บรรยากาศเต็มไปด้วยความโศกเศร้า ณ ศาลาธรรมสังเวชวัดอรัญญาเขต เขตเทศบาลนครแม่สอด จังหวัดตาก เมื่อนายภรดล อายุ 32 ปี อาชีพไรเดอร์ พร้อมด้วยญาติพี่น้อง เดินทางเข้ารับศพ น.ส.อรพรรณ อายุ 34 ปี ภรรยา และลูกชายทั้งสองคน คือ เด็กชายวัย 8 ปี และเด็กชายวัย 4 ปี ซึ่งเสียชีวิตจากอุบัติเหตุรถเก๋งพุ่งชนท้ายรถจักรยานยนต์อย่างรุนแรง

เหตุการณ์สลดดังกล่าวเกิดขึ้นบริเวณจุดกลับรถบ้านหัวฝาย ถนนสายแม่สอด-อุ้มผาง ต.พระธาตุผาแดง อ.แม่สอด จ.ตาก จากภาพวงจรปิดเผยให้เห็นภาพขณะที่รถจักรยานยนต์ของ 3 แม่ลูกกำลังจอดรอเพื่อจะขับข้ามถนนในจุดกลับรถ แต่จู่ๆ กลับถูกรถเก๋งที่ขับตามมาด้วยความเร็วพุ่งเข้าชนท้ายอย่างจัง ทำให้ร่างของทั้งสามคนกระเด็นและเสียชีวิตในที่เกิดเหตุทันที

นายภรดล สามีผู้ตาย กล่าวทั้งน้ำตาว่า ตนเองอยู่กินกับภรรยามานานกว่า 10 ปี และมีลูกชายด้วยกัน 2 คนนี้ ตนยังทำใจกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นไม่ได้เลย ยังคงคิดถึงภรรยาและลูกๆ ตลอดเวลา ก่อนเกิดเหตุเพียงไม่กี่ชั่วโมง ตนยังได้โทรศัพท์พูดคุยกับภรรยา ไม่คิดเลยว่าจะเป็นการพูดคุยครั้งสุดท้ายในชีวิตคู่ ตนขอวอนให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ให้ความเป็นธรรมกับครอบครัวของตนด้วย

ด้าน นางวรรณา ปันเถิน อายุ 60 ปี แม่ของ น.ส.อรพรรณ ผู้ตาย กล่าวด้วยความเสียใจอย่างสุดซึ้งว่า ลูกสาวเป็นคนขยันทำมาหากินมาก และทุกครั้งที่เดินทางไปไหนก็จะพาหลานชายทั้งสองคนไปด้วยเสมอ ตนขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจเร่งดำเนินคดีกับคู่กรณีให้ถึงที่สุด และไม่สามารถอ้างว่าเป็นเพียงอุบัติเหตุธรรมดาได้ เพราะเหตุการณ์ครั้งนี้สร้างความสูญเสียให้กับครอบครัวของตนอย่างมหาศาล

ล่าสุด เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.แม่สอด ได้นำตัว นายประยงค์ อายุ 62 ปี คนขับรถเก๋งคู่กรณี ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในร่างกาย ซึ่งผลการตรวจยืนยันว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์สูงถึง 96 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ซึ่งเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไว้ เจ้าหน้าที่จึงได้แจ้งข้อหาดำเนินคดีในความผิดฐาน “เมาแล้วขับ” และ “ขับรถโดยประมาททำให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย” พร้อมส่งตัวให้พนักงานสอบสวน สภ.แม่สอด ดำเนินการตามขั้นตอนของกฎหมายต่อไป