากเจ้าหน้าที่ได้รับการร้องเรียนถึงพฤติกรรมของนายเชิด ซึ่งมีอาชีพหลักเป็นพนักงานในโรงงานแห่งหนึ่งในพื้นที่ จ.สมุทรสาคร แต่กลับใช้ช่องทางนี้ในการตั้งตัวเป็นนายทุนปล่อยเงินกู้นอกระบบให้กับเพื่อนร่วมงาน โดยคิดอัตราดอกเบี้ยที่สูงลิบลิ่วถึงร้อยละ 280 ต่อปี ซึ่งนับเป็นอัตราที่สูงกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้เป็นอย่างมาก

สำหรับวิธีการในการปล่อยกู้ของนายเชิดนั้น ผู้ที่ต้องการกู้ยืมจะต้องยินยอมให้นายเชิดยึดบัตร ATM เงินเดือนพร้อมรหัสบัตรไว้เป็นหลักประกันเงินกู้ ซึ่งสร้างความลำบากและเสี่ยงต่อการถูกนำเงินไปใช้โดยไม่ได้รับอนุญาตอย่างมาก หากลูกหนี้รายใดที่ถึงกำหนดชำระแล้วไม่สามารถจ่ายเงินต้นหรือดอกเบี้ยได้ตามที่ตกลงไว้ นายเชิดก็จะใช้บัตร ATM ที่ยึดไว้ไปกดเงินสดออกมาทันที หรือร้ายกว่านั้นคือจะใช้วิธีการโพสต์ข้อความประจานลูกหนี้ในสื่อสังคมออนไลน์ต่างๆ ทำให้ลูกหนี้เกิดความอับอายและได้รับความเดือดร้อนทั้งในชีวิตส่วนตัวและในที่ทำงาน

หลังจากเจ้าหน้าที่ตำรวจได้รวบรวมพยานหลักฐานจนแน่ชัดว่านายเชิดมีพฤติกรรมการกระทำผิดจริง จึงได้ขออำนาจศาลเพื่อเข้าตรวจค้นห้องพักของนายเชิด ก่อนจะพบหลักฐานการกระทำผิดจำนวนมากนำมาสู่การจับกุมตัวได้ในที่สุด

จากการสอบสวนเบื้องต้น นายเชิด ให้การรับสารภาพว่าได้ประกอบกิจการปล่อยเงินกู้นอกระบบจริง โดยทำมานานประมาณ 3-4 ปีแล้ว และเน้นปล่อยเงินกู้ให้กับเพื่อนร่วมงานภายในโรงงานเดียวกันเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งลูกหนี้ส่วนใหญ่ก็คือผู้ที่ตกเป็นเหยื่อในคดีนี้นั่นเอง

เบื้องต้น เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.5 บก.ปอศ. ได้ควบคุมตัวนายเชิด พร้อมของกลางทั้งหมดส่งพนักงานสอบสวน เพื่อดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป ซึ่งการจับกุมครั้งนี้ถือเป็นการตัดวงจรหนี้นอกระบบที่เอารัดเอาเปรียบประชาชน โดยเฉพาะผู้ใช้แรงงานที่มักตกเป็นเป้าหมายของผู้กระทำผิดในลักษณะนี้

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *