โซเชียลฮือฮา! ขอทานหนุ่มหน้าหล่อ สวนกระแสโลก ไม่สนงานนายแบบ ประกาศเป็น “ขอทานมืออาชีพ”
สร้างความฮือฮาและเป็นที่พูดถึงอย่างมากในโลกออนไลน์ ขณะที่หลายคนอาจกำลังมองหางานที่มั่นคง แต่ชายหนุ่มคนหนึ่งในสหรัฐอเมริกากลับเลือกเส้นทางที่แตกต่างออกไป แม้จะมีรูปร่างหน้าตาที่โดดเด่นชวนให้เข้าใจผิดว่าเป็นนายแบบ
เรื่องราวนี้เริ่มต้นจากคลิปวิดีโอที่กลายเป็นไวรัลบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เผยให้เห็นภาพของชายหนุ่มรายหนึ่งที่กำลังยืนถือป้ายขอเงินผู้คนบนท้องถนนในรัฐแคลิฟอร์เนีย สหรัฐอเมริกา สิ่งที่ทำให้เขาแตกต่างและดึงดูดความสนใจคือ รูปร่างหน้าตาที่หล่อเหลาและบุคลิกที่ดูดีผิดวิสัย ‘ขอทาน’ ทั่วไป เขายืนพร้อมรอยยิ้มให้กับผู้ที่สัญจรไปมา หวังให้ผู้คนจอดรถและหยิบยื่นเงินช่วยเหลือ
ชายหนุ่มคนนี้มีชื่อว่า แบรด เลิฟ (Brad Love) เขาไม่ได้ปิดบังฐานะของตัวเอง ซ้ำยังประกาศอย่างเปิดเผยว่าเป็น “ขอทานมืออาชีพ” (Professional Beggar) ที่หารายได้จากการขอเงินตามท้องถนนเพื่อนำมาใช้จ่ายในชีวิตประจำวัน
ในส่วนของรายได้ แม้จะไม่สามารถระบุตัวเลขที่แน่นอนได้ในแต่ละวัน แต่ แบรด เคยให้ข้อมูลเมื่อปีก่อนว่า บางวันเขาสามารถหาเงินได้มากถึง 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือคิดเป็นเงินไทยประมาณ 3,300 บาทเลยทีเดียว และบางวันก็อาจได้ราว 60 ดอลลาร์สหรัฐฯ (ประมาณ 2,000 บาท) นอกจากนี้ เขายังยืนยันว่าตนเองไม่ได้เป็นคนไร้บ้าน แต่เลือกที่จะใช้ชีวิตและหาเงินในรูปแบบนี้
หลังจากที่วิดีโอของเขาถูกแชร์ออกไปในวงกว้าง ด้วยหน้าตาที่ดูดี หลายคนบนโลกโซเชียลต่างพากันเชียร์และแนะนำให้ แบรด ลองไปสมัครงานเป็นนายแบบ หรือลองเข้าสู่วงการบันเทิง เพราะมองเห็นถึงศักยภาพและโอกาสที่จะสร้างรายได้ที่มั่นคงกว่า
อย่างไรก็ตาม ดูเหมือนว่าข้อเสนอเหล่านี้จะยังไม่เข้าตา แบรด และเขาก็ยังไม่มีแผนที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตและวิธีการหาเงินของตัวเอง เขายังคงพอใจกับการเป็น ‘ขอทานมืออาชีพ’ และให้สัมภาษณ์อย่างตรงไปตรงมาถึงเหตุผลที่เลือกเส้นทางนี้ว่า:
“ผมเป็นขอทานมืออาชีพ ผมไม่อยากเป็นนายแบบ ไม่ต้องห่วงผม ผมไม่มีความสนใจที่จะหางานทำ ถ้าผมอยากได้งาน ก็จะไปหางานทำเอง ผมเคยเป็นพยาบาล แต่ผมไม่อยากทำแล้ว การขอทานง่ายกว่ามาก นี่คือสิ่งที่ผมอยากบอก ผมไม่อยากพูดแบบนี้นะ มีคนที่ไม่อยากทำงาน และผมก็เป็นหนึ่งในนั้น!”
คำกล่าวของ แบรด เลิฟ สะท้อนมุมมองที่แตกต่างอย่างสิ้นเชิงต่อการทำงานและการใช้ชีวิต สร้างทั้งความประหลาดใจและเสียงวิพากษ์วิจารณ์ในโลกออนไลน์
นอกจากนี้ แบรด ยังเปิดเผยอีกว่า การที่เขากลายเป็นคนดังบนโลกออนไลน์และวิดีโอของเขากลายเป็นไวรัลนั้น กลับส่งผลกระทบในทางลบต่อ ‘อาชีพ’ ของเขา ทำให้การหาเงินยากขึ้น เพราะเจ้าหน้าที่ตำรวจมักจะขอให้เขาย้ายออกจากพื้นที่เดิมๆ ที่เคยยืนอยู่เป็นประจำ และภาพลักษณ์ที่กลายเป็นไวรัลก็ยังทำให้ผู้คนมองเขาในมุมที่ “ดูแย่” มากกว่าเดิม
เรื่องราวของ แบรด เลิฟ จึงเป็นอีกหนึ่งปรากฏการณ์บนโลกโซเชียลที่สะท้อนให้เห็นถึงความหลากหลายในมุมมองและวิถีการใช้ชีวิตของมนุษย์ ที่บางครั้งอาจสวนทางกับค่านิยมและบรรทัดฐานของสังคมส่วนใหญ่
ที่มา: NY Post