สุดเศร้า! พ่อแม่ร่ำไห้รับศพ ‘น้องโน๊ต’ สาวสองเหยื่อหนุ่มจีนโหด จี้ประหารชีวิตคนร้าย เผยเพิ่งสร้างบ้านให้เสร็จ

หนองคาย – ครอบครัวและญาติพี่น้องของ ‘น้องโน๊ต’ สาวประเภทสองวัย 25 ปี ผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์ฆาตกรรมสะเทือนขวัญ ได้นำร่างกลับมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.หนองคาย ท่ามกลางความโศกเศร้าเสียใจของพ่อแม่ที่เพิ่งสูญเสียลูกสาวผู้เป็นเสาหลักและเพิ่งสร้างบ้านให้เสร็จเมื่อปลายปีก่อน ทั้งหมดเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตคนร้ายชาวจีนให้สาสมกับความโหดเหี้ยม

บรรยากาศที่บ้านกุดแกลบ หมู่ 4 ต.นาหนัง อ.โพนพิสัย จ.หนองคาย เมื่อวันที่ 29 เมษายน 2568 เต็มไปด้วยความโศกเศร้า นางชอน อายุ 60 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต และญาติ ๆ พร้อมด้วยเพื่อนของน้องโน๊ต ที่ทราบข่าวต่างเดินทางมาให้กำลังใจครอบครัวอย่างไม่ขาดสาย หลังจากที่นายวรนันท์ หรือ ‘น้องโน๊ต’ วัย 25 ปี ถูกฆาตกรรมอย่างโหดเหี้ยม

ขณะเดียวกัน นายอ้วน พ่อของน้องโน๊ต พร้อมด้วยพี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้เดินทางไปรับศพน้องโน๊ตจากพัทยา จ.ชลบุรี และได้นำร่างกลับมาถึงบ้านเกิดที่จังหวัดหนองคายแล้ว โดยได้นำศพไปตั้งบำเพ็ญกุศลที่วัดป่าประดิษฐ์ธรรม หรือวัดป่าบ้านกุดแกลบ เพื่อประกอบพิธีทางศาสนา ก่อนจะมีกำหนดฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.68)

นางชอน แม่ของน้องโน๊ต เล่าด้วยน้ำเสียงสะอื้นว่า ตนมีลูก 3 คน น้องโน๊ตเป็นลูกคนสุดท้อง หลังเรียนจบ ปวช. น้องโน๊ตได้ไปทำงานที่ประเทศไต้หวันเป็นเวลา 2 ปี และส่งเงินมาให้ทางบ้านอย่างสม่ำเสมอ หลังจากกลับจากไต้หวัน ก็ไปทำงานที่พัทยา จ.ชลบุรี ด้วยความมุ่งมั่นตั้งใจเก็บเงินจนสามารถสร้างบ้านหลังใหม่ให้กับพ่อแม่ได้สำเร็จ ซึ่งบ้านหลังนี้เพิ่งสร้างเสร็จและเข้าอยู่อาศัยเมื่อปลายปี 2567 ที่ผ่านมานี้เอง

นางชอนกล่าวต่อว่า ปกติแล้วน้องโน๊ตจะโทรศัพท์มาพูดคุยกับตนทุกวัน ไม่เคยขาด และเพิ่งกลับมาเยี่ยมบ้านช่วงเทศกาลสงกรานต์ที่ผ่านมา ก่อนจะเดินทางกลับไปทำงานที่พัทยาเมื่อวันที่ 22 เมษายน 2568 ที่ผ่านมา ตนเริ่มใจคอไม่ดีเมื่อไม่ได้รับการติดต่อจากน้องโน๊ตเพียง 1 วัน จนกระทั่งวันต่อมา มีคนโทรมาแจ้งข่าวร้ายว่าลูกเกิดเหตุร้าย รู้สึกตกใจและทำใจไม่ได้อย่างที่สุด

ผู้เป็นแม่ยังเล่าถึงคำพูดของลูกสาวเมื่อครั้งยังมีชีวิตอยู่ว่า น้องโน๊ตเคยพูดเล่น ๆ ว่า จะไปทำงานหาเงินไกล ๆ สัก 4-5 ปี ไม่กลับบ้าน ไม่คิดเลยว่าคำพูดนั้นจะเป็นลางบอกเหตุว่าลูกจะจากไปไกลแบบนี้จริง ๆ หลังทราบข่าวร้ายในช่วงบ่ายสามโมงของวันเกิดเหตุ ทั้งพ่อ แม่ ญาติพี่น้อง และเพื่อน ๆ ทุกคนต่างทำใจไม่ได้ รู้สึกแค้นใจมากที่คนร้ายทำกับลูกตนแบบนี้ ตอนนี้ยังไม่อยากรับรู้อะไรมากนัก แต่หลังจากนี้ก็ต้องพยายามใช้ชีวิตอยู่ให้ได้ แม้จะต้องอยู่โดยไม่มีลูกอยู่เคียงข้างอีกแล้วก็ตาม จะพยายามเข้มแข็งให้ถึงที่สุด

ด้านนายจักรพันธ์ เพื่อนสนิทของน้องโน๊ต ซึ่งเรียนด้วยกันมาตั้งแต่สมัย ปวช. ที่วิทยาลัยแห่งหนึ่งในจังหวัดอุดรธานี เล่าว่า น้องโน๊ตเป็นคนนิสัยดี เรียบร้อย ไม่ค่อยพูด เป็นที่รักของเพื่อน ๆ ทุกคน เป็นคนไม่มีพิษภัยกับใคร เป็นคนสวย จิตใจดี พอรู้ข่าวร้ายแทบช็อก ไม่คิดว่าเหตุการณ์โหดร้ายแบบนี้จะเกิดขึ้นกับเพื่อนสนิทของตนเอง จึงอยากร่วมเรียกร้องให้ลงโทษประหารชีวิตคนร้ายให้สาสมกับความโหดเหี้ยมผิดมนุษย์ที่ได้กระทำกับเพื่อนของตน

บรรยากาศภายในบริเวณวัดป่าประดิษฐ์ธรรม ซึ่งเป็นสถานที่ตั้งศพบำเพ็ญกุศล ญาติพี่น้องและเพื่อนฝูงต่างมาร่วมเตรียมงานและพูดคุยถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ทุกคนต่างแสดงความรู้สึกแค้นใจและคับแค้นใจถึงความโหดเหี้ยมของฆาตกร และต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า อยากให้ดำเนินคดีกับคนร้ายให้ได้รับโทษหนักที่สุด ไม่อยากให้คนร้ายหลุดรอดไปได้

ต่อมาเวลาประมาณ 17.30 น. รถตู้ของศูนย์ส่งกลับโรงพยาบาลตำรวจ ได้นำร่างของน้องโน๊ตมาถึงวัดป่าประดิษฐ์ธรรม ทันทีที่รถตู้มาถึง ญาติพี่น้องที่รออยู่ต่างปล่อยโฮออกมาด้วยความเสียใจ และพากันส่งเสียงสาปแช่งและก่นด่าฆาตกรเสียงดังเซ็งแซ่ไปทั่วบริเวณ

นายอ้วน พันนาขา พ่อของน้องโน๊ต ซึ่งร่วมเดินทางไปรับศพลูกสาวด้วยตนเอง กล่าวด้วยน้ำเสียงเศร้าสร้อยว่า ตลอดเส้นทางที่นำร่างลูกกลับบ้าน ไม่ว่าจะเป็นการจอดรถเข้าห้องน้ำ หรือจอดแวะกินข้าว ก็จะคอยบอกลูกตลอดว่ากำลังทำอะไรอยู่ แสดงความรักและความห่วงใยลูกตลอดเวลา

นายอ้วนกล่าวต่อว่า นี่เป็นการสูญเสียครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิต ที่ผ่านมาไม่ว่าลูกจะขอเงินเท่าไหร่ ทั้งหลักหมื่นหลักแสน ตนก็ไม่เคยถามว่าจะเอาไปทำอะไร พร้อมให้ลูกได้เสมอ เพราะน้องโน๊ตเป็นลูกที่ดี ดูแลครอบครัว ตอนนี้ไม่มีลูกอยู่แล้วก็ต้องพยายามอยู่ให้ได้ เดิมทีคิดว่าเมื่อนำร่างลูกมาถึงวัดก็จะทำพิธีฌาปนกิจเลยในวันนี้ แต่เนื่องจากยังมีเพื่อนและญาติอีกหลายคนที่ต้องการมาร่วมไว้อาลัย จึงได้ปรับแผนเป็นฌาปนกิจในวันพรุ่งนี้ (30 เม.ย.) แทน.

Leave a Reply

Your email address will not be published. Required fields are marked *